มาถึงแล้ว! Maserati MC20 เปิดตัวประเทศไทยที่แรกในอาเซียน-เริ่มต้น 21.5 ล้านบาท
มาเซราติ ประเทศไทย เผยโฉม MC20 ซูเปอร์คาร์รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของค่ายตรีศูลเป็นครั้งแรกในอาเซียน ในราคาเริ่มต้น 21.5 ล้านบาท ก่อนจะให้คนไทยได้สัมผัสคันจริงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-4 เม.ย. นี้ ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไปมาเซราติ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “MC20 เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของ Maserati ที่สะท้อนตัวตนและประวัติศาสตร์บนสนามแข่งได้เป็นอย่างดี ล่าสุดสามารถคว้ารางวัลซูเปอร์คาร์สวยที่สุดแห่งปี 2021 ‘Most Beautiful Supercar of the Year 2021’ ในงาน Festival Automobile International กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และซูเปอร์สปอร์ตคาร์ยอดเยี่ยม ‘Super Sports Car of the Year’ แห่งปี 2021 ในงาน GQ Car Awards 2021 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ”
โปรเจ็กต์ที่ให้กำเนิดซูเปอร์คาร์ที่เป็นแบบอย่างแห่งความยอดเยี่ยมในสไตล์อิตาเลียน MC20 ผ่านการออกแบบที่เมืองโมเดน่า และจะผลิตที่โรงงานเวียเล่ ชิโร่ เมน็อตติ สถานที่ผลิตรถยนต์ Maserati มาอย่างต่อเนื่องกว่า 80 ปี บนสายพานการผลิตที่สร้างขึ้นใหม่แทนที่ของเดิมที่เคยใช้ผลิตรุ่น GranTurismo และ GranCabrio ที่สิ้นสุดลงเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว รวมถึงมีห้องพ่นสีใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่เครื่องยนต์ Nettuno จะถูกประกอบขึ้นภายใน Maserati Engine Lab ที่เมืองโมเดน่า
เส้นสายพลิ้วไหวใส่ใจทุกรายละเอียด
อักษร MC ย่อมาจาก Maserati Corse ขณะที่ตัวเลข 20 มาจากปีที่เปิดตัว (2020) รูปลักษณ์ของ MC20 ใช้เวลาในการรังสรรค์ประมาณ 2 ปี ด้วยความร่วมมือตั้งแต่ต้นของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจาก Maserati Engine Lab และบรรดานักออกแบบจาก Maserati Style Centre
รูปลักษณ์ของ MC20 ถูกออกแบบให้สะท้อนถึงตัวตน และประวัติศาสตร์ของแบรนด์ หลอมรวมความงามสง่า สมรรถนะ และความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว การให้ความสำคัญกับสมรรถนะก็ส่งผลให้รถมีบุคลิกโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ขณะที่ประตูเปิดขึ้นแบบปีกผีเสื้อไม่เพียงงดงาม แต่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่โดดเด่นสามารถเข้า-ออกได้สะดวก
ระบบอากาศพลศาสตร์ผ่านการออกแบบ และปรับแต่งในอุโมงค์ลมที่ Dallara Wind Tunnel โดยใช้เวลาทั้งหมดกว่า 2,000 ชั่วโมง และการทดสอบ CFD (Computational Fluid Dynamics) กว่า 1,000 ครั้ง ซึ่งผลลัพธ์ก็น่าประทับใจดุจงานศิลป์เส้นสายตัวดูเรียบง่ายสะอาดตา โดยมีเพียงสปอยเลอร์หลังขนาดพอเหมาะที่ช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความงดงาม มาพร้อมค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำกว่า 0.38
ตัวถังมี 6 สีพิเศษที่ผลิตขึ้นสำหรับ MC20 โดยเฉพาะคือ สีขาว Bianco Audace, สีเหลือง Giallo Genio, สีแดง Rosso Vincente, สีน้ำเงิน Blu Infinito, สีดำ Nero Enigma และสีเทา Grigio Mistero สามารถสะท้อนจุดเด่นที่สำคัญของรถได้เป็นอย่างดี อาทิ การเป็นยนตรกรรมที่ผลิตในอิตาลี, บุคลิกสไตล์อิตาเลียน และความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมของ Maserati MC20 ผ่านการออกแบบให้รองรับทั้งตัวถังคูเป้, เปิดประทุน และเวอร์ชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน
ขุมพลังยุคใหม่ใส่เทคโนโลยีเอฟวัน
Nettuno นับเป็นขุมพลังบล็อกแรกของยุคใหม่แห่งค่ายตรีศูล เป็นเครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ ทวินเทอร์โบ 630 แรงม้า แรงบิด 730 นิวตันเมตร ที่มีเทคโนโลยีโดดเด่นจนได้รับสิทธิบัตรจากสถาบันนานาชาติเรียกว่า MTC (Maserati Twin Combustion) ซึ่งเป็นระบบสันดาปภายในอันล้ำสมัย ที่ผ่านการวิจัย และพัฒนาโดย Maserati จุดเด่นของเครื่องยนต์บล็อกนี้คือระบบเผาไหม้ช่วยเหลือเรียกว่า (Pre-chamber Combustion System) พัฒนาจากเทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูล่า วัน และนำมาใช้กับเครื่องยนต์ของซูเปอร์คาร์เป็นครั้งแรก ระบบห้องเผาไหม้ช่วยเหลือจะทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการจุดระเบิดในเครื่องยนต์เพื่อรีดแรงม้าได้อย่างเต็มกำลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดกว่า 325 กม./ชม. และนับเป็นเครื่องยนต์ที่ Maserati ผลิตขึ้นด้วยตนเองอีกครั้งหลังจากหยุดไปนาน 20 ปี
การใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ส่งผลให้รถมีน้ำหนักพิกัดที่ต่ำกว่า 1,500 กก. นับว่าเบามาก ขณะที่เครื่องยนต์ทรงพลัง 630 แรงม้า ก็ส่งผลให้รถคันนี้ มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าอยู่ที่ 2.33 กก./แรงม้า ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ความได้เปรียบด้านน้ำหนักเกิดจากการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบาย
ผู้ขับคือศูนย์กลางแห่งการควบคุม
เมื่ออยู่ในห้องโดยสารผู้ขับก็เป็นเสมือนจุดศูนย์กลาง โดยไม่มีสิ่งใดมารบกวนประสบการณ์ขับแบบสปอร์ต อุปกรณ์ทุกชิ้นผ่านการออกแบบและติดตั้งอย่างมีจุดประสงค์ เน้นดีไซน์เรียบง่าย ไร้สันคม เพื่อไม่ให้รบกวนสมาธิผู้ขับ ติดตั้งจออเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว บริเวณเรือนไมล์ และอีกตัวบริเวณกลางแดชบอร์ดสำหรับระบบ Maserati Touch Control Plus (MTC Plus MIA)
ขณะที่คอนโซลกลางตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ก็ดูเรียบง่ายพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่จำเป็น อาทิ จุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ปุ่มปรับ 5 โหมดการขับ (GT, Wet, Sport, Corsa และ ESC Off ที่ตัดการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพ), 2 ปุ่มเลือกความเร็วในการขับ, ปุ่มปรับกระจกไฟฟ้า และปุ่มควบคุม Multimedia System รวมถึงมีช่องเก็บของบริเวณใต้ที่พักแขน ส่วนปุ่มควบคุมอื่นๆ ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัย ขนาบข้างด้วยปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ทางซ้าย และปุ่ม Launch Control ทางขวา
ทั้งแนวคิด และรูปลักษณ์ของ MC20 ชวนให้นึกถึงรุ่น MC12 ที่นำพา Maserati กลับสู่สนามแข่งในปี 2004 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และก็เช่นเดียวกันกับรุ่นพี่อย่าง MC12 เจ้า MC20 ก็เปี่ยมด้วยดีเอ็นเอจากรถแข่งเสมือนเป็นการประกาศถึงความตั้งใจในการคืนสู่สังเวียนการแข่ง
ขณะที่ระบบ Virtual Vehicle Dynamics Development เป็นการทดสอบบนหนึ่งในซีมูเลเตอร์ที่ทันสมัยสุดในโลก ผลิตโดย Maserati Innovation Lab บนพื้นฐานของแท่นทดสอบอันซับซ้อนเรียกว่า Virtual Car วิธีนี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนารถยนต์กว่า 97 เปอร์เซ็นต์จากนั้นจึงนำรถต้นแบบไปปรับแต่งอย่างละเอียด ด้วยการวิ่งทดสอบบนถนน และสนามแข่ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ซึ่งเป็นแบบฉบับหรือวัฒนธรรมที่ยึดถือต่อเนื่องมายาวนาน
พบกับ Maserati MC20 ครั้งแรกในอาเซียน ที่บูธ Maserati (A5) ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้า และการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม-4 เมษายนนี้
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: มาเซราติ ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th