MAXIM Hold’em กับของเล่นชิ้นโปรด
เมื่อความชอบทำให้บางคนเดินออกจากกรอบเดิมๆ และใช้แรงบันดาลใจทั้งหมดที่มี สานต่อสิ่งนั้นจนประสบความสำเร็จ การได้รับการยอมรับจากคนที่อยู่แต่ในกรอบจึงเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธ วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับของเล่นชิ้นโปรดของ MAXIM Hold’emดีไซน์เนอร์เสื้อผ้ายีนส์ชื่อดังระดับโลก
“ผมคิดว่ารถเป็นของสะสม เป็นของเล่นที่แลกเปลี่ยน ส่งต่อให้กับคนที่ชอบเหมือนๆ กันได้”
แม็ค – กฤษฏา ปิณฑะเกษตริน เจ้าของแบรนด์ Hold’em แบรนด์แฟชั่นคนไทยที่โด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ ถือเป็นคนหนึ่งที่ใครหลายคนควรมองเป็นแบบอย่าง ทั้งความแตกต่างทางด้านความคิดในการทำงาน การใฝ่รู้ในสิ่งที่ตนเองรัก และลงมือทำทันที จากต้นทุน 100,000 บาทเมื่อสิบปีก่อน จนวันนี้กลายเป็นธุรกิจมูลค่ามหาศาลที่สร้างชื่อให้กับวงการแฟชั่นเมืองไทย
ซึ่งนอกจากความชอบในเรื่องแฟชั่นแล้ว เขายังเป็นผู้ชายที่หลงใหลในเรื่องรถยนต์ แต่ไม่ได้เจาะจงไปถึงสมรรถนะ แต่ชอบ ในการออกแบบ ตกแต่ง คัสตอม ในส่วนที่เขามองว่าสวย และมีสไตล์ตามแบบฉบับของใจที่เขารู้สึกว่าสวย เรียกว่าเป็นคนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นตั้งแต่เรื่องการแต่งตัว การใช้ชีวิต และรถยนต์ที่เขาเลือกใช้
GPI: ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง
MAX: ผมทำแบรนด์เสื้อผ้า Hold’em ครับ ซึ่งตรงนี้มันเริ่มต้นมาจากความชอบส่วนตัว ที่ผมเองชอบกางเกงยีนส์ แล้วตอนที่คิดจะมาทำคือ ลาออกจากมหาวิทยาลัย ลาออกจากที่ทำงาน โดยที่ไม่บอกที่บ้าน เพราะตอนที่ทำงานออฟฟิศ ผมรู้สึกเลยว่ามันไม่ใช่ชีวิตเรา ขนาดหัวหน้าผมดีมาก แต่การใช้ชีวิตแบบพนักงานออฟฟิศมันไม่ใช่ผมเลยจริงๆ แล้วผมเป็นคนที่นอนดึกมาก การทำงานออฟฟิศต้องตื่นเช้ามาก หลังจากนั้นเลยตัดสินใจออกจากที่ทำงานโดยที่ไม่บอกใคร ซึ่งพอผมออกมาทำแบรนด์ หลายคนก็พูดว่ากางเกงตัวละ แปดเก้าพัน ใครจะซื้อ ไม่มีใครทำแบบนี้ ซึ่งที่แพงเพราะผมเลือกแต่วัตถุดิบที่ดีๆ มาใช้ เป็นวัตถุดิบนำเข้า ตอนนั้นไม่ได้มีคนทำเลย
แต่ราคาที่แพงมันมีที่มาตอนนั้นผมชอบกางเกงญี่ปุ่น แล้วมีกางเกงเยอะมาก หลายแบรนด์ ผมก็ดึงเอาจุดเด่นแต่ละแบรนด์มารวมกัน แล้วออกมาเป็นตัวที่เราทำใส่เอง ผมศึกษาเองทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องแบบ เนื้อผ้า วัตถุดิบ ผมเข้าไปคลุกคลีอยู่กับที่โรงงานที่ญี่ปุ่นเลย เลิกงานก็ออกไปนั่งคุยกับเขา แฮงค์เอาท์กันจนเจ้าของโรงงานเอ็นดู แล้วให้คำแนะนำ
GPI: ราคาครั้งแรกที่เริ่มขายตัวละกี่บาท
MAX: ตอนนั้นทำออกมา 4 ตัว มีราคา 6,400 และ 8,900 บาท ครั้งแรกไม่ได้ขึ้นห้างด้วยนะครับ แต่เอาไปฝากขายร้านคุณป้าที่สยาม ขายไม่ได้เลย เพราะว่าร้านคุณป้าเป็นร้านขายผ้าไหม มีแค่เพื่อนๆ มาช่วยซื้อไม่กี่ตัว ปัจจุบันนี้ผมทำมาเก้าปีแล้ว ซึ่งสมัยนั้นเฟสบุคยังไม่ดังเลย มีแต่พวกเว็บบอร์ด พันธุ์ทิพย์ มากกว่า ตอนหลังมา สยามไฟไหม้ แล้วคุณป้าได้พื้นที่ขายของที่สยามมา โดยให้เช่าเดือนละ 8,000 บาท เขาเลยมาชวน ผมเลยไปเปิดร้านเองที่สยาม
ซึ่งสมัยนั้นกางเกงยีนส์ คนเขาจะไม่เคยได้ไปสัมผัส ถ้าไม่มีหน้าร้าน แต่พอมีหน้าร้านคนก็จะไม่ได้สัมผัสของจริง พอมีคนเข้ามา ก็ขายได้เรื่อยๆ วันแรกที่เปิดขายได้ 88 ตัว ตัวละ 8,000 ซึ่งผมทำมา 4 รุ่น เพราะว่าผ้าดีมาก และถ้าเทียบราคาแล้ว เนื้อผ้าแบบนี้ถ้าขายที่ญี่ปุ่นมันจะราคาหลักหมื่น แพทเทิร์นก็มาจากมาตรฐานคนไทย แล้วเป็นสไตล์ที่ผมชอบ แต่ถ้าเป็นแบรนด์ต่างประเทศขาจะยาว เอามาใส่แล้วไม่สวย แต่ของผมจะทำเพื่อคนไทยจริงๆ
GPI: การทำแฟชั่นลิงก์ไปกับการเลือกรถอย่างไร
MAX: น่าจะเป็นธรรมดาของเด็กผู้ชายนะครับที่ชอบเรื่องรถ ตอนนั้นผมจำได้เลยว่ามีโอกาสได้ทำตลาดที่ประเทศจีน พอโปรเจ็กนั้นสำเร็จ ก็ได้เงินจากจีนมาก้อนแรก ผมเอาไปซื้อ SLK ก่อนเลย ผมก็เด็กผู้ชายคนหนึ่ง พอมีเงินก็อยากจะได้รถที่ชอบ ซึ่งนั่นก็เป็นรถคันที่สองที่ซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง แต่ว่าคันแรกที่ซื้อใช้เองจริงๆ ตอนทำแบรนด์แรกๆ คือ Honda Accord แล้วก็ใช้มาได้พักหนึ่งถึงเปลี่ยนมาเป็น SLK ครับ
GPI: ย้อนกลับไป เริ่มชอบรถตั้งแต่เมื่อไหร่
MAX: จำได้ว่าสมัยเด็กๆ ที่โรงเรียนผม มีรุ่นพี่ที่ขับรถมาโรงเรียน ตอนนั้นเขาขับพวก Toyota Supra ขับ Honda Prelude เราก็ได้แค่มองว่า รถสวย เท่ เจ๋งมาก ผมก็คิดว่าสักวันผมอยากจะมีแบบนี้บ้าง แต่เอาเข้าจริงๆ ช่วงมัธยมก็ได้ขับแค่ Honda Civic ของคุณพ่อครับ ขอท่านมาใช้ขับไปโรงเรียน ซึ่งการฝึกขับรถตอนแรกเลยนี่ไม่ได้มีคนสอนผมขับรถด้วยนะ วันหนึ่งผมจำได้ว่าตื่นมา แล้วอยากขับรถ ผมหยิบกุญแจรถ แล้วขับออกมาเองได้เลย
GPI: ทำไมถึงชอบ Super Car
MAX: ผมว่าผู้ชายทุกคนแหละ แล้วภาพจำเราคือสมัยมหาวิทยาลัยมีเพื่อนขับ SLK แล้วเห็นแฟนเขาสวยมาก สมัยนั้นก็วัยรุ่นครับ เลยคิดแบบนั้น ซึ่งพอวันหนึ่งเรามีโอกาสได้ใช้ SLK ก็โอเคระดับหนึ่งนะ แต่ผมเป็นคนขี้เบื่อ หลังจากคันนี้เลยขยับมาเป็น Porsche 911 แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ผมไปใช้เงินฟุ่มเฟือย เปลี่ยนรถไปเรื่อย แต่ถ้าผมตั้งใจอยากได้อะไร ผมจะอดทนเก็บเงินเพื่อซื้อครับ
GPI: เหตุผลในการเลือกซื้อรถแต่ละคัน
MAX: ผมดูรูปจากอินสตาแกรม เห็นคันไหนสวย บวกกับมีดาราที่เราชอบใช้ ก็ชอบแล้วครับ แต่ถ้ามาถามเรื่องเครื่องยนต์ สมรรถนะอะไรพวกนี้ ผมไม่ได้รู้เรื่องเลยนะ เพราะผมไม่ใช่คนขับรถเร็ว เน้นแค่ว่าสวยแล้วชอบก็จะเลือก
GPI: รถคันที่ใช้ปัจจุบัน
MAX: Ferrari 488 Spider คันนี้ ต้องเท้าความว่า หลังจากที่ได้ Porsche 911 มา ผมก็ไปจอง Lamborghini Huracan แล้วไม่ได้ แต่อยากได้มากๆ ตอนนั้น ปรากฏว่ามีเพื่อนที่ อัสสัมชัญไปซื้อมาใช้ แล้วเขาขับไป 600 กิโล แล้วเขาไม่ชอบ เลยคุยกันว่าผมจะซื้อต่อ เลยได้ใช้ Huracan มาสองปี แล้วผมก็เบื่อ ซึ่งจริงๆ ผมเป็นคนขี้เบื่อนั่นแหละ ก็เลยขายแล้วเอา Ferrari 488 Spider คันนี้มา ซึ่งผมชอบรถเปิดประทุน ปกติผมใช้พวกนี้ ผมก็ขับเปิดประทุนตลอด แต่ว่าจะออกตอนเย็นๆ ค่ำๆ เพราะชีวิตตื่นก็บ่ายๆ แล้ว สำหรับคันนี้ผมชอบที่เปิดประทุน แล้วแต่งมาเต็มแล้ว ผมชอบรถแต่ง ซึ่งไม่ใช่แนวแต่งเครื่องยนต์นะ แต่จะชอบในการแต่งพาร์ทต่างๆ ของรถให้ออกมาสวยแบบที่เราชอบมากกว่า
อีกคันคือ Porsche Cayenne ซึ่งล้อสั่งทำมาเป็นพิเศษ ผมว่าคันนี้ขับดีมาก ส่วนตัวผมชอบ Porsche มาก ขับดี ขับสบาย นุ่ม ปัญหาไม่จุกจิก ค่าเซอร์วิสไม่ได้แพงมาก ผมชอบ 911 ตอนนั้นมาก แต่คิดว่ารถเอสยูวีเหมาะกับครอบครัวมากกว่า ซึ่งคันนี้บ่งบอกความเป็นตัวผมมากที่สุด ล้อสีส้มใครจะกล้าใส่ ล้อแมกซ์นี้เป็นแบรนด์สตรีทจากอเมริกา ชื่อแบรนด์ วีโรน เป็นแบรนด์ที่เขาร่วมกับนักร้องฮิพฮอพที่ผมชอบ อยากได้มากครับ แต่พอรวมราคาเข้ามาไทยแล้วล้านกว่าบาท เฉพาะตัวล้ออย่างเดียว ผมเลยเลือกที่จะคัสตอมเองให้คล้ายที่สุด ถูกกว่าเยอะหน่อย แล้วออกมาคล้ายกัน
GPI: รถในฝันที่อยากได้
MAX: McLaren 720 ครับ ฝันของผมจะไม่ใช่ฝันที่เวอร์จนจับต้องไม่ได้ เราต้องคว้ามาได้ด้วย ซึ่งเดี๋ยวก็กำลังจะขาย 488 คันนี้แล้วครับ แล้วเอา 720 มาแทน มากกว่า 720 ก็ไม่อยากได้อะไรแล้ว ผมชอบขับรถที่เบาะมันนั่งสบายมากว่า
GPI: เปรียบรถเป็นอะไรในชีวิต
MAX: ผมคิดว่ามันเป็นของสะสม เป็นของเล่นที่แลกเปลี่ยน ส่งต่อให้กับคนที่ชอบเหมือนๆ กันได้ เพราะรถยิ่งเก็บราคาก็ยิ่งตก ซึ่งส่วนตัวผมชอบเก็บอะไรที่ราคาขึ้นมากกว่า อยากสะสมนะรถ ไม่อยากขายหรอกที่จริง แต่ยิ่งเก็บไว้นานราคายิ่งตกเยอะ
GPI: ฝากถึงคนใช้รถใช้ถนน
MAX: จริงๆ รถแรงไม่จำเป็นต้องขับเร็วนะครับ เพราะมันไม่ใช่แค่เราเดือดร้อน แต่คนอื่นก็ต้องมาเดือดร้อนไปเพราะเราด้วย อันตรายครับ อยากให้ขับกันอย่างระมัดระวัง
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
ภาพ : GiGi Blockshot
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th