Mazda สร้างเซอร์ไพรส์ Iconic SP โชว์สุดยอดเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต

Mazda โชว์สุดยอดเทคโนโลยีแห่งอนาคต Multi-solution นำรถต้นแบบ Mazda Iconic SP และรถไฟฟ้า Mazda6e จัดแสดงครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่แน่นบูธ
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, วันที่ 24 มีนาคม 2568 – Mazda สร้างเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้ชาวไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก โชว์สุดยอดเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ตามแนวทาง Multi-solution จัดแสดงนวัตกรรมใหม่ 2 รุ่น นำโดย Mazda Iconic SP คอนเซ็ปต์คาร์ของรถสปอร์ตคอมแพ็ค ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รองรับการใช้พลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ และ Mazda6e รถยนต์ไฟฟ้า 100% BEV รุ่นแรกจากมาสด้า ตอกย้ำจุดยืนในการส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมเปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นยอดนิยม New Mazda2 Essential โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่าและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังแนะนำ New Mazda MX-5 35th Anniversary Edition รถสปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นพิเศษที่เฉลิมฉลองการครบรอบ 35 ปี แบรนด์ไอคอนเจ้าตำนานความสนุกสนานในการขับขี่มาอวดโฉมพร้อมเปิดให้จองเป็นเจ้าของ ควบคู่กับรถยนต์มาสด้าครบทุกรุ่น ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance ฟรีบัตรน้ำมันสำหรับเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัว มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท และฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ MUS นานสูงสุด 7 ปี ณ บูธมาสด้า ในงาน มอเตอร์ โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มี.ค. 68 – 6 เม.ย. 68 นี้ ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือรับข้อเสนอเดียวกันนี้ได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มาสด้าได้มุ่งมั่นเพื่อยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ให้กับลูกค้าของเรา เพราะเราเชื่อว่าความสุขในการขับขี่รถยนต์ จะนำมาซึ่งความสุขในการใช้ชีวิต และในปีนี้ มาสด้าพร้อมที่จะถ่ายทอดวิสัยทัศน์นี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการนำกลยุทธ์การบริหารงานโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท และแนวคิดที่เชื่อว่าในทุกรายละเอียดของชีวิต มีความสุขขับเคลื่อนเราเสมอ หรือ “Joy Drives Lives” มาใช้ในการสร้างประสบการณ์ลูกค้าในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับความสุขและได้รับประสบการณ์ที่ดีจากแบรนด์มาสด้า ควบคู่กับการมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าของเราทั้งในวันนี้และในอนาคต
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ มาสด้าจึงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวทาง Multi-solution เพื่อส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่มาพร้อมพลังงานทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าทั่วโลก รวมถึงลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งในขณะนี้ เราอยู่ในช่วงเฟสที่ 2 ระหว่างปี 2025-2027 ซึ่งเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานไฟฟ้า ด้วยการนำเสนอทั้งรถยนต์ ประเภท xEVs, Hybrid, Plug-in Hybrid และรถไฟฟ้า BEV เข้าสู่ตลาด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและสร้างความยั่งยืนให้กับโลก สังคม และผู้คน เพื่อส่งมอบให้กับผู้คนในเจนเนอเรชั่นถัดไป
สำหรับไฮไลท์สำคัญของบูธมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ 2025 นี้ มาสด้าได้นำยนตรกรรมที่ได้รับการพัฒนาตามแนวทาง Multi-solution เพื่อนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ที่มาพร้อมพลังงานทางเลือกที่หลากหลาย มาให้ลูกค้าได้รับชมและสัมผัสเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ประกอบไปด้วย
- MAZDA ICONIC SP ยานยนต์ต้นแบบสปอร์ตคอมแพ็คคาร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยใช้เครื่องยนต์โรตารี่ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาสด้า แบบ 2 โรเตอร์ ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ รองรับการใช้พลังงานหลากหลายรูปแบบ อาทิ พลังงานไฮโดรเจน และพลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะพลังงานที่ได้จากธรรมชาติ อาทิ สาหร่ายขนาดเล็ก หรือเปลือกหอย ซึ่งยังคงถ่ายทอดเอกลักษณ์แบรนด์มาสด้าไว้อย่างเต็มเปี่ยม มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ น้ำหนักเบา กระจายน้ำหนัก 50:50 พร้อมการออกแบบตามแนวทาง Kodo Design รวมถึงการขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับรถ ตามปรัชญา จินบะ-อิไต ที่พัฒนาขึ้นโดยยึดหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกสนานในการขับขี่ พร้อมได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับยุคของพลังงานไฟฟ้า เพื่อถ่ายทอดปณิธานความสุขในการขับขี่ของมาสด้า โดยรถต้นแบบคันนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา เพื่อฟื้นตำนานรถสปอร์ตเครื่องยนต์โรตารี่ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และนำเสนอพลังงานทางเลือกหลากหลายรูปแบบให้กับลูกค้า
สีภายนอก “VIOLA RED” ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นตามความปรารถนาของมาสด้าที่จะ “เชิดชูสีแดง” และสอดคล้องกับปรัชญาในการ “ยกระดับประสบการณ์ความสุขในการขับขี่ และการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน” โดยมุ่งเน้นไปที่สีสันที่สดใส แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความสง่างามของมิติของตัวรถที่เกิดจากแสงและเงาที่ตกกระทบลงบนตัวรถ
ข้อมูลจำเพาะเบื้องต้นของ MAZDA ICONIC SP
ความยาว x ความกว้าง x ความสูง (มม.) | 4,180 × 1,850 × 1,150 |
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,590 |
อัตราส่วน แรงม้า – น้ำหนัก | 3.9 |
แรงม้าสูงสุด (PS) | 370 |
น้ำหนัก (กก.) | 1,450 |
- Mazda6e รถยนต์ไฟฟ้า 100% BEV รุ่นแรกที่มาสด้าพัฒนาขึ้นตามแนวทาง Multi-solution Technology สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะมาสด้าไว้อย่างชัดเจนในทุกองค์ประกอบ ทั้งดีไซน์ภายนอกที่สง่างามตามแนวคิด Kodo Design – Soul of Motion โดยผสานความงดงามตามสไตล์รถไฟฟ้ายุคใหม่ ให้ภาพลักษณ์แบบสปอร์ตในรูปแบบตัวถังพิเศษแบบ Fastback แต่ยังคงมีความโฉบเฉี่ยวสไตล์รถซีดาน และเอกลักษณ์ของสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมวิศวกรของมาสด้าที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด กระจายน้ำหนัก 50:50 มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 80 กิโลวัตต์ ให้ระยะการขับขี่ได้ไกลสุดถึง 552 กม. มาพร้อมเทคโนโลยี FAST CHARGE สามารถชาร์จไฟจาก 30%-80% ได้เร็วสูงสุดภายใน 15 นาที มอบความสนุกสนานในการขับขี่ตามปรัชญา จินบะ-อิไต และเน้นหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้าเฉกเช่นเดียวกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก
“มาสด้าเชื่อว่า ยนตรกรรมทั้งสองรุ่นนี้ จะทำให้ลูกค้าเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ต่อการเดินหน้าตามแนวทาง Multi-solution ของมาสด้า เพื่อนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตที่ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้รถยนต์ของมาสด้าสามารถส่งมอบความสุขในการขับขี่และการใช้ชีวิตในทุก ๆ ด้านให้กับลูกค้าและครอบครัว นับตั้งแต่แรกที่เริ่มใช้งานจนถึงในระยะยาว อันเป็นปณิธานที่มาสด้ามุ่งมั่นเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าทุกคน” นายธีร์ กล่าว
นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า นอกเหนือจากยนตรกรรมที่นำมาจัดแสดงตามแนวทาง Multi-solution แล้ว มาสด้ายังได้นำรถยนต์นั่งยอดนิยมที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ล่าสุด New Mazda2 Essential มาเปิดตัวภายในงานฯ โดยมาพร้อมแนวคิด Nothing Else เลือกแล้วว่าใช่ ก็ไม่ต้องการอะไรอีก ที่ดีไซน์บ่งความเป็นตัวตนที่ชัดเจน และฟังก์ชั่นที่เติมเต็มกับทุกไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ เจาะกลุ่มเจนเนอเรชั่น Z ที่กำลังมองหารถยนต์คันแรกสำหรับการใช้งานที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด และตอบโจทย์ความเป็นตัวของตัวเอง มาพร้อมทางเลือก 4 รุ่นใหม่ ได้แก่
- รุ่น PRIME มอบความ ”คุ้มสุด” ของรุ่นเริ่มต้นที่มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการให้ใช้ชีวิตได้คุ้มตั้งแต่เริ่มต้น มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน พร้อมการตกแต่งเพื่อเพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจังหน้าสีดำ วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเพียง 529,000 บาท
- รุ่น ULTRA มอบความ “สบายสุด” มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ครบครันด้วยเทคโนโลยีความสะดวกสบาย พร้อมกับฟังก์ชั่นที่รู้ใจและตอบโจทย์กับทุกมิติของการใช้ชีวิต ทั้งระบบ Entertainment และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร อาทิ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay® และ Android AutoTM พร้อมหน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่ควบคุมผ่าน Center Commander ตกแต่งภายในอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยแผงคอนโซลหน้าไบโอพลาสติกแบบสี ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense อาทิ ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance พร้อมกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง ราคาจำหน่าย 589,000 บาท
- รุ่น SIGNATURE มอบความ “พร้อมสุด” โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์แบบ Sport Design พร้อมฟังก์ชั่นทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ควบคู่กับสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก มาพร้อมสองทางเลือก กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ในรุ่น 1.3 Signature ภายนอกตกแต่งด้วยกระจังหน้าแบบ Sport Design และกระจกมองข้างสีดำ ภายในตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ และผ้า Grand Luxe Suede® พร้อมกรอบช่องแอร์สีแดง วางราคาจำหน่าย 659,000 บาท และทางเลือกที่สองกับเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ในรุ่น XDL Signature มาพร้อมหลังคาสีดำ ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว สี Black Machining และดิสก์เบรกหลัง ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense หลายระบบ วางราคาจำหน่าย 749,000 บาท
ไม่เพียงเท่านี้ มาสด้ายังได้นำยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด แบรนด์ไอคอนยอดนิยม New Mazda MX-5 35th Anniversary Edition หรือ รุ่นพิเศษครบรอบ 35 ปี เปิดตัวเพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 35 ปี นับตั้งแต่ MX-5 ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก มาจัดแสดงให้แฟน ๆ ในประเทศไทยได้ชมและครอบครองเป็นเจ้าของ โดยมาพร้อมการตกแต่งพิเศษที่แตกต่างจากรุ่นทั่ว ๆ ไป เพื่อถ่ายทอดความพิเศษในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น สีภายนอกพิเศษ Artisan Red Premium สัญลักษณ์รุ่นพิเศษ 35th Anniversary Edition พนักพิงศีรษะ และพรม พร้อม Serial Number ที่บริเวณด้านข้างตัวถัง เพื่อบ่งบอกถึงบอกถึงความพิเศษในฐานะรุ่นลิมิเต็ด รวมถึงเบาะหนังสีพิเศษ Sports Tan หลังคาแข็งเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สี Bright ถ่ายทอดภาพลักษณ์สปอร์ตพรีเมี่ยมและความพิเศษได้อย่างมีเอกลักษณ์ วางจำหน่ายในจำนวนจำกัด ในราคา 3,069,000 บาท
ลูกค้าที่สนใจชมยนตรกรรรมจากมาสด้า สามารถเข้าชมได้ที่บูธรถยนต์มาสด้าในงานมอเตอร์ โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมาย เมื่อจองซื้อรถยนต์มาสด้า อาทิ ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน* ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance* ฟรีบัตรน้ำมันสำหรับเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัว มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท* ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ MUS นานสูงสุด 7 ปี* และฟรีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ SHARP รุ่น IG-NX2B มูลค่า 3,990 บาท** ภายในงานฯ และที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ
เงื่อนไข
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mazda.co.th หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ที่ปรึกษาการขายมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ หรือที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ
**สำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์มาสด้าทุกรุ่น 3,000 บาท และออกรถภายใน 30 เมษายน 2568
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th