Mazda 6 รุ่นปรับโฉม-พร้อมเทคโนโลยีใหม่ GVC เตรียมขายในยุโรป

Mazda แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์รถยนต์ที่สมบูรณ์แบบอย่างต่อเนื่องไม่เคยเปลี่ยน ด้วยการเปิดตัวระบบควบคุมใหม่ล่าสุด G-Vectoring Control (GVC) ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ SKYACTIV-Vehicle Dynamics โดยจะประเดิมใช้งานครั้งแรกใน Mazda 6 รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่เตรียมออกขายในทวีปยุโรป ช่วงปลายปีนี้

mazda6_20177 mazda6_20176

ระบบ GVC จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Mazda 6 และ Mazda 3 ที่ขายในยุโรป เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ให้มีความสบายมากขึ้น ลดแรง G-forces ระหว่างเหยียบคันเร่ง, เบรก หรือเข้าโค้ง โดยนับเป็นครั้งแรกของโลกที่ใช้ระบบควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหมุนของพวงมาลัย ช่วยคำนวณการถ่ายเทน้ำหนักลงสู่ล้อแต่ละข้างตามอัตราการเร่งหรือชะลอความเร็ว รวมทั้งลดการเคลื่อนของพวงมาลัยเพื่อรักษารถให้อยู่ในเลนได้ง่ายขึ้น

mazda6_20173

การเปิดตัว SKYACTIV-Vehicle Dynamics เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อระหว่างคนขับกับเครื่องจักร ตามหลักปรัชญา Jinba Ittai ที่ใช้เป็นแนวทางในการออกแบบรถยนต์ในเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของ Mazda โดยเทคโนโลยีใหม่จะทำงานประสานกับ SKYACTIV Powertrains, SKYACTIV-Chassis และ SKYACTIV-Body เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกด้าน

mazda6_20172

ในส่วนของระบบความปลอดภัยที่ Mazda ให้ความสำคัญมาตลอด ระบบ i-ACTIVSENSE ใน 2017 Mazda6 ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้ง Advanced Smart City Brake Support (Advanced SCBS) ที่จะช่วยหยุดรถหากมีสิ่งกีดขวางด้านหน้าหรือคนข้ามถนนตัดหน้า หากขับด้วยความเร็วไม่เกิน 4-80 กม./ชม. รวมทั้งเซนเซอร์ตัวจับระหว่างถอยที่จะช่วยเบรกในความเร็ว 2-8 กม./ชม.

Smart Brake Support (SBS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกที่จะเพิ่มการตรวจสอบระหว่างขับด้วยความเร็ว 15-160 กม./ชม. โดยจะมีสัญญาณเตือนคนขับในกรณีตรวจจับวัตถุกีดขวางหรือเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป หากไม่มีการเบรกระบบจะช่วยหยุดอัตโนมัติเพื่อลดความเสียหายในการเกิดอุบัติเหตุ
Traffic Sign Recognition (TSR) ใช้กล้องตรวจจับรุ่นใหม่เพื่อแจ้งข้อมูลป้ายจราจรบนถนนที่มีความแม่นยำมากขึ้นผ่านหน้าจอ Active Driving Display และจะมีสัญญาณเตือนหากขับด้วยความเร็วเกินกว่ากำหนด

mazda6_20175 mazda6_20171