นับว่าเป็นการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ของเจ้ามาสด้า CX-5 หลังจากไมเนอร์เชนจ์ มารอบนี้ทำออกมาได้อย่างลงตัว ดูดีกว่ารุ่นก่อนหน้าเยอะพอสมควร โดยการออกแบบใช้แนวคิดการออกแบบ KODO DESIGN แต่พัฒนาให้โดดเด่น และหรูหรายิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย แต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยว และหลังจากเปิดตัวไปได้ไม่นาน มาสด้าได้เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบแบบใช้งานจริง โดยในทริปสุดท้ายเราบินจากกรุงเทพมาที่อุบลราชธานี ก่อนที่จะรับช่วงต่อขับมายังสระแก้วและมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ ระยะทางในทริปนี้ประมาณ 700 กิโลเมตร

วันรุ่งขึ้นเราก็ได้พบกับเจ้าพระเอกของเราในทริปนี้ มาสด้า CX-5 โฉมใหม่ เรามาดูกันว่าเจ้าคันนี้มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง ที่เห็นชัดๆเลยคือหน้ารถได้ถูกปรับให้ต่ำลงและกว้างขึ้น ด้านหน้าที่ถูกออกแบบให้คล้าย Mazda CX-9 รุ่นใหม่ ไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์เฉียบคมขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าออกแบบให้เชื่อมต่อกับกระจังหน้ารังผึ้งออกแบบได้ลงตัวรับกับไฟหน้าคล้ายรถยุโรประดับหรู

เสริมด้วยโครเมียมเพิ่มความหรูหราได้มากขึ้นเยอะครับ ส่วนล่างของกันชนตกแต่งด้วยสีดำพร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED ทรงยาวรับกับไฟหน้า ทำให้หน้ารถโดยรวมดูหรูหราแต่แอบแฝงความสปอร์ต และนุ่มนวล ด้านข้างเน้นเส้นสายที่พลิ้วไหวไหลไปยังด้านหลัง ตกแต่งซุ้มล้อสีดำ เสริมด้วยโครเมียมบริเวณขอบหน้าต่างประตู ติดตั้งล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 และ 19 นิ้วตามแต่รุ่นย่อย  ด้านท้ายเน้นความสปอร์ตด้วยแนวประตูท้ายที่ลาดเท ติดตั้งประตูท้ายไฟฟ้าที่สามารถสั่งงานจากรีโมทและปุ่มเปิดประตูท้ายในรถได้ ไฟท้ายถูกออกแบบใหม่ให้มีดีไซน์เรียวเล็กและเส้นสายที่เฉียบคม พร้อมไฟหรี่และไฟเบรกแบบ LED ดูซะดุดตามากครับ ติดตั้งเซ็นเซอร์กะระยะรอบคันเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน CX-5 มีความยาว 4,550 มิลลิเมตร (ยาวกว่าเดิม 10 มิลลิเมตร) กว้าง 1,840 มิลลิเมตรเท่ารุ่นเดิม และสูง 1,680 มิลลิเมตร (เตี้ยลง 30 มิลลิเมตร) มีระยะฐานล้อยาว 2,700 มิลลิเมตร (เท่าเดิม)

ภายในห้องโดยสารของ All-New Mazda CX-5 ใหม่ ค่อนข้างดูดีพรีเมี่ยมจร้า ดูดีกว่ารุ่นปัจจุบันเยอะ ดูหรูหรา แต่แอบแฟงอารมณ์สปอร์ตได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเทียบชั้นได้กับเอสยูวีระดับหรูได้เลยทีเดียวครับ ความสบายของห้องโดยสารด้วยความเงียบสงบของภายใน เก็บเสียงได้ดีมากครับยอมรับเลย และความรื่นรมย์ขณะโดยสาร ด้วยเทคโนโลยี G-Vectoring Control ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS เทคโนโลยีที่ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวรถ และเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยมเพื่อเพิ่มความสปอร์ตภายในจึงถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำ มีการเพิ่มวัสดุหนังเข้าไปตามชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งสัมผัสได้ว่าเป็นหนังที่มีคุณภาพดีเช่นเดียวกับรถยุโรป ให้ความนุ่มและเรียบเนียนเมื่อสัมผัส

โดยวัสดุหนังจะถูกหุ้มกับชิ้นส่วนที่มีการสัมผัสร่างกายอยู่บ่อยๆ เช่น แผงประตู, แผงคอนโซล, ที่วางแขน เป็นต้น  คอลโซลหน้าแบบ METAL WOOD ผสานความสปอร์ตด้วยเบาะหนังสีดำเดินด้ายสีน้ำตาล แถมรุ่นใหม่นี้เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้านะครับ รุ่นเก่าไฟฟ้าแค่ด้านคนขับเท่านั้น และเบาะหลังก็สามารถปรับเอนได้หน่อยเพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร (จากรุ่นเก่านั่งหลังตรงเชียว) และยังพับได้ 3 ส่วน แบบ 40:20:40 อิสระจากกัน

มีช่องเสียบ USB 2 ช่อง ที่บริเวณพนักวางแขน แถมมีแอร์ที่แถวสองให้ด้วยนะเย็นฉ่ำทั้งคันแน่นอน และมี ELECTRONIC PARKING BREAK ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ AUTO HOLD ดูเหมือน

มาสด้าจะเน้นให้ความสะดวกสบายกับผู้โดยสารครับรุ่นนี้ พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ดูสปอร์ตและพรีเมี่ยมพร้อมปุ่มควบคุมการทำงาน เครื่องเสียงที่ Mazda CX-5 ใหม่คันนี้เลือกใช้คือ BOSE SOUND SYSTEM ด้วยลำโพง 10 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังใส่ MZD CONNECT ที่ทำให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อ ห้องโดยสารกว้างขวาง และสะดวกสบายมากขึ้นด้วยประตูท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า POWER LIFTGATE สามารถเปิด-ปิด ได้ง่ายแค่กดปุ่ม หรือใช้รีโมทคอนโทรล นอกจากนี้ สีแดงใหม่ Soul Red Crystal ยังช่วยยกระดับให้มาสด้า CX-5 โฉมใหม่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นยิ่งขึ้น สะกดทุกสายตาด้วยมิติความลึกของสี นับเป็นบทใหม่แห่งการดีไซน์

เรามาเริ่มทำการทดสอบกันเลย เราเริ่มออกจังหวัดอุบลราชธานีมุ่งหน้าสู่จังหวัดสระแก้วระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร เริ่มต้นออกจากตัวเมืองอุบลราชธานี เราลองขับรุ่นเบนซิน 2.0 SP ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด ภายในไม่ต่างจากรุ่นท๊อปดีเซล แต่มีเพิ่มมาคือ สวิตช์เลือกโหมด SPORT ที่คอนโซลเกียร์ ประจำที่นั่งคนขับมองดูภายในรอบ มันดูดีขึ้นเยอะมากครับดูหรูหราขึ้นเยอะทีเดียว การขับในเมืองมีความคล่องตัวขับง่ายครับ พวงมาลัยก็น้ำหนักกำลังดี เมื่อขับอยู่ในเมือง หลุดออกมานอกเมืองพอจะมีถนนแบบ 4 เลนให้วิ่ง

อยู่เราก็เลยต้องของลองอัตราเร่งของเจ้า มาสด้า CX-5 เครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซี จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบไดเร็กอินเจ็คชั่น ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบแปรผันวาล์วทั้งฝั่งไอดีและไอเสียแบบ Dual S-VT กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 21.4 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ คันนี้กันหย่อย อัตราเร่งถือว่าไม่ขี้เหร่เลยครับวิ่งดีพอสมควร การเร่งแซงไม่มีปัญหา คลิกดาวน์ช่วยบ้างบางจังหวะ แรงเหลือๆครับกดคันเร่งแช่ยาวๆความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องลื่นไหลดีครับ เพียงแต่ผมเร่งไม่ทันคันหน้าที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลก็เท่านั้นดูเหมือนอัตราเร่งของเครื่องยนต์ดีเซลจะดีกว่าอย่างชัดเจน ลองดึงปุ่มมาเป็นโหมด SPORT ที่จะดันรอบเครื่องยนต์ให้สูงขึ้นอีกนิด เมื่อลองกดคันเร่งตอบสนองได้ทันใจขึ้น ขับสนุกขึ้นมาอีกนิด กดคันเร่งยาวๆความเร็วขึ้นไปแตะประมาณ 170-180 กม./ชม.ได้อยากไม่ยากเย็นนัก

สรุปเครื่องยนต์เบนซินของเจ้ามาสด้า CX-5 คันนี้ อัตราเร่งไม่ถึงกับอึด แต่ก็ต้องใช้รอบสูงในการเร่งไปนิด จะเร่งแซงบางจังหวะต้องใช้วิธีคิ๊กดาวน์ช่วยนิดนึง สมรรถนะโดยรวมก็เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป ชีวิตส่วนมากวิ่งวนอยู่ในเมืองออกต่างจังหวัดบ้างเป็นครั้งคราว ผมบอกเลยว่าแค่เครื่องยนต์เบนซิน ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว พลังของเครื่องยนต์ยังเหลืออีกเยอะ อัครสิ้นเปลืองของเจ้าเครื่องยนต์เบนซินคันนี้อยู่ที่ 13.9 กม./ลิตร ขนาดผมขับแบบหนักๆเร่งแซงตลอดเวลาอัตราสิ้นเปลืองยังอยู่ที่ประมาณ 10 กม./ลิตรเลย ใช้ได้เลยครับ

หลังจากที่เราได้ทดลองขับเครื่องยนต์ 2.0 เบนซินไปแล้ว เช้าวันต่อมาเราเปลี่ยนมาลองขับเครื่องยนต์ดีเซลกันบ้างกับรุ่น XD 4WD เครื่องยนต์ดีเซลวันนี้เราเดินทางประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร เครื่องยนต์ดีเซล 2,200 ซีซี เทอร์โบชาร์จแบบ 2 สเตจ ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบแปรผันวาล์วไอเสีย VVT ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 42.79 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที

ขับออกจากโรงแรมที่สระแก้ว มุ่งหน้าสู่กรุงเทพเส้นทางในช่วงนี้ขับค่อนข้างสบายเพราะส่วนมากจะเป็นถนน 4 เลน กดคันเร่งลงไปถึงกับต้องอมยิ้ม เพราะอัตราเร่งมันต่างกับเครื่องยนต์เบนซินเยอะพอควร ขับสนุกมากครับ กดคันเร่งลงไปความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง กดเป็นมาพูดเลย เพลอแปปเดียวความเร็วไปแตะระดับ 180 บวก ได้อย่างง่ายดาย โดยที่ตัวรถยังคงนิ่ง แถมเสียงลมเข้ามาน้อยมาก เหมือนขับรถ SUV ของค่ายยุโรปหรูๆเลยครับ การเร่งแซงหายห่วงกดแปปเดียวแซงเนียนๆ ลองใช้โหมด M กับตำแหน่ง +/- ก็จะกระฉับเฉงขึ้นอีกนิด เร่งแซงได้ฉับไวกว่าเดิมอีกเล็กน้อย ขับสนุกและเพลินมากครับ อยากให้ผู้อ่านไปลองขับเองว่ามันสนุกจริงอย่างที่ผมบอกมั้ย

ระบบช่วงล่าง ทั้ง 2 เครื่องยนต์ถูกเซ็ทมาต่างกันเล็กน้อยเพราะด้วยน้ำหนักของเครื่องยนต์ที่ไม่เท่ากันดีเซลมันจะหนักกว่าเลยต้องปรับค่าเคของสปริง และปรับค่าความหนืดโช็คอัพใหม่ แต่ผลออกมาคล้ายกันครับ

ช่วงล่างเน้นนุ่มนวล ระบบกันสะเทือนของ CX-5 ใหม่ เป็นแบบอิสระพร้อมเหล็กกันโคลงทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังมัลติลิงก์ ช่วงล่างปรับเซตเพื่อความนุ่มนวล ขับความเร็วต่ำถึงปานกลางนุ่มนวลและผ่อนคลาย สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวของถนนได้ดี การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงระบบ G-VECTORING CONTROL (GVC) ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดภายใต้ชุดเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ระบบ GVC ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยําและสมดุล ขับง่ายมากครับ เค้าโค้งได้อย่างแม่นยำและนุ่มนวล  เพื่อให้ผู้ขับมาสด้า CX-5 โฉมใหม่ สัมผัสความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันของคนกับรถได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น การทํางานของระบบ GVC ระบบจะทํางานโดยประมวลผลจากการบังคับพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ความเร็วของรถ รวมถึงน้ำหนักของเท้าที่กดลงบนแป้นคันเร่ง จากนั้นระบบจะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ และเกิดการถ่ายน้ำหนักที่เหมาะสมไปสู่แต่ละล้อ ทําให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ควบคุมได้แม่นยําในทุกสถานการณ์

พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าปรับปรุงเรื่องน้ำหนักให้เบาที่ความเร็วต่ำ และไม่กระทบกับประสิทธิภาพการควบคุมเมื่อใช้ความเร็วสูง ยังรู้สึกว่าพวงมาลัยมีความหนืดไม่เบาหวิว น้ำหนักกำลังดีเลยครับ ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ สามารถหยุดรถได้อย่างมั่นใจเพียงแต่มันจะรู้สึกลึกไปนิด ช่วงแลกอยากจะเหมือนเบรกไม่ค่อยอยู่ต้องปรับตัวให้ชินซักระยะ เบรกหยุดแบบนุ่มนวลแน่นอน

ระบบต่างของเจ้าคันนี้ยังมีอีกเยอะครับเรียกได้ว่าใส่มาให้กันมาแบบเต็มๆไม่ว่าจะเป็น

ติดตั้ง i-Stop (Idling Stop System) ระบบประหยัดน้ำมันที่สั่งให้เครื่องยนต์หยุดการทํางานชั่วคราวเมื่อรถจอดนิ่งขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยังคงทํางานตามปกติ ทําให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเครื่องยนต์จะกลับมาทํางานอัตโนมัติทันทีเมื่อรถพร้อมออกตัว

เพิ่มความสะดวกสบายด้วย ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า จัดเก็บสัมภาระได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยประตูท้ายที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส และรีโมทคอนโทรล สามารถปรับตั้งระดับการเปิดได้ตามที่คุณต้องการ

i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีความปลอดภัยเพื่อคุณและคนสำคัญ มาสด้า CX-5 โฉมใหม่ เพิ่มอีกระดับของความปลอดภัย กับเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยสุดล้ำ i-ACTIVSENSE ที่สามารถคาดการณ์อย่างแม่นยำและส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้รอบคัน SBS ALH SCBS MRCC LAS & LDWS DAA ABSM RCTA SCBS -R

ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทํางานของไฟ สูง – ต่ำ แยกอิสระ ซ้าย – ขวา โดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสม กับสภาพถนน ระยะห่างจากตําแหน่งของรถคันหน้า หรือรถที่วิ่งสวนมา เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน และช่วยให้การทํางานของไฟสูง ไม่ไปรบกวนรถคันอื่น

MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า หากพบรถคันหน้าที่มีความเร็วน้อยกว่า ระบบจะทำการปรับลดความเร็วลงตามความเร็วของรถคันหน้าและรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ โดยผู้ขับสามารถปรับระยะห่างจากรถคันหน้าได้จากสวิตช์ที่พวงมาลัย ทั้งนี้ ระบบจะกลับไปใช้ความเร็วเดิมที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติเมื่อตรวจสอบแล้วว่าไม่มีรถอยู่ด้านหน้า

LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบจะส่ง สัญญาณเตือนไฟกะพริบบนหน้าปัด พร้อมส่งเสียง เตือน เมื่อตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ ตั้งใจ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่ม ความมั่นใจในการขับขี่

Windshield Active Driving Display ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ช่วยเพิ่ม ความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะขณะขับรถทางไกล ระบบจะติดตามพฤติกรรมและสมาธิในการขับขี่ หากตรวจพบความผิดปกติของพฤติกรรมการขับขี่ หรือขับขี่ติดต่อกันนาน ระบบจะขึ้นข้อความแนะนําให้หยุดพัก

SBS (Smart Brake Support) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบจะตรวจจับระยะห่างระหว่างรถของคุณและรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจาก การชนรถคันหน้า ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและเสียง เตือนอย่างต่อเนื่อง ถ้าผู้ขับไม่ได้ทําการเบรก ระบบ จะช่วยทําการเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสในการ ชนรถคันหน้า

ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนช่วยให้ผู้ขับปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน โดยระบบจะส่ง สัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่ กําลังแซงขึ้นมาจากทางด้านหลังและอยู่ในจุดที่ผู้ขับ อาจมองไม่เห็น ไฟสูงไม่รบกวนรถคันหน้า

SCBS (Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ หากระบบตรวจสอบพบว่า ไม่สามารถเลี่ยงการชนได้ ระบบจะช่วยทําการเบรก โดยอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชน ปะทะด้านหน้า เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ

SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ช่วยลด ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการชนขณะขับถอยหลังด้วยความเร็วต่ำ

มาสด้า CX-5 ใหม่คันนี้ นับว่าเป็นรถ SUV ที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่นเลยครับ ทั้งการออแบบดีไซน์ที่สวยงามลงตัว อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบช่วยเรื่องความปลอดภัย และเทคโนโลยีต่างๆที่ให้มา แถมยังมี 2 เครื่องยนต์ใหม่เลือกทั้งเบนซิน และดีเซล เพื่อจะให้ลูกค้าเลือกตามความเหมาะสมกับการใช้งาน เครื่องยนต์เบนซิน นับเป็นรุ่นที่คุ้มค่าสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้าติดใจสมรรถนะและความประหยัดของเครื่องยนต์ดีเซล มาสด้า CX-5 มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ประกอบด้วย

รุ่น 2.0 C เครื่องยนต์เบนซิน 1,290,000 บาท

รุ่น 2.0 S เครื่องยนต์เบนซิน 1,400,000 บาท

รุ่น 2.0 SP เครื่องยนต์เบนซิน 1,530,000 บาท

รุ่น XD เครื่องยนต์คลีนดีเซล 1,560,000 บาท

รุ่น XDL เครื่องยนต์คลีนดีเซล 1,770,000 บาท

ตารางเปรีบเทียบคู่แข่ง

เครื่องยนต์เบนซิน

เครื่องยนต์ดีเซล

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th