Mazda CX-5 ปรับโฉมพร้อมเพิ่ม 3 สเปกพิเศษที่ญี่ปุ่น
หลังจากเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ CX-5 ที่ยุโรปมาก่อนหน้านี้ ล่าสุดทาง Mazda ได้ทำการปรับโฉมให้กับรถเอสยูวีรุ่นนี้ของตนที่ญี่ปุ่น พร้อมกับมีการเพิ่มสเปกพิเศษเพื่อตอบโจทย์การใช้งานรูปแบบต่างๆ ของผู้ซื้อมากขึ้น คือ Exclusive Mode, Sport Appearance และ Field Journey ซึ่งนอกจากจะมีการแต่งภายนอกและภายในที่แตกต่างกันแล้วยังมีเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนของรถที่ต่างกันด้วย
Mazda CX-5 Sport Appearance มาพร้อมกับการให้อารมณ์สปอร์ตตามชื่อ โดยภายนอกรถถูกเพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจังหน้า ขอบกระจังหน้า Signature Wing ส่วนล่างของกันชน ซุ้มล้อ คิ้วแต่งที่ประตูรถ และครอบกระจกมองข้างเป็นสีดำเงาทั้งหมด นอกจากนี้ยังใช้สีแดงเพิ่มความเด่นที่กระจังหน้าของรถ รวมไปถึงใช้ล้อขนาด 19 นิ้วสีดำเมทัลลิก ขณะที่ในห้องโดยสารเน้นกรใช้สีดำและแดงด้วยการใช้หนังสีดำทั้งที่เบาะนั่ง พวงมาลัย ประตู และเกียร์ พร้อมกับการเดินด้ายสีแดง โดยรถจะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.5 ลิตรและเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 2.2 ลิตรให้เลือก รวมทั้งเลือกได้ระหว่างขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหน้าหรือทุกล้อของรถ
สำหรับรุ่นสเปกพิเศษ Field Journey ออกแบบมาสำหรับผู้เน้นการผจญภัยกลางแจ้งด้วยการมีส่วนล่างของกันชนในสไตล์แผ่นกันกระแทก มีคิ้วแต่งกันกระแทกที่ประตูรถ ใช้ครอบกระจกมองข้างสีดำ และมีล้อดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้วสีดาร์กเมทัลซึ่งมากับยางออล-ซีซัน นอกจากนี้ยังใช้สีเขียว Lime ในการแต่งที่กันชนหน้า เส้นขอบเบาะในห้องโดยสาร และกรอบช่องระบบปรับอากาศ
CX-5 Field Journey ยังโหมดออฟโรดให้เลือกใช้ในโหมดการขับเพื่อให้ความมั่นใจขึ้นเมื่อเดินทางบนพื้นที่ทุรกันดาร ส่วนเครื่องยนต์มีให้เลือกระหว่างเบนซิน Skyactiv-G 2.0 ลิตร หรือดีเซล Skyactiv-D 2.2 ลิตร และมาพร้อมกับเฉพาะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น
ส่วน CX-5 Exclusive Mode จะเน้นสไตล์เรียบหรูด้วยการมีทั้งส่วนล่างของกันชนหน้าและกันหลัง ซุ้มล้อ และการแต่งที่ประตูสีเดียวกับตัวรถ นอกจากนี้ยังมากับล้อสีเงินขนาด 19 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนในห้องโดยสารให้ความหรูเพิ่มขึ้นด้วยการใช้หนัง Nappa ทั้งเบาะหน้าและเบาะหลังพร้อมมีระบบปรับความอุ่น ในขณะที่เครื่องยนต์เลือกได้ระหว่างเบนซิน Skyactiv-G 2.5 ลิตรหรือดีเซล Skyactiv-D 2.2 ลิตร รวมทั้งเลือกได้ระหว่างขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหน้าหรือทุกล้อของรถ
สำหรับการขาย Mazda CX-5 รุ่นปรับโฉมรวมทั้งสเปกพิเศษในญี่ปุ่นจะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมปีนี้ โดยตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 3,525,500 เยนหรือประมาณ 1,020,000 บาทสำหรับ Exclusive Mode, 3,256,000 เยนหรือประมาณ 942,000 บาทสำหรับ Sport Appearance และ 3,234,000 เยนหรือประมาณ 935,000 บาทสำหรับ Field Journey
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th