Mazda CX-50 มาพร้อมดีไซน์และเทคโนโลยีเพื่อการผจญภัย
Mazda ขยายไลน์รถเอสยูวีที่ใช้เลข 2 หลักต่อท้ายชื่อ CX ต่อเนื่องจาก CX-30 ด้วยการเผยโฉม CX-50 ออกมาเป็นครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกระบุว่าถูกออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการรถในแบบเอสยูวีพร้อมกับสมรรถนะด้านออฟโรดโดยจะเริ่มขายในสหรัฐอเมริกาและอเมริกาเหนือต้นปีหน้า
Mazda CX-50 ถูกระบุว่ามาพร้อมกับแนวทางการออกแบบที่เรียกว่า Soul of Motion ซึ่งเป็นการผสานความงามของ Kodo Design เข้ากับพลังและความแข็งแกร่งซึ่งเป็นสิ่งที่คนต้องการในรถเอสยูวี โดยรถมาพร้อมกับความสูงจากพื้นน้อยที่สุดเท่าที่จะยังคงให้ความปลอดภัยในการเดินทางบนเส้นทางออฟโรดได้ พร้อมกับมีรูฟเม้าต์สำหรับการบรรทุกและเก็บสิ่งของได้ง่ายสำหรับการใช้ชีวิตกลางแจ้ง รวมไปถึงมีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟเพื่อการดื่มด่ำไปกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
ทาง Mazda ระบุว่า CX-50เริ่มต้นด้วยการมี 2 ขุมกำลังให้เลือกทั้งแบบมีเทอร์โบและหายใจเองคือ Skyactiv-G 2.5T และ Skyactiv-G 2.5 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตรเหมือนกัน แต่เครื่องยนต์ที่มีเทอร์โบมีกำลัง 254 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 434 นิวตัน-เมตร ส่วนเครื่องยนต์ที่ไม่เทอร์โบมีกำลัง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 252 นิวตัน-เมตร โดยรถมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดส่งกำลังสู่ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ i-Activ AWD เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกเกรด พร้อมกับมี Mazda Intelligent Drive Select ที่ถูกระบุว่าให้ความปลอดภัยในการขับ พร้อมความสามารถในการควบคุมรถที่สูงบนพื้นผิวถนนที่มีความแตกต่างกัน โดยที่ยังคงสมรรถนะสูงในการขับเอาไว้ และในอนาคตจะมีรุ่นไฮบริดออกมาเป็นทางเลือก
ด้านการออกแบบถูกระบุว่ารถมาพร้อมกับรูปทรงที่มีความปราดเปรียว ยาว และกว้างเพื่อเสริมลักษณะที่มีพลังให้กับรถ ร่วมกับการออกแบบส่วนต่างๆ เพื่อเสริมความแกร่งสำหรับการผจญภัย ซึ่งจากภาพรถที่เผยแพร่ออกมาได้ยืนยันถึงสิ่งนี้ด้วยการที่รถมาพร้อมกับกันชนหน้า คิ้วกันกระแทกที่ประตู และกันชนหลัง รวมทั้งซุ้มล้อเป็นวัสดุสีดำพร้อมมีแผ่นกันกระแทกที่กันชนหน้าและหลังของรถ นอกจากนี้ยังมีกระจังหน้าสีดำเพิ่มความดุให้กับรถ
ส่วนภายในห้องโดยสารถูกระบุว่าได้ใช้วัสดุสำหรับเบาะและรายละเอียดต่างๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับการผจญภัยกลางแจ้ง เพื่อสร้างบรรยากาศสำหรับการผจญภัยในรถ โดยที่มีหลังคาพาโนรามิกรูฟเพื่อช่วยให้สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น รวมไปถึงมีการออกแบบพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่ถูกออกแบบเพื่อช่วยสนับสนุนการทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีรูฟเรลที่แข็งแรง มีเสา B-Pillar และขอบประตูรถที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการบรรทุกสัมภาระบนหลังคา
ทาง Mazda ยังไม่ระบุราคาของ CX-50ออกมา แต่บอกว่าจะเริ่มผลิตรถในเดือนมกราคมปี 2022 ที่โรงงาน Mazda Toyota Manufacturing ใหม่ในอลาบามา สหรัฐอเมริกาสำหรับทำตลาดในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th