Mazda CX-60 เผยโฉมที่ยุโรปบนสถาปัตยกรรมใหม่พร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริด
Mazda เผยโฉม CX-60 รถเอสยูวี 2 แถวขนาดกลางรุ่นใหม่เตรียมทำตลาดยุโรปก่อนเปิดตัวทำตลาดที่ญี่ปุ่นและภูมิภาคอื่น โดยจุดเด่นของรถเอสยูวีรุ่นใหม่คือการมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมใหม่พร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริด e-Skyactiv PHEV ในการขับเคลื่อน
Mazda CX-60 ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม Skyactiv Multi-Solution Scalable Architecture สำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลังและ 4 ล้อมาในขนาความยาว 4,745 มม. กว้าง 1,890 มม. และสูง 1,680 มม. โดยที่มีระยะฐานล้อยาว 2,870 มม.
ภายนอกของรถมาพร้อมกับปรัชญาการออกแบบ Kodo-Soul of Motion โดยส่วนหน้าของรถมาพร้อมกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ตามสไตล์รถยนต์จาก Mazda แต่จะมีลายละเอียดของกระจังหน้าที่แตกต่างกันตามเกรด ซึ่งเกรดที่เน้นความสปอร์ตจะมาพร้อมกับขอบกระจังหน้าสีดำและกระจังหน้าลายรังผึ้ง ในขณะที่เกรดท็อปมีขอบกระจังหน้าโครเมียมพร้อมช่องกระจังหน้าแนวตั้ง ส่วนไฟหน้ารูปตัวดีขนาดเล็กที่มีไฟเรียงในแนวตั้งภายในมาพร้อมไฟ Daytime Running Light รูปตัวแอลที่ยาวเข้าไปในขอบกระจังหน้า ขณะที่ด้านข้างรถมาพร้อมกับซุ้มล้อสีเดียวกับรถและล้อขนาด 18-20 นิ้วที่แตกต่างกันตามเกรดโดยเกรดเน้นความสปอร์ตมากับล้อสีดำ ขณะที่เกรดท็อปเป็นล้อทูโทนสีดำปัดเงา สำหรับด้านหลังรถมากับไฟท้ายในรูปทรงที่สะท้อนมาจากไฟหน้าและไฟ Daytime Running Light และเสริมความสปอร์ตด้วยกันชนหลังที่มากับปลายท่อไอเสียคู่ทรงเหลี่ยมทั้ง 2 ฝั่งของกันชน
ภายในห้องโดยสารของ CX-60 นอกจากมีทั้งจอ TFT-LCD แสดงข้อมูลผู้ขับและจอระบบ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้วเท่ากันแล้ว ยังมีการแสดงข้อมูล Head-up Display ที่มีขนาดใหญ่กว่าใน CX-30 ถึง 3 เท่า พร้อมมีระบบ Driver Personalisation System ที่ให้การแนะนำท่าทางการขับแก่ผู้ขับอัตโนมัติ โดยใช้กล้องเพื่อตรวจจับตำแหน่งตาของผู้ขับ แล้วปรับความสูงของเบาะ พวงมาลัย การแสดงข้อมูล Head-up Display และกระจกมองข้างที่เหมาะสมให้อัตโนมัติ สำหรับพื้นที่เก็บของด้านหลังรถมีความจุ 570 ลิตร โดยที่เพิ่มความจุเป็น 1,148 ลิตรได้เมื่อพับเบาะหลังลง และหากบรรทุกสัมภาระถึงเพดานของรถก็จะมีความจุ 1,726 ลิตร
ในส่วนเครื่องยนต์ของ CX-60 ที่ทำตลาดในยุโรปเป็นระบบปลั๊กอินไฮบริด โดยนำเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Skyactiv-G 2.5 ลิตร 189 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 261 นิวตัน-เมตรมาทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่เสริมกำลังขับเคลื่อน 134 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ทำให้มีกำลังรวม 323 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ซึ่งจะทำให้ CX-60 ปลั๊กอินไฮบริดเป็นรถเอสยูวีที่มีกำลังสูงสุดของ Mazda โดยทางผู้ผลิตระบุว่าอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ของรถอยู่ที่ 5.8 วินาที ในขณะที่ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 200 กม./ชม.
สำหรับแบตเตอรีที่มากับ CX-60 มีความจุ 17.8 kWh สามารถให้ระยะการเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าได้ 60 กิโลเมตร ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมในการขับแบบไฮบริดอยู่ที่ 1.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP กับรถที่ใช้ล้อขนาด18 นิ้ว สำหรับการชาร์จไฟถูกระบุไว้ที่ 4 ชั่วโมงกับการชาร์จด้วยไฟกระแสสลับปกติ
Mazda CX-60 ใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดส่งกำลังพร้อมกับมีคลัตช์ Multi-plate และ Integrated Electric Motor/Generator แทน Torque Converter ตามปกติ รวมทั้งยังมีระบบขับเคลื่อย 4 ล้อ i-Activ AWD เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมากับรถ โดยที่มีหลากหลายโหมดการขับให้เลือกทั้ง Normal, Sport, Off-Road, Towing และ EV ส่วนความสามารถในการลากจูงอยู่ที่ 2,500 กิโลกรัม
นอกจากระบบปลั๊กอินไฮบริดแล้ว ทาง Mazda ยังนำเตรียมนำขุมกำลังทั้งเบนซินและดีเซลมาประจำการใน CX-60 สำหรับขายในภูมิภาคอื่นด้วย ซึ่งจะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน e-Skyactiv X 6 สูบ 3.0 ลิตร พร้อมระบบไมลด์ไฮบริด 48-โวลต์ และเครื่องยนต์ดีเซล e-Skyactiv D 6 สูบ 3.3 ลิตร พร้อมระบบไมลด์ไฮบริด 48-โวลต์ อย่างไรก็ตามทาง Mazda ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของเ 2 เครื่องยนต์ 6 สูบไมลด์ไฮบริดออกมา
ในส่วนของระบบช่วงล่างที่ด้านหน้าของ CX-60 เป็นแบบดับเบิลวิชโบน ส่วนด้านหลังเป็นมัลติ-ลิงก์ โดยที่ทาง Mazda ระบุว่าจะให้ประสบการณ์การเคลื่อนที่ที่มีความนุ่มนวล ไม่ว่าจะขับในสถานการณ์ใด นอกจากนี้รถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับ Kinematic Posture Control ที่ช่วยทำให้รถมีสเถียรภาพมากขึ้นด้วยการลดการหมุนของล้อในโค้ง
แน่นอนว่า CX-60 มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับต่างๆ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอย่างกล้องมองภาพ 360 องศา ระบบจดจำและแสดงสัญญาณจราจร ระบบช่วยเบรกพร้อมตรวจจับคนเดินถนน คนขี่จักรยาน และทางแยก ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินเมื่อถอยหลังพร้อมตรวจจับคนเดินถนน ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลนพร้อมช่วยควบคุมพวงมาลัย ระบบตรวจจับอาการง่วงของผู้ขับ รวมไปถึงมีระบบตรวจจับมุมบอด ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอยออกจากช่องจอด ระบบความคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน ระบบช่วยออกตัวบนเนิน และระบบช่วยแสดงสัญญาณเมื่อหยุดรถฉุกเฉิน
ทาง Mazda เริ่มรับจอง CX-60 ในยุโรปตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมทันทีที่เปิดตัวส่วนกำหนดการปล่อยรถมีในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ส่วน CX-60 สำหรับขายในญี่ปุ่นจะมีการเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้