Mazda ขยายทางเลือกเครื่องยนต์ให้ CX-8 เกรดท็อปและเกรดแต่งพิเศษในญี่ปุ่น
Mazda ขยายทางเลือกของเครื่องยนต์ให้กับเกรด Exclusive Mode ซึ่งเป็นเกรดสูงและเกรดแต่งพิเศษ Black Tone Edition ของ CX-8 ในญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้ 2 เกรดข้างต้นรถเอสยูวีรุ่นนี้ที่มาพร้อมกับเบาะ 3 แถวในห้องโดยสารมีทางเลือกของเครื่องยนต์ทั้งแบบเบนซินไร้ระบบอัดอากาศ เบนซินเทอร์โบ และดีเซลเทอร์โบ
จากเดิมที่ Mazda CX-8 เกรด Exclusive Mode ในญี่ปุ่นมี 2 ทางเลือกของเครื่องยนต์คือ Skyactive-G 2.7T ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร เทอร์โบ 230 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ Skyactiv-D 4 สูบ 2.2 ลิตร 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ตอนนี้ทาง Mazda เพิ่มให้อีกทางเลือกของเครื่องยนต์เบนซินคือ Skyactiv-G 4 สูบ 2.5 ลิตร ที่มาพร้อมกับกำลัง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 252 นิวตัน-เมตร ในเกรด 25S Exclusive Mode
สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานที่มากับ CX-8 25S Exclusive Mode มีทั้งเบาะแถวที่ 2 ปรับเลื่อนไฟฟ้าในขณะที่การปรับเอนหลังเป็นเมกคานิก ระบบระบายอากาศที่เบาะแถวที่ 2 ฟังก์ชั่น Electronic Walk-in ซึ่งเบาะจะเลื่อนไปด้านหลังแล้วเลื่อนกลับมาที่ด้านหน้า และมีคอนโซลกลางที่เบาะแถวที่ 2 โดยทั้งหมดนี้จะอยู่ในรุ่นที่มาพร้อมกับเบาะ 6 ที่นั่ง
ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ที่มากับรถทั้งแบบ 6 และ 7 ที่นั่งจะมีกระจังหน้าลาย Mesh สี Gun Metallic คิ้วแต่งด้านล่างกันชนหน้า ปลายท่อไอเสียเงามันขนาดใหญ่ หลังคากระจกซันรูฟปรับเลื่อนไฟฟ้า แต่งภายในห้องโดยสารด้วยลายรังผึ้งสีเงิน และล้อขนาด 17 นิ้วที่มีความเงามันสูง
ส่วน CX-8 เกรดแต่งพิเศษ Black Tone Edition ที่ปกติมี 2 ทางเลือกของเครื่องยนต์คือเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.5 ลิตรไร้ระบบอัดอากาศ และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ Skyactiv-D 2.2 ลิตร จะมีการเพิ่มเกรด 2.5T Black Tone Edition ซึ่งใช้เครื่องยนต์ Skyactiv-T 2.5 ลิตรเทอร์โบเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ โดยอุปกรณ์มาตรฐานที่มากับเกรดแต่งพิเศษและเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ เน้นวัสดุสีดำตามชื่อทั้งการแต่งแถบแนวนอนบริเวณไฟตัดหมอกด้วยสีดำเงา ครอบกระจกมองข้างสีดำเงา และล้ออลูมินัมขนาด 19 นิ้วสีดำเมทัลลิก นอกจากนี้ยังคิ้วโครเมียมแต่งส่วนล่างกระจังหน้า และปลายท่อไอเสียมันเงาขนาดใหญ่
ขณะที่ในห้องโดยสารซึ่งมีการแต่งด้วยลายรังผึ้งสีดำและแผ่นโครเมียมสี Satin ทั้งที่แผงเรือนไมล์ และแผงประตู ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ อย่างหลังคาซันรูฟ ก้านปลอดล็อกกล่องเก็บของและสวิตช์ปรับเบาะเป็นโครเมียมสี Satin หุ้มหนังที่ก้านพวงมาลัยตำแหน่ง 6 นาฬิกา มีระบบระบายอากาศทั้งเบาะผู้ขับและผู้โดยสาร เบาะแถวที่ 2 มาพร้อมคอนโซลและที่ท้าวแขนพร้อมปรับไฟฟ้าและมีระบบระบายอากาศ มีระบบเสียง Bose พร้อมลำโพง 10 ตัว รวมทั้งมีไฟ LED ในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บของด้านหลัง
ในส่วนราคาของรถ Mazda CX-8 25S Exclusive Mode เริ่มต้นที่ 4,215,200 เยนหรือประมาณ 1,212,000 บาท ขณะที่ CX-8 25T Black Tone Edition เริ่มต้นที่ 4,098,600 เยนหรือประมาณ 1,178,000 บาท
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th