Mazda cx3 ถือเป็นยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวีคันแรก ที่สามารถมอบประสบการณ์ในด้านการขับขี่ได้อย่างเหนือชั้น ทั้งในเรื่องของเครื่องยนต์ ที่มีการใช้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ เบนซิน 2.0 ลิตร ให้ผู้ขับขี่มีความสะดวกสบายในการใช้งาน และยังเพิ่มความมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยสุดล้ำ อย่าง i-Activsense พร้อมทั้งยังสามารถเชื่อมต่อได้ในทุกโซเชียลด้วย Mazda Connect ในส่วนของการออกแบบรูปลักษณ์ จะมีการออกแบบให้มีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิดของ Kodo: Soul of Motion ที่จะมีการลดทอนรายละเอียดต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา เรียบง่าย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is more” ที่จะแฝงไปด้วยความโฉบเฉี่ยว แต่ทรงพลังในแบบฉบับของรถเอสยูวี

สำหรับรถรุ่นนี้จะมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อยด้วยกัน ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีราคา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในตัวรถที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนรุ่นย่อยให้ตรงกับความต้องการของผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ Mazda cx3

ในด้านเครื่องยนต์ Mazda cx3 จะใช้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี. Dual S-VT Direct Injection กำลังสูงสุดจะอยู่ที่ 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 204 นิวตันเมตร ที่ 2,800 รอบต่อนาที จับคู่มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และยังมาพร้อมกับ Manual Mode การขับเคลื่อน 2 ล้อ รองรับน้ำมันสูงถึง E85 เลยทีเดียว

ทำความรู้จักกับ Mazda cx3 ทั้ง 4 รุ่นย่อย

1. Mazda cx3 รุ่น BASE

ในรุ่นนี้จะมีการปรับเพิ่มพวงมาลัย และหัวเกียร์ที่มีการหุ้มด้วยหนัง ระบบกุญแจรีโมทแบบอัจฉริยะ พร้อมยังมีการติดตั้งอุปกรณ์แบบมาตรฐาน และยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานอย่างครบครัน อาทิ ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อย่างอัจฉริยะ กล้องมองหลังขณะถอยจอด เครื่องเสียงที่สามารถรองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย Wireless พร้อมทั้งยังมีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะอีกด้วย ในส่วนราคาจัดจำหน่ายของรุ่นนี้จะอยู่ที่ 769,000 บาท

2. Mazda cx3 รุ่น BASE PLUS

สำหรับรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ปรับเพิ่มเข้ามา แถมยังเพิ่มออปชันเสริมในอีกหลายจุด ทั้งไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED ที่มาพร้อมกับไฟ LED Signature ระบบไฟหน้าสามารถปรับสูง-ต่ำได้อย่างอัตโนมัติ และยังมีระบบการเปิด-ปิดไฟหน้าอย่างอัตโนมัติอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบการควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ ระบบการควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติ เบาะนั่งจะมีการห่อหุ้มด้วยหนัง สลับกับผ้า พนักวางแขนตรงกลาง และเบาะหนังนั่งด้านหลัง ที่มาพร้อมกับที่วางแก้วน้ำ ถุงลมนิรภัยทั้งหมด 6 ตำแหน่ง ในส่วนของราคาจัดจำหน่ายรุ่นนี้จะอยู่ที่ประมาณ 809,000 บาท

3. Mazda cx3 รุ่น COMFORT

ในรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่เพิ่มระบบความปลอดภัยให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยจะมีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะกำลังเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอย (RCTA) กล้องแสดงภาพแบบ 360 องศา รอบทิศทาง เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้าแบบ 4 ตำแหน่ง เซนเซอร์การกะระยะการช่วยจอดหน้าหลังอีก 4 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง หลังคาซันรูฟไฟฟ้า ไฟตัดหมอกในคู่หน้าแบบ LED คิ้วกันชนด้านหน้า และด้านข้างสีโครเมียม ในส่วนของเบาะที่นั่ง จะใช้เป็นเบาะหนังสีดำ คอนโซลด้านหน้าจะหุ้มด้วยผ้า Grand Luxe Suede สีเทา สำหรับราคาจัดจำหน่ายในรุ่นนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 879,000 บาท

4. Mazda cx3 รุ่น PROACTIVE

รุ่นนี้จะถือเป็นรุ่นท็อปของ Mazda cx3 ที่จะมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานอย่างหลากหลายมากกว่าเดิม ทั้งหลังคาซันรูฟที่สามารถเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า หน้าจอการแสดงข้อมูลในการขับขี่ Active Driving Display ด้วยระบบไฟฟ้า เครื่องเสียงที่สามารถรองรับระบบ Apply CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (Wireless) ระบบด้านความปลอดภัยแบบพรีเมียม ระบบการช่วยหยุดรถอย่างอัตโนมัติ ระบบการเตือนการชนด้านหน้า และระบบเบรกแบบ SBS ระบบการช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน MRCC ระบบปรับไฟสูงอย่างอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางจราจร ระบบกล้องหลังที่แสดงภาพได้ถึง 360 องศา อย่างรอบทิศทาง ระบบเซนเซอร์ช่วยกะระยะการจอดทั้งด้านหน้า และด้านหลังอย่างละ 4 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ล้ออัลลอยที่มีขนาดใหญ่ถึง 18 นิ้ว โดยราคาการจัดจำหน่ายของรุ่นนี้จะอยู่ที่ราคา 959,000 บาท

สำหรับรถ Mazda cx3 ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ สามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายได้อย่างปลอดภัย ไปพร้อมกับความเหนือชั้นของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ผสาน และควบคุมการทำงานของรถทั้งคันเลยทีเดียว จึงทำให้รถรุ่นนี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะมอบประสบการณ์ในการขับขี่ ทั้งยังเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ในส่วนของราคารถรุ่นนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ซึ่งถือว่ามีให้เลือกค่อนข้างเยอะพอสมควร ซึ่งในแต่ละรุ่นจะสามารถตอบสนองความต้องการ ที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย