ยอดขายทะลุ 70,000 คัน-มาสด้า ประเทศไทย เติบโตสูงสุดของโลก 2 ปีซ้อน
บริษัทมาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยความสำเร็จผลการดำเนินธุรกิจประจำปีงบประมาณ 2561 ยอดขายพุ่งกระฉูดสร้างสถิติใหม่ทะลุเกิน 70,000 คัน เพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ เติบโตสูงสุดอันดับ 1 ของมาสด้า ทั่วโลก 2 ปีติดต่อกัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 6.6 เปอร์เซ็นต์ รั้งอันดับ 2 ของโลก ปริมาณยอดขายสร้างสถิติใหม่ขยับขึ้นครองอันดับ 6 ประเทศที่มียอดขายมากที่สุด ประกาศชัดปีนี้เตรียมเสริมทัพความแข็งแกร่งด้วยการส่งรถยนต์รุ่นใหม่ลงทำตลาดมากถึง 6 รุ่น พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 75,000 คัน
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหารมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวแสดงความเห็นว่า “จากความสำเร็จด้านการดำเนินธุรกิจของมาสด้าในปีนี้ ระหว่างปีปฏิทินหรือ Calendar Year (1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2561) และปีงบประมาณหรือ Fiscal Year (1 เม.ย. 2561-31 มี.ค. 2562) มียอดขายใกล้เคียงกันมาก สำหรับปีงบประมาณ FY2018 มียอดขายสูงถึง 70,468 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ จากปีงบประมาณ FY2017 อยู่ที่ 56,379 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 6.6 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากออสเตรเลีย”
“ทำให้วันนี้ มาสด้า ประเทศไทย ถูกจับตามองจากตลาดทั่วโลกเนื่องจากอัตราการเติบโตสูงที่สุดในโลก 2 ปีติดต่อกัน ที่สำคัญปริมาณยอดขายที่ทะลุเกิน 70,000 คันนั้น ยังส่งผลให้มาสด้า ประเทศไทย ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 6 ของมาสด้าทั่วโลก ส่วนปีนี้ FY2019 มาสด้า ตั้งเป้าไว้ที่ 75,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์”
ในขณะที่รถยนต์นั่งมาสด้า2 ยังคงเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนหลัก และได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุด มียอดขายสูงถึง 48,119 คัน เพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นครองเบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก 11 เดือนติดต่อกัน ในขณะที่รถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 โปร เริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหลังจากที่ปล่อยรุ่นพิเศษ มาสด้า บีที-50 โปร ธันเดอร์ ออกสู่ตลาด ด้วยยอดขายสูงถึง 7,500 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 29 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งรถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า CX-5 มียอดขายสะสมสูงถึง 6,834 คัน เพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วยรถเก๋งคอมแพคคาร์มาสด้า3 ก็ร้อนแรงไม่แพ้กันมียอดขายสูงถึง 4,852 คัน ส่วนฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ มาสด้า CX-3 ที่แม้จะเจอกับคู่แข่งรอบด้านแต่ก็สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 3,132 คัน และสุดท้ายคือรถสปอร์ตเปิดประทุนหลังคาไฟฟ้าที่เปิด-ปิดเร็วที่สุดในโลกที่ได้รับยกย่องให้เป็นรถสปอร์ตที่ขับสนุกที่สุด และเป็นแบรนด์ไอคอนระดับตำนาน มาสด้า MX-5 มียอดขายถึง 31 คัน
สรุปยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำปีงบประมาณ 2561 เทียบกับปีงบประมาณ 2560
ข้อมูลการขายรถ | เม.ย. 2561–มี.ค. 2562 | เม.ย. 2560– มี.ค. 2561 | % เปลี่ยนแปลง |
MAZDA2 | 48,119 | 35,440 | + 36 |
MAZDA3 | 4,852 | 4,945 | – 2 |
MAZDA CX-3 | 3,132 | 3,755 | – 17 |
MAZDA CX-5 | 6,834 | 6,411 | + 7 |
MAZDA BT-50 PRO | 7,500 | 5,798 | + 29 |
MAZDA MX-5 | 31 | 30 | + 3 |
ยอดรวม | 70,468 | 56,379 | + 25 |
สำหรับยอดขายมาสด้าไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม– มีนาคม 2562) มียอดจำหน่ายรวม 16,579 คัน ยังคงรักษาระดับยอดขายใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 6.3 เปอร์เซ็นต์ โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งมาสด้า2 มีจำนวนมากที่สุด 12,460 คัน ตามมาด้วยรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 1,652 คัน รถอเนกประสงค์เอสยูวี มาสด้า CX-5 จำนวน 1,021 คัน รถยนต์นั่งมาสด้า3 จำนวน 887 คัน รถอเนกประสงค์ครอสส์โอเวอร์มาสด้า CX-3 จำนวน 509 คัน และรถสปอร์ตเปิดประทุนมาสด้า MX-5 จำนวน 5 คัน
“ปัจจัยหลักสำคัญที่จะกระตุ้นให้ตลาดรถยนต์ในปี 2562 เกิดความคึกคักเนื่องมาจากระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเริ่มมีการขยายตัว และปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี ผมย้ำอยู่เสมอว่าทุกคนต้องช่วยกันผลักดันให้คนในประเทศเกิดความเชื่อมั่นให้ได้ว่า เราทุกคนต้องเดินหน้าไปด้วยกัน แม้จะเห็นผลช้า แต่ทุกคนต้องช่วยกัน วันนี้เริ่มจะเห็นแล้วว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ตลาดหุ้นกลับมาคึกคัก แนวโน้มการส่งออกเริ่มฟื้นตัว ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา เพราะประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจมากที่สุดในโลกของนักเดินทาง ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น กำลังซื้อมีมากขึ้น ธุรกิจหลายอย่างเริ่มขยับตัวมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ทั้งรถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่กำลังใกล้บรรลุผลสำเร็จ หรือแม้แต่การเปิดระเบียงเศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้เราก้าวไปสู่ศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการเชื่อมโยงการขนส่งระดับภูมิภาค” นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติม
ในการประเมินสถานการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศไทย ตลาดรถยนต์ปีนี้น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลายๆ ค่ายเริ่มออกตัวล้อฟรีกันตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะมาสด้า ย้ำชัดเจนว่าปีนี้เป็นปีที่จะทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่มากที่สุด นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ ออกมาการันตีว่า “ปีนี้ถือเป็นปีที่มาสด้า กำลังก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ มาสด้า เริ่มวางแผนการสื่อสารไปยังลูกค้าเกี่ยวกับรถยนต์ในเจนเนอเรชั่นที่ 7 หรือ G7 ซึ่งจะทำการเปิดตัวในครึ่งปีหลัง พร้อมๆ กับรุ่นอื่นที่จะทยอยเปิดตัวในปีนี้ รวมแล้วทั้งหมด 6 รุ่น ครอบคลุมในทุกเซกเม้นต์ โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ”
การเติบโตของค่ายมาสด้า เป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง หลังจากที่เดินหน้าปรับเปลี่ยนทั้งการขาย และการบริการ ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า จนส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาแทบจะไม่มีรถยนต์รุ่นใหม่ส่งเข้าตลาด แต่จากการสร้างประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานของลูกค้า จนเกิดการบอกต่อสู่คนรอบข้าง ทำให้รถมาสด้าทุกรุ่นเดินหน้ากอบโกยยอดขายไปได้อย่างสวยงาม แน่นอนว่าปีนี้ถือเป็นปีทองที่มาสด้า จะเก็บเกี่ยวยอดขายให้บรรลุตามเป้าที่ตั้งไว้ 75,000 คัน หลายคนอาจมองว่าน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนรุ่นที่จะส่งลงตลาด นับจากนี้เป็นต้นไปมาสด้าจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มั่นคงแข็งแกร่งต่อไป
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th