ตอนที่ McLaren เปิดตัว Elva ออกมาเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้ระบุว่าจะมีการผลิตรถซูเปอร์คาร์ไร้หลังคาและกระจกหน้ารุ่นนี้จำกัด 399 คัน อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับรถรุ่นนี้คือจะมีการลดจำนวนการผลิตน้อยลงกว่าที่เคยระบุไว้ตอนเปิดตัว

Mike Flewitt ซีอีโอของ McLaren ได้บอกในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Australian Financial Review ว่าทางบริษัทได้มีการตัดสินใจลดการผลิตรถโรดสเตอร์รุ่น Elvaของตนลงจากจำนวน 399 คันซึ่งระบุไว้ตอนเปิดตัวเหลือ 249 คัน โดยมีเหตุผลเพื่อเพิ่มความพิเศษให้กับรถของตน พร้อมกับบอกว่า “มีการเสียงจากลูกค้าของเราโดยพวกเขาคิดว่ารถควรมีความพิเศษมากขึ้นกว่าที่เป็น ดังนั้นเราจะยุติการผลิตที่ 249 คัน”

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเบื้องหลังจริงๆ ของการลดจำนวนผลิตรถโรดสเตอร์จาก McLarenลงอาจไม่ได้เป็นไปตามที่ทางซีอีอของบริษัทเปิดเผยออกมา เพราะมีแหล่งข่าวภายในที่เปิดเผยกับสื่อรถยนต์ในอักฤษว่า ความจริงแล้ว McLaren ประเมินความต้องการในตลาดของ Elvaสูงเกินไป จึงทำให้ต้องมีการทบทวนจำนวนการผลิตใหม่ แม้ว่า Elva ซึ่งถูกตั้งราคาไว้ที่ 1,425,000 ปอนด์จะมีความโดดเด่นทั้งการเป็นรถโรดสเตอร์ที่ถูกออกแบบให้ไร้หลังคาและกระจกหน้า รวมทั้งถูกอ้างว่าเป็นรถที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของ McLarenแม้จะไม่ได้ระบุน้ำหนักตัวที่แน่ชัดเอาไว้ตอนเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วก็ตาม

แม้ McLarenจะไม่ได้ระบุน้ำหนักตัวเมื่อผลิตเสร็จแล้วของ Elvaออกมา แต่ก็รับประกันถึงการมีสมรรถนะที่เหนือกว่า Senna อย่างการมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาไม่ถึง 3 วินาที ส่วนการเร่งจาก 0-200 กม./ชม. ใช้เวลา 6.7 วินาที ขณะที่เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบที่ใช้กับรถโรดสเตอร์ไร้ทั้งกระจกหน้าและหลังคาของ McLaren ให้กำลังสูงสุด 815 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตัน-เมตร นอกจากนี้ Elvaยังเป็นรถรุ่นแรกของ McLaren ที่ใช้ระบบ Active Air Management เพื่อนำลมให้ผ่านผู้ขับและผู้โดยสารไป แต่หากอยากให้มีกระจกหน้าทางผู้ผลิตก็สามารถติดให้ได้

การทำ Elvaออกมาของ McLarenทำให้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มรถโรดสเตอร์หรูเป็นพิเศษร่วมกับ Ferrari SP1 และ SP2 Monza ที่มีการผลิตจำกัด 250 คัน รวมทั้ง Speedster ของ Aston Martin ที่ผลิต 88 คัน

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th