McLaren 720S Le Mans Special Edition ระลึกถึงการคว้าชัยในเลอ มังส์ 25 ปีที่แล้ว
McLaren ที่มักทำรถรุ่นพิเศษออกมาเป็นทางเลือกเสมอ เพิ่งมีการเปิดตัวรถรุ่นพิเศษล่าสุดของตนออกมา โดยครั้งนี้เป็นการนำเอา 720S มาทำเป็นรุ่นพิเศษในชื่อ Le Mans Special Edition และบอกว่านี่คือการฉลองครบรอบ 25 ปีชัยชนะในการแข่งเลอ มังส์ของ F1 GTR เมื่อปี 1995
McLaren 720S Le Mans Special Edition ที่มีการผลิตจำกัดแค่ 50 คันสำหรับขายทั่วโลกมี 2 สีให้เลือกสำหรับภายนอกของรถคือสีส้ม McLaren Orange และสีเทา Sarthe Grey ซึ่งไม่ว่าจะเลือกสีใดภายนอกของรถรุ่นพิเศษจะมีส่วนล่างของทั้งกันชนหน้า ด้านข้างรถ และกันชนหลังเป็นสีเทา Ueno Grey พร้อมกับสัญลักษณ์ McLaren 25 Anniversary Le Mans ที่ด้านข้างรถบริเวณใกล้ๆ กับซุ้มล้อหลัง
นอกจากนี้รายการเพิ่มความพิเศษให้ 720S Le Mans Special Edition ยังไม่หมด เพราะมีทั้งล้อ LM ลาย 5 ก้านที่สะท้อนมาจากการออกแบบล้อของ F1 GTR #59 ที่ใช้ในการแข่งเลอ มังส์ หลังคาสีดำมันโดยมีส่วนหลังเป็นวัสดุโพลีคาร์บอเนต คาลิเปอร์เบรกสีทอง ช่องระบายอากาศคาร์บอนไฟเบอร์ที่ซุ้มล้อหน้า รวมทั้งใช้อุปกรณ์สีดำมันในการแต่งภายนอกตัดกับสีของตัวรถ นอกจากนี้ป้าย VIN ของรถทุกคันยังขึ้นต้นด้วยเลข 298 ซึ่งเป็นจำนวนรอบที่ F1 GTR ถูกขับเมื่อครบการแข่งเลอ มังส์
ส่วนภายในห้องโดยสารสามารถเลือกได้ระหว่างการใช้แนวการแต่งโดยใช้ Alcantara สีดำร่วมกับการใช้สีส้ม McLaren Orange หรือสีเทา Dove Grey ส่วนเบาะที่ใช้เป็นเบาะรถแข่งคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมปักพนักพิงศรีษะเป็นสัญลักษณ์ McLaren 25 Anniversary Le Mans ในขณะที่พวงมาลัยมีมาร์กที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาด้วยสีส้มหรือเทาตามที่เลือกเพื่อตัดกับสีดำของ Alcantara นอกจากนี้มีทั้งแผ่นป้าย และพรมปูพื้นที่มีสัญลักษณ์ระบุรุ่นพิเศษ
ด้านสมรรถนะของ McLaren 720S รุ่นพิเศษมาจากเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร เทอร์โบที่มีกำลัง 720 แรงม้า ซึ่งใช้เวลา 2.9 วินาทีเพื่อพารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และใช้เวลา 7.8 วินาทีสำหรับความเร็วตั้งแต่ 0-200 กม./ชม. ก่อนจะไปถึง 212 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุด นอกจากนี้ทาง McLaren ยังระบุว่า 720S มีโครงสร้างสร้าง Monocage II ส่วนกลางและระบบช่วงล่าง Proactive Chassis Control II เป็นคาร์บอนไฟเบอร์จึงทำให้เป็นรถที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในคลาสเดียวกันเพื่อกาารขับที่เร้าใจ
McLaren ตั้งราคา 720S Le Mans Special Edition ไว้ที่ 254,500 ปอนด์ โดยเริ่มรับจองแล้ว และจะเริ่มส่งมอบรถตั้งแต่เดือนกันยายนปีนี้
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th