McLaren เผยโฉม Artura ซึ่งถูกระบุว่าเป็นซูเปอร์คาร์ High Performance Hybrid ที่เป็นการผลิตต่อเนื่องรุ่นแรกของตน รวมทั้งยังอ้างว่าเป็นการนำเอาความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ทั้งด้านวิศวกรรมรถแข่งและรถใช้งานบนถนนสาธารณะกว่า 50  ปีของตนมาใช้เพื่อผสานความเร้าใจของสมรรถนะ พลังในการขับเข้ากับศักยภาพของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

McLaren Artura ถูกสร้างขึ้นบน McLaren Carbon Lightweight Architecture ใหม่เฉพาะสำหรับขุมกำลัง High Performance Hybrid ที่มาจากศูนย์เทคโนโลยีวัสดุผสมของ McLaren เอง โดยใช้เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบใหม่ ที่ให้กำลัง 585 แรงม้าที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 585 นิวตัน-เมตร ร่วมกับอี-มอเตอร์กำลัง 95 แรงม้า และให้แรงบิดได้ทันที 225 นิวตัน-เมตร จึงทำให้ซุเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นนี้มาพร้อมกำลังรวม 680 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 720 นิวตัน-เมตร

สำหรับการส่งกำลังสู่ล้อเป็นหน้าที่ของเกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีดใหม่พร้อมกับใช้เฟืองท้าย Electronic Differential ซึ่งจะทำหน้าที่เฉพาะการพาไปข้างหน้าเท่านั้น ขณะที่การถอยหลังเป็นหน้าที่มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจากทั้งขุมกำลังไฮบริดและระบบส่งกำลังใหม่ทำให้ Artura ใช้เวลา 3 วินาทีในการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 8.3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. และ 21.5 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-300 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 330 กม./ชม.

สำหรับแบตเตอรีที่ให้พลังงานมอเตอร์ไฟฟ้ามีขนาด 7.4 kWh สามารถใช้เพื่อเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าได้ 30 กิโลเมตรโดยใช้ความเร็วได้สูงสุด 130 กม./ชม. และใช้เวลา 2.5 ชั่วโมงในการชาร์จพลังงานถึง 80 เปอร์เซ็นต์เมื่อใช้สายชาร์จมาตรฐาน EVSE รวมทั้งยังสามารถชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากกาทำงานของเครื่องยนต์ในระหว่างการขับได้

เพื่อรับกับสมรรถนะของรถ McLaren จึงออกแบบช่วงล่างด้านหลังใหม่โดยใช้ส่วนบนเป็นปีกนกและส่วนล่างเป็นมัลติลิงก์ พร้อมกับอัพเกรดระบบควบคุม Electro-hydraulic Steering และ Proactive Damping Control เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่ว ความสเถียร และสมรรถนะของรถ และใช้ยาง Pirelli P Zero CORSA ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Pirelli Cyber Tire สำหรับการยึดเกาะถนน

สำหรับภายในห้องโดยสารถูกออกแบบเพื่อให้ผู้ขับเข้าถึงการควบคุมที่สำคัญได้ในขณะกำลังขับรถ พร้อมกับมีระบบ Infotainment ใหม่และจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ส่วนเบาะนั่งเป็น Clubsport Seat ใหม่น้ำหนักเบา

เนื่องจากการใช้วัสดุน้ำหนักเบาทั้งแชสซีส์ ตัวถัง เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า รวมทั้งภายในห้องโดยสาร จึงทำให้ Artura มีน้ำหนักรถรวมของเหลวต่างๆ และน้ำมันเครื่องประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของความจุถังอยู่ที่ 1,498 กิโลกรัม ส่วนราคาของรถถูกตั้งไว้ที่ 185,500 ปอนด์ และทาง McLaren ก็เปิดรับจองแล้ว

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th