McLaren GT รถซูเปอร์คาร์ที่เป็นมิตรสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากที่สุดของบริษัทถูกแทนที่ด้วย GTS รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับน้ำหนักตัวเบาลง พร้อมกับมีสมรรถนะสูงขึ้น แต่ยังคงความเป็นมิตรสำหรับการขับขี่เหมือนเดิม

McLaren GTS มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบมีกำลัง 635 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 630 นิวตัน-เมตร โดยใช้ระบบส่งกำลัง SSG 7 สปีดนำกำลังสู่ล้อ ซึ่งมีกำลังมากกว่ารุ่น GT 15 แรงม้า และเมื่อรวมกับการที่รถมีน้ำหนัก 1,520 กิโลกรัมเบาลงกว่า GT 10 กิโลกรัม จึงทำให้ทำความเร็วจาก  0-200 กม./ชม. เร็วกว่ารุ่น GT ด้วยเวลา 8.9 วินาที ขณะที่การทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 3.2 วินาที

รถซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่มีหลังคาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์จากการรีไซเคิลรวมทั้งมีโครงสร้างส่วนบนของรถเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อน้ำหนักของรถเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลงด้วย ในขณะที่แชสซีส์โมโนค็อกคาร์บอนไฟเบอร์มาพร้อมกับช่วงล่างที่ทางผู้ผลิตเรียกว่า Intelligent Adaptive Suspension ซึ่งใช้แดมเปอร์ไฮดรอลิกทวินวาล์วแปรผันต่อเนื่อง ร่วมกับช่วงล่างดับเบิลวิชโบนอลูมิเนียม

นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับระบบพวงมาลัย Electro-Hydraulic ที่ถูกระบุว่าได้รับการปรับตั้งเพื่อให้มีทั้งการตอบสนองและความรู้สึกที่ดี มีความละเอียดและแม่นยำสูง รวมทั้งมีระบบช่วยในการควบคุมเพิ่มขึ้นที่ความเร็วต่ำเพื่อให้ควบคุมรถง่ายขึ้นในสถานการณ์อย่างจอดรถขนานกับถนนหรือจอดรถในช่องจอด ส่วนการหยุดรถมีเบรกคาร์บอนเซรามิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยที่ล้อหน้ามีดิสก์เบรกขนาด 390 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกอลูมิเนียม 6 ลูกสูบ ส่วนดิสก์เบรกที่ล้อหลังมีขนาด 380 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรก 4 ลูกสูบ

ภายนอกของรถรุ่นใหม่ยังคงเส้ยสาย รูปทรง และชิ้นส่วนแอโรไดนามิกมาจาก GT แต่มีปรับรูปลักษณ์ใหม่ ทำให้ด้านหน้าของรถที่มีลักษณ์ Hammerhead ได้รับการอัพเดตใหม่ที่ส่วนล่างของกันชนหน้าให้มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนที่ซุ้มล้อหลังของรถมีช่องดักอากาศที่สูงมากขึ้น นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับปลายท่อไอเสีย กระจกข้าง และขอบกระจกหน้าต่างสีดำเงา

ห้องโดยสารของรถที่ยังคงการใช้งานที่ง่ายมาจากรุ่นก่อนหน้าถูกออกแบบให้ผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความหรู พร้อมให้ความสบายสำหรับการเดินทางไกล โดยมีการใช้วัสดุที่มีความหลากหลายเพื่อบ่งบอกถึงทั้งความหรูและสมรรถนะอย่างอลูมิเนียม โลหะปัดเงา วัสดุสีดำเงา ในขณะที่เบาะรถหุ้มด้วยหนัง Nappa เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนจอแสดงข้อมูลการขับขี่มีขนาด 10.25 นิ้ว ขณะที่จอ Infotainment แนวตั้งมีขนาด 7 นิ้ว

ทางผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์จากสหราชอาณาจักรเริ่มรับออร์เดอร์รถทันทีที่เปิดตัว ส่วนการส่งมอบรถจะเริ่มตั้งแต่ปี 2024 แต่ไม่ได้เปิดเผยราคารถออกมา