Mercedes ปรับโฉม New S-Class อัพเกรดความหรู-ใส่เครื่องยนต์ใหม่
ถึงจะถูกรถคอนเซ็ปต์คาร์ของตัวเองขโมยซีน แต่ S-Class ที่เปรียบเสมือนเรือธงของค่าย Mercedes-Benz ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมงาน Auto Shanghai 2017 ด้วยการใช้ประโยคที่เรียบง่ายแต่ดูสวยหรู “The Best Automobile in the World is Now Even Better” หรือพูดแบบง่ายๆ คือรถยนต์ที่ดีที่สุดของโลกที่ถูกยกระดับให้ดีขึ้นกว่าเดิม ในการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมใหม่เป็นครั้งแรกของโลกที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไฮไลท์สำคัญที่พวกเขาต้องการนำเสนอคือการใช้เครื่องยนต์ใหม่ V6 ทั้งในรุ่นเบนซิน และดีเซล รวมทั้งเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ V8 ที่ได้รับการพัฒนาใหม่เช่นกัน รวมทั้งรุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด เพิ่มความจุแบตเตอรี่เป็น 13.3 กิโลวัตต์
ทำให้ S-Class สามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้าได้ไกลขึ้นเป็น 50 กิโลเมตร รวมทั้งเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการติดตั้งอุปกรณ์จ่ายไฟฟ้า Integrated Starter Alternator ขนาด 48 วัตต์ เผื่อลดภาระของเครื่องยนต์
เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ Intelligent Drive มีการยกระดับที่ใกล้เคียงรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติมากขึ้น ด้วยการทำงานร่วมระหว่าง 2 ระบบหลัก Distronic Active Proximity Control และ Active Steer Assist ที่ช่วยควบคุมพวงมาลัย, การเพิ่ม-ลดระดับความเร็วของรถยนต์ระหว่างเข้าโค้งหรือผ่านทางแยก
ระบบช่วยเหลือในการเปลี่ยนเลน Active Lane Change Assist ได้รับการอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นเดียวกับ Active Emergency Stop Assist จะสั่งให้รถหยุดหากคนขับไม่ได้ควบคุมพวงมาลัยเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด
รวมทั้งระบบ Following Vehicles in a Tailback ช่วยควบคุมให้รถออกตัว-หยุดอัตโนมัติในสภาพการจราจรติดขัด จะทำงานต่อเนื่องถึงรถจะจอดนิ่งเกินกว่า 30 วินาทีก็ตาม
สำหรับรายละเอียดของเครื่องยนต์จะแบ่งเป็น Mercedes-Benz S 560 4MATIC และ Mercedes-Maybach S 560 4MATIC จะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ V8 ให้กำลังสูงสุด 469 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตันเมตร
มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีขึ้นราว 10 เปอร์เซ็นต์จากรุ่นก่อนอยู่ที่ 8.5 ลิตร/100 กิโลเมตร และ 9.3 ลิตร/100 กิโลเมตร ตามลำดับ
แต่หากต้องการเพิ่มอารมณ์สปอร์ตในรุ่น Mercedes-AMG S 63 4MATIC+ ถึงจะเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ 5.5-litre V-8 Biturbo มาใช้ตัวใหม่ AMG 4.0-litre V-8 Biturbo แต่มีกำลังมากถึง 612 แรงม้า และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 8.9 ลิตร/100 กิโลเมตร
และสำหรับรุ่นดีเซลกลายเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Mercedes โดยเครื่อง V6 รุ่นใหม่ที่นำมาใช้กับ Mercedes S 350 d 4MATIC จะให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร ขณะที่รุ่น S 400 d 4MATIC จะมีกำลังเพิ่มเป็น 340 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตันเมตร รวมทั้งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งระบบ Camtronic เพื่อควบคุมการทำงานของลูกสูบ
ความจริงไฮไลท์ของ S-Class รุ่นปรับโฉมมีอีกเพียบ แต่หากจะพูดถึงความสบายของคนนั่งที่เป็นจุดสำคัญของรถยนต์ระดับนี้ เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ติดตั้งระบบควบคุม Energizing เพื่อสร้างความผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง โดยมีให้เลือกถึง 6 โปรแกรมได้แก่ Freshness, Warmth, Vitality, Joy, Comfort และ Training
หลังจากเปิดตัวที่ประเทศจีน New Mercedes S-Class มีกำหนดจะเริ่มต้นขายอย่างเป็นทางการในแถบยุโรป ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ สำหรับประเทศไทยคงต้องรอไปก่อน แต่เชื่อว่าคงอีกไม่นานนี้แน่นอน
เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล
ข้อมูล : media.daimler.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE