จากรูปแบบของสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก จนมาถึงในบ้านเรา ล้วนส่งผลกระทบต่อรูปแบบการใช้ชีวิตที่เริ่มมีการปรับสภาพตามกันมา หลายๆ ปัจจัยมีการเปลี่ยนแปลงตามรถยนต์ก็นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิต จนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 6 ในการดำรงชีพ

เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รถในเซ็กเมนต์ใหม่เริ่มทยอยเปิดตัวตามกันมา อย่างในวันนี้เราจะมาดูเซ็กเมนต์ที่นับว่ายังเป็นเซ็กเมนต์ใหม่ที่มาแรงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาของตลาดรถยนต์ในบ้านเรา อย่างกลุ่มรถคอมแพกต์เอสยูวี หรือเรียกกันง่ายๆ ว่ากลุ่มน้องเล็กของรถตรวจการณ์อเนกประสงค์ ที่ค่อนข้างเข้ามามีบทบาทมากในตลาดยุคปัจจุบัน จนเกือบจะเบียดกลุ่มรถบี-เซ็กเมนต์ หรือรถซีดานรุ่นกลางถึงเล็กให้ลดจำนวนลง จากความอเนกประสงค์ของรูปแบบรถแบบ 5 ประตู ที่มีระดับช่วงล่างสูงกว่าบรรดารถเก๋งทั่วๆ ไป ตอบสนองต่อการใช้งานบนเส้นทางที่หลากหลายยิ่งขึ้น ตัวรถมีความโฉบเฉี่ยวไม่แพ้รถซีดาน

และที่สำคัญ เป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนต์ที่เหล่าผู้ผลิตล้วนขนทัพเข้ามาเปิดตัวในตลาดรถยนต์เมืองไทย อย่างในปัจจุบันนี้มีตั้งแต่ระดับราคาประมาณล้านอย่าง ฮอนด้า เอช-อาร์วี, นิสสัน จู๊ค, ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ไปจนถึง โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็ววันนี้ และเมื่อหันมองไปในกลุ่มพรีเมียมจากฝั่งยุโรป ก็มิได้น้อยหน้าฝั่งเอเชียแต่อย่างใด ล้วนมีรถในเซ็กเมนต์นี้ออกมาตอบสนองตลาดกันตั้งแต่ระดับราคาประมาณ 2 ล้าน ไปจนถึงเกือบ 5 ล้านบาท ให้ได้เลือกเป็นเจ้าของ อย่าง บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์- 1, ออดี้ คิว 2 จนมาถึง เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ และเท่าที่สังเกตกลุ่มผู้ใช้รถในเซ็กเมนต์นี้นั้นจะเป็นเหล่าพ่อบ้านและแม่บ้านยุคใหม่ มองหารถที่อเนกประสงค์ เหมาะกับสภาพถนนหนทางในบ้านเรา สามารถขนของขนสัมภาระได้สะดวก ขนาดกะทัดรัด ให้ความคล่องแคล่วในการใช้งาน

แต่พระเอกที่เรากำลังจะพูดถึงกันในฉบับนี้ หาใช่รถพ่อบ้านธรรมดาไม่ เพราะเรากำลังจะพาท่านผู้อ่านร่วมสัมผัสสมรรถนะและความร้อนแรงของ Mercedes-AMG GLC 45 คอมแพกต์เอสยูวีที่ร้อนแรงที่สุดคันหนึ่งบนพื้นปฐพีนี้ พกพาฝูงม้าเยอรมันมากว่า 381 ตัว จากเครื่องยนต์ที่มีความจุเพียงแค่ 2.0 ลิตร การันตีมาด้วยรางวัลเครื่องยนต์สมรรถนะสูงมาแล้วหลายรางวัล ต่อจากนี้จะมาลองสัมผัสกันว่า รถพ่อบ้านคันนี้จะร้อนแรง ดุเดือด สมกับการแลกมาด้วยค่าตัวที่แพงขึ้นอีกกว่าเท่าตัว จนไปแตะอยู่ที่ตัวเลข 4.84 ล้านบาท กันหรือไม่

บุคลิกภายนอกที่ดูน่าเกรงขาม ช่วยประกาศความไม่ธรรมดาของ GLA 45 คันนี้

หน้าตาภายนอกได้รับการโมดิฟายแต่งแต้มความโฉบเฉี่ยว ดุดัน แลดูน่าเกรงขามขึ้นมาจากเวอร์ชันดั้งเดิมค่อนข้างมาก ชุดแอโรพาร์ทรอบคันจากทาง AMG ได้ถูกบรรจุเข้าไปแบบครบครัน  กระจังหน้าแบบสปอร์ตเส้นคู่แนวนอน เน้นชัดไปที่โลโกเมอร์เซเดส และสัญลักษณ์ AMG ก่อนที่จะผ่านไปสู่ช่องรับลมขนาดใหญ่ที่ช่วยระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ ถัดลงมาที่ตัวกันชนหน้าแบบสปอร์ต ถูกออกแบบให้เน้นการส่งผ่านลมเข้าไประบายความร้อนชุดอินเตอร์คูลเลอร์ใบโต และตัวออยล์คูลเลอร์ ไปจนถึงระบบเบรกแบบครบครัน พร้อมกับติดตั้งครีบดักลมมาให้ครบ เพื่อช่วยจัดเรียงกระแสลมที่เคลื่อนผ่านตัวรถ สร้าง Down Force หรือแรงกดทางด้านหน้าให้มีมากขึ้น และเป็นการช่วยลดกระแสลมที่จะเข้าไปยกทางด้านล่างของตัวรถขึ้น เติมความแน่นหนึบในการยึดเกาะถนนในย่านความเร็วสูงให้มีความมั่นใจได้ดี ทางด้านข้างจะเห็นได้ถึงเส้นแนวคิ้วของตัวรถรอบคันที่ถูกเปลี่ยนจากโครเมียมเงาแว้บมาเป็นสีดำ เพิ่มความดุ สุขุมให้กับมุมมองได้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับสเกิร์ตข้างดีไซน์ใหม่ ผสมผสานความสปอร์ตเข้าไว้กับความบึกบึน แข็งแกร่ง ตามสไตล์ของรถ SUV เอาไว้ได้อย่างลงตัว ชุดล้อแม็กขอบ 20 นิ้ว ให้ทั้งความเท่ และความโฉบเฉี่ยวไปพร้อมๆ กับการเพิ่มสมรรถนะ เผยให้เห็นถึงชุดจานเบรกหน้าและหลังขนาดใหญ่ ที่บีบรัดด้วยคาลิเปอร์เบรกแบบสปอร์ตแบบ 4 pot แปะโลโก AMG เอาไว้อย่างเด่นชัด

มาถึงมุมมองด้านท้ายยังคงสร้างความดุดัน และความแตกต่างกับเวอร์ชันปกติไว้ได้มาก จากสปอยเลอร์ท้ายชิ้นโตที่เล่นโทนสีดำ สามารถตัดกับสีตัวรถได้อย่างโดดเด่น เสริมความโฉบเฉี่ยวได้มากขึ้น สามารถเข้ากับดีไซน์ของกันชนท้ายที่ถูกออกแบบให้เน้นเส้นสายและช่องระบายลมคู่ที่มุมทั้งสองเอาไว้ได้อย่างลงตัว พร้อมอวดโฉมปลายท่อไอเสียทรงเหลี่ยมสีดำด้าน ที่ปล่อยไอเสียออกมาผ่านรูท่อทั้ง 4 ให้เสียงที่ทุ้มและดุดันในยามกระแทกคันเร่ง สร้างความเร้าใจและความรู้สึกที่อยากจะปลดปล่อยพลังงานในทุกๆ ครั้งที่กดคันเร่ง  ที่สำคัญ ชุดท่อไอเสียชุดนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันควบคุมเสียงของท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่สามารถปรับระดับของสุ้มเสียงให้ก้องกังวานขึ้นได้อย่างง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัสลงไปที่ปุ่มตรงบริเวณคอนโซลกลาง ทางด้านข้างคันเกียร์ อีกจุดหนึ่งที่ช่วยเติมความโฉบเฉี่ยวให้กับ GLA คันนี้ได้มากกับการเปลี่ยนแปลงชุดไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ตามเวอร์ชันของตัวรถ ที่ใน GLA 45 คันนี้เป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่ได้รับการแต่งแต้มสีสันมาใหม่ ให้ความแตกต่างจากเวอร์ชันแรกที่นำเข้ามาอยู่พอตัว

สปอร์ต เก๋ไก๋ ไฉไล นิยามสั้นๆ ที่ใช้บรรยายความรู้สึกภายในห้องโดยสาร

ถึงแม้ห้องโดยสารจะยังคงมีพื้นฐานเดียวกับ GLA รุ่นมาตรฐาน แต่ด้วยฝีไม้ลายมือของ AMG ก็สามารถเนรมิตให้ภายในห้องโดยสารของ AMG GLA 45 คันนี้กลับดูไม่เหมือนเดิม ด้วยการเติมความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว เก๋ไก๋ เข้ามาในหลายๆ รายละเอียดของห้องโดยสาร สามารถสร้างความรู้สึกสะดุดให้กับหลายๆ เสียงที่ได้เข้ามาลองสัมผัส ตั้งแต่ชุดเบาะแบบสปอร์ตที่ได้รับการเดินด้ายใหม่สีแดง รับกันได้ดีกับตัวสายเข็มขัดนิรภัยสีแดง เติมเต็มอารมณ์สปอร์ตได้ตั้งแต่เข้ามาสัมผัส คันเกียร์อันจิ๋วที่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ได้รับการประทับตราสัญลักษณ์ AMG ลงบนตัวหนังหุ้ม ตัดกับวัสดุอะลูมิเนียมที่เลือกใช้ได้อย่างลงตัว และยังเป็นการสร้างความแตกต่างจากเวอร์ชันปกติได้มาก เพราะในเวอร์ชันปกตินั้น ตัวคันเกียร์จะไปอยู่ในตำแหน่งด้านหลังของก้านพวงมาลัยทางด้านขวามือ คล้ายกับมีก้านควบคุมไฟเลี้ยวเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอัน พวงมาลัยแบบสปอร์ตวงเล็กจับถนัดกระชับมือ ยังได้รับการเติมความสปอร์ตเข้าไปอีกนิด จากการใช้หนังกลับมาสลับในตำแหน่งที่มือจับ ช่วยเพิ่มความกระชับ ไปพร้อมๆ กับความพิเศษไม่เหมือนใคร แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการดูแลรักษา เพราะเจ้าหนังกลับที่ว่านี้ มีข้อด้อยอยู่ในเรื่องของอายุในการใช้งาน ไปจนถึงการดูดซับบรรดาเหงื่อไคลที่อาจจะเกิดขึ้นได้ง่าย

ภายในตัวคอนโซลหน้าที่นอกเหนือจากการเลือกใช้วัสดุเป็นหนังคุณภาพดีแล้ว ยังได้รับการเติมแต่งความสปอร์ตด้วยการเดินด้ายที่ใช้เย็บเป็นสีแดง เสริมความสปอร์ตเข้าไปได้อีกขั้น พร้อมกันนี้ในส่วนของทริมอะลูมิเนียมที่ตกแต่งเพิ่มเติมเข้าไปนั้น ยังได้รับการเพิ่มเติมลวดลายคาร์บอนที่มีการเล่นเส้นสายแถบสีแดงเข้าไปในหลายๆ จุด เพิ่มเติมอาร์รมณ์สปอร์ตเข้าไปแบบเต็มพิกัด

เจ้าของรางวัลเครื่องยนต์กำลังแรงในคลาส 4 สูบ

ขุมพลังบล็อก 4 สูบ แถวเรียง เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ที่ได้รับการยอมรับมาจากหลายสถาบันว่าเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์บล็อกสี่สูบที่สามารถรีดแรงม้าได้สูงสุดที่มีประจำการอยู่ในรถบ้านที่มีจำหน่ายอยู่ในตลาดทั่วโลกขณะนี้ ด้วยพละกำลัง 381 แรงม้า มาพร้อมด้วยแรงบิดที่สูงถึง 48.42 กก.-ม. มีมาให้ใช้งานกันแบบเต็มๆ ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำเพียงแค่ 2,250 รอบเท่านั้น ก่อนที่จะมีให้ใช้ยาวๆ ไปจนถึง 5,000 รอบ เรียกได้ว่ามีให้ใช้กันตั้งแต่ออกตัว และเมื่อมาผสานการทำงานกับชุดเกียร์ไฟฟ้าแบบคลัตช์คู่ 7 สปีด (AMG SPEEDSHIFT® DCT 7-speed dual-clutch) เข้าด้วยแล้ว ในเรื่องของการส่งผ่านกำลังจึงนับเป็นเรื่องที่รวดเร็วฉับไว สามารถส่งกำลังแรงม้าที่มีกว่า 400 ตัว ลงสู่ล้อทั้งสี่ ผ่านชุดกระจายกำลัง AMG performance 4MATIC® all-wheel drive สู่ล้อทั้งสี่ที่โอบรัดด้วยยางบิ๊กไซซ์ขนาด 235/40ZR20 ที่ทำให้คอมแพกต์เอสยูวีคันนี้ร้อนแรงและดุเดือด ขนาดที่ว่าพร้อมจะทำให้เหล่าสปอร์ตคาร์หลายๆ คันต้องน้ำตาตกได้

            การใช้งานทั่วๆ ไปนั้น โหมดควบคุมการขับขี่ที่มีให้เลือกใช้นั้นแทบจะไม่ต้องข้ามไปจากโหมด Comfort กันเลย เพราะด้วยกำลังที่มีให้เรียกใช้งานระหว่างการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองนั้น นับได้ว่าเพียงพอที่จะตอบสนองต่อสไตล์การขับขี่ใช้งานทั่วไปได้อย่างสบายๆ จะมีก็เพียงแค่การเลือกใช้เสียงท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่มีให้เลือกใช้ได้เท่านั้น ที่มักจะกดเปิดเล่นเพื่อช่วยเพิ่มอรรถรสในการขับขี่ ด้วยสุ้มเสียงที่หวานเพราะหูในยามกดคันเร่ง โดยเฉพาะในช่วงรอบที่สูงเกินกว่า 3,500 เสียงที่ทุ้มจะคำรามออกมาเชื้อเชิญให้บดขยี้คันเร่งเพิ่มลงไปอีก แต่ถ้าต้องการเติมความเร้าใจกันให้ถึงขีดสุดนั้น ก็เพียงขยับโหมดควบคุมการขับขี่เข้าสู่โหมด Sport งานนี้ทั้งซุ้มเสียง ไปจนถึงการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ที่รวดเร็ว ฉับไว ตามจังหวะกดคันเร่ง และความรู้สึกถึงแรงดึงที่ถาโถมเข้าใส่จนตัวเราจมติดเข้าไปกับเบาะนั่งทรงสปอร์ตตามน้ำหนักของการกดคันเร่ง นับเป็นอีกหนึ่งอรรถรสที่จะสัมผัสได้จากรถเพียงไม่กี่คันในเซ็กเมนต์นี้เท่านั้น อีกทั้งเจ้า GLA 45 คันนี้ยังสามารถสร้างอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ด้วยระยะเวลาที่สั้นเพียงแค่ 4.4 วินาที อันเป็นอัตราเร่งที่พอจะสร้างความรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องให้กับเหล่าสปอร์ตคาร์สมรรถนะสูงได้หลายๆ คัน

ระบบเบรกประสิทธิภาพสูงได้รับการติดตั้งเข้ามาเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรองรับสมรรถนะ และแรงม้าที่มากเกือบ 400 แรงม้าของ GLA 45 คันนี้ ให้สามารถควบคุมความร้อนแรงได้เชื่องอยู่หมัด  จากชุดเบรกจานโตและคาลิเปอร์แบบ 4 pot ของ AMG ช่วยหยุดยั้งความเร็วได้ในระยะทางที่สั้น  เติมความมั่นใจในการขับขี่ได้ดีตลอดการเดินทาง

8.1 กม./ลิตร แลกกับการเลี้ยงดูม้าทั้ง 381 ตัว

จากการใช้งานในเมืองนั้น พบว่า GLA 45 คันนี้สามารถให้ความคล่องตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานตามถนนหนทางหรือตรอกซอกซอยในเมืองก็ยังคงให้ความคล่องตัวได้มาก ไปจนถึงการหาที่จอดรถในพื้นที่จำกัดก็ยังคงเป็นเรื่องที่สบายจากเหล่าเซ็นเซอร์รอบทิศและกล้องแสดงภาพทางด้านหลัง ที่ช่วยเติมความสะดวกได้มาก อีกทั้งในการขับขี่ใช้งานทั่วๆ ไป ผ่านสภาพการจราจรที่ติดขัดของบ้านเรา GLA 45 ยังสามารถให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ในระดับ 8.1 กม./ลิตร อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับภาระที่ต้องเลี้ยงดูฝูงม้ากล้ามโตทั้ง 381 ตัว ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ฝากระโปรงหน้า

ผู้ครองบัลลังก์แชมป์ในคลาสคอมแพกต์เอสยูวี

จะว่าไปแล้วในคลาสคอมแพกต์เอสยูวีที่มีจำหน่ายอยู่ในตลาดบ้านเรานั้น คู่แข่งโดยตรงของ GLA ก็คงจะมีแค่ BMW X1 MINI Countryman และ AUDI Q2 เท่านั้น แต่ถ้ามาดูที่ AMG GLA 45 ที่นับเป็นรุ่นพิเศษนั้น ก็น่าจะมีเพียงแค่ MINI Countryman Cooper S JCW เพียงคันเดียว ที่พอจะนับมาเป็นคู่แข่งได้ แต่ถ้ามาดูที่สมรรถนะกับแบบลึกๆ แล้ว ก็คงจะหาคู่เปรียบกับเจ้า GLA 45 ได้ยาก เพราะด้วยแรงม้าแค่ 231 แรงม้าของ MINI Countryman Cooper S JCW ที่แม้จะเป็นรุ่นพิเศษแต่ก็ไม่สามารถที่จะเบ่งกล้ามขึ้นไปเทียบ 381 แรงม้าของ GLA 45 ได้ งานนี้เลยต้องบอกกันว่า ถ้าเน้นในเรื่องของสมรรถนะกันแล้ว AMG GLA 45 นับเป็นผู้นำในคลาสนี้กันแบบขาดลอย แต่เพียงผู้เดียวในตลาดเซ็กเมนต์นี้ จะมีก็เพียงเรื่องเดียวที่ต้องทำใจยอมรับก็ตรงระดับราคาค่าตัวที่ดีดสูงขึ้นเป็นเงาตามระดับแรงม้ามาอยู่ที่ 4.84 ล้านบาท ทิ้งคู่แข่งอย่าง MINI ขยับขึ้นมาอีกกว่า 1.3 ล้านบาทกันเลยทีเดียว

ความเร็วเดินทางที่เกียร์สูงสุด

ความเร็ว (กม./ชม.)  รอบ (รอบ/นาที)

100                             1,700

120                             2,050

140                             2,400

160                             2,750

ข้อมูลทางเทคนิค

ยี่ห้อและรุ่นรถ                         Mercedes-AMG C 43 4MATIC

ประเทศผู้ผลิต และรุ่นปี                      ประเทศเยอรมนี รุ่นปี 2017

แบบเครื่องยนต์                                   4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์

ปริมาตรความจุ (ซี.ซี.)              1,991

กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบ/นาที)            381/6,000

แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รอบ/นาที)         48.42/2,250-5,000

อัตราส่วนกำลังอัด                               8.6 : 1

ถังเชื้อเพลิงจุ (ลิตร)                 56

ระบบขับเคลื่อน                                   สี่ล้อ (AMG performance 4MATIC® all-wheel drive)

ระบบเกียร์ (รหัส)                                เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (AMG SPEEDSHIFT® DCT 7-speed dual-clutch)

ระบบพวงมาลัย                                  แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง

วงเลี้ยวแคบสุด (เมตร)            11

ระบบกันสะเทือนหน้า             อิสระ แบบดับเบิลวิชโบน

ระบบกันสะเทือนหลัง             อิสระ แบบมัลติลิงก์

ระบบเบรก หน้า/หลัง              ดิสก์เบรก/ดิสก์เบรก พร้อมระบบ DSC และ ABS

มิติ กว้าง x ยาว x สูง (มม.)                 1,804 x 4,455 x 1,474

ฐานล้อยาว (มม.)                                 2,700

ความกว้างของล้อหน้า (มม.)               1,567

ความกว้างของล้อหลัง (มม.)               1,567

ยาง      หน้า / หลัง                   235/40ZR20

ความเร็วสูงสุด                         250 กม./ชม. (ตัวเลขโรงงาน)

อัตราความสิ้นเปลือง (กม./ลิตร)

ในเมือง                                    8.1

ราคาจำหน่าย                          4,840,000 บาท

เรื่อง : กิตติศักดิ์ ด้วงพิมพ์

ภาพ :ภูดิท แซ่ซื้อ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th