ค่ายดาวสามแฉกช่วงนี้โหมกระหน่ำเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆเป็นว่าเล่นมากมายหลายรุ่น ลูกค้าแห่ให้ความสนใจไม่น้อยทีเดียว แถมค่ายนี้เค้ายังได้เปิดขายตัวแรงรถสปอร์ตสุดเก๋เอาใจขาซิ่ง เจ้าเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที เอส วันนี้เราเลยจัดให้ นำเจ้าเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที เอส มาทดลองขับกัน

รูปลักษณ์การออกแบบภายนอก เรียกได้ว่าขับผ่านไปที่ไหนก็มีแต่คนมองเลยทีเดียว เพราะรูปทรงที่ดึงดูดทุกสายตาตั้งแต่หัวจรดท้าย กระจังหน้าแบบ ไดมอนด์ กริลล์ (Diamond Grille) พร้อมหมุดสีดำ โลโก้ดาวสามแฉกตรงกลางใหญ่เด่นเป็นสง่า อีกทั้งไฟหน้าแบบแอลอีดี รวมถึงล้ออัลลอยด้านหน้าขนาด 19 นิ้ว ส่วนด้านหลัง 20 นิ้ว ลายพิเศษของเอเอ็มจีแบบ 10 ก้านสีไทเทเนียมเกรย์ สปอยเลอร์หลังแบบปรับระดับอัตโนมัติ และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ โครงสร้างตัวถังของ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที เอส มาในรูปแบบของ Aluminium spaceframe ที่ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา ผสมผสานกับเหล็ก และแมกนีเซียม ที่มีการนำมาใช้ตามจุดต่างๆ ของตัวรถ  ทำให้มีน้ำหนักรวมของตัวรถเพียง 1.89  ตันรวมถึงเครื่องยนต์วางกลาง กระจายน้ำหนักหน้า-หลัง อัตราส่วน 47:53 ตามลำดับ อีกทั้งอ่างน้ำมันเครื่องแบบแห้ง (Dry Sump) แบบเดียวกับที่ใช้ในสนามแข่ง เพื่อป้องกันน้ำมันเครื่องส่งไปไม่ทั่วถึงขณะที่รถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง พร้อมทั้งระบบควบคุมช่วงล่าง (AMG Ride Control) ปรับโหมดการขับขี่ได้แบบคอมฟอร์ต สปอร์ต สปอร์ตพลัส และเรซ (Race) ตอบสนองทุกการขับขี่ อีกทั้งระบบความปลอดภัยแบบเต็มพิกัดจัดมาเต็มครับสำหรับเจ้าคันนี้

ภายในห้องโดยสาร ล้ำสมัยตื่นตาด้วยการดีไซน์ภายใน มีการออกแบบให้ก้าวล้ำทันสมัย ด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Nappa แบบปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ พวงมาลัยแบบ AMG performance หุ้มด้วยหนังแท้สลับ DINAMICA microfibre ที่สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำ เรียกได้ว่าผสมผสานความสปอร์ตแนวรถแข่งกับความหรูหราเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งสีสันภายในสีดำตัดกับสีเมทัลลิก พร้อมเดินด้ายสีเหลืองเข้ากับสีของตัวรถ ส่วนตำแหน่งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้วนเป็นปุ่มกดสั่งการ แต่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ด้วยทัชแพด (Touchpad) ที่ควบคุมการทำงานต่างๆ ซึ่งตำแหน่งที่นั่งหลังพวงมาลัยในรถสปอร์ตคันนี้ ตอนแรกที่เห็นตัวรถก็ทำใจไว้แล้วว่าต้องขับยากนั่งไปสบายแน่นอน แต่ผิดคาดครับตำแหน่งที่นั่งที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีทำให้นั่งสบาย ขับง่ายกว่ารถสปอร์ตของค่ายอื่นๆ เป็นรถสปอร์ตที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน สะดวกสบายควบคุมง่ายอย่างคาดไม่ถึง

สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 510 แรงม้าที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-4,750 รอบ/นาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 310 กม./ชม. แต่คงจะขับไม่ถึงท็อปสปีดนะครับเพราะสภาพถนน และการจราจร เอาเป็นว่าขับแบบเบาๆชิลล์ๆ แตะ 200 กม./ชม.แบบสบายๆนิ่งๆเลยครับ อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.3.8 วินาที ทำงานผสานเกียร์ 7 G Tronic Plus ซึ่งเป็นเกียร์ออโต 7 สปีดแบบคลัตช์คู่ โดยยกเกียร์ทั้งลูกมาจาก SLS AMG ได้อย่างลงตัวกดคันเร่งลงไปเจ้า GT S คันนี้กระโจนไปข้างหน้าแบบดึงหลังติดเบาะกันเลยทีเดียวแต่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ควบคุมง่ายไม่ดื้อเท่าไหร่ จื๊ดจ๊าดโดนใจจริงๆครับ การเร่งแซงก็ทำได้แบบหายห่วงไรกังวล และมีความคล่องตัวสูงเมื่อขับผ่านเมือง

ส่วนช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิ้งค์มีปุ่มควบคุมปรับระดับความแข็งอ่อนไปตามรูปแบบของการขับขี่ ซึ่งมีทั้งแบบขับปกติไปจนถึงซิ่งบนสนามแข่งใช้การควบคุมเชื่อมโยงกับอิเล็กทรอนิกส์ Multimatic ด้วยความที่เป็นเครื่องยนต์วางกลางพร้อมการกระจายน้ำหนักซึ่งมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้ควบคุมง่าย แน่น หนึบ กระชับ คมกริบ มั่นใจได้หายห่วง ซึ่งไม่ได้แข็งกระด้างอย่างที่หลายคนกังวล แต่กลับมีความสามารถในการดูดซับแรงกระแทกได้ดีแม้จะไม่นุ่มนวลมากก็ตาม แต่ก็เพราะรถคันนี้ถูกออกแบบมาให้มีสมรรถนะในการขับ และการทรงตัวสูง จึงต้องแลกกับความนุ่มนวลไปบ้างเล็กน้อย ซึ่งให้ความปลอดภัยในการควบคุมในกำมือได้ ไม่เท่านั้นยังมีอีกหนึ่งลูกเล่นที่สร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นอารมณ์ในการขับขี่ได้ไม่น้อย คือ ระบบปรับระดับเสียงท่อไอเสียให้ดังเข้าสู่ตัวรถ และยังไม่นับรวมถึงลูกเล่นอื่นๆ ที่เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และการตอบสนองได้ตามใจสุดจริงๆครับรถคันนี้

ถ้าใครกำลังมองหารถสปอร์ต หรูหรา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขับง่าย นั่งสบาย ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เจ้าเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที เอส คันนี้ผมว่าตอบโจทย์เลยทีเดียวครับด้วยราคาค่าตัวที่ยั่วใจเศรษฐีเพียงแค่ 14.9 ล้านบาท แหมม มันน่าสนใจจริงๆครับผม

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th