เดือนกันยายนที่ผ่านมาทาง Mercedes-AMG เพิ่มความแรงด้วยขุมกำลังไฮบริดได้ถูกเพิ่มทางเลือกมากขึ้นโดยคราวนี้มากับรุ่นใหญ่ S63 E Performance ซึ่งอาจทำให้เจ้าของรถตัดสินใจไม่ถูกว่าจะนั่งที่เบาะคนขับหรือเบาะหลังดี

แม้ Mercedes-AMG S63 E Performance จะขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเหมือนกับ C63 E Performance แต่ก็มาพร้อมกับรายละเอียดที่แตกต่างกันเพราะใช้เครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าสมกับการมาจากพื้นฐานของรถซาลูนหรูตัวถังใหญ่สุดของค่าย โดยเป็นเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ที่มีกำลัง 612 แรงม้า แรงบิดสูงสูงสุด 900 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตรซึ่งถูกติดตั้งอยู่ที่เพลาหลังของรถ ให้กำลังรวม 802 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 1,430 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์ AMG S peedshift 9 สปีดส่งกำลังสู่ล้อผ่านระบบขับเคลื่อนทุกล้อแปรผัน AMG Performance 4Matic+

ด้วยกำลังขับเคลื่อนทำให้ S63 E Performance ใช้เวลา 3.3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. แม้รถจะมีน้ำหนักถึง 2,595 กิโลกรัม ขณะที่ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ส่วนแบตเตอรีสำหรับระบบไฮบริดที่มาพร้อมกับรถถูกระบุว่าเป็น AMG High-Performance Battery 150 ใหม่มีความจุ 13.1 kWh ให้ระยะการเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าได้ 33 กิโลเมตร

เพื่อรองรับกำลังขับเคลื่อนรถสมรรถนะสูงรุ่นใหญ่จึงใช้ช่วงล่าง AMG Ride Control+ ที่ใช้พื้นฐานจากช่วงล่างที่มีการปรับระดับของรถอัตโนมัติ Air Suspension และแดมเปอร์อแดปทีฟ, การควบคุมการเลี้ยวที่ล้อหลังแบบแอคทีฟ, เบรกคาร์บอนเซรามิก รวมทั้งยางแท่นเครื่องยนต์แอคทีฟเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ส่วนภายนอกของ S63 E Performance ผสานความสปอร์ตเข้ากับตัวถังขนาดใหญ่ด้วยกระจังหน้า AMG-specific พร้อมช่องแนวตั้ง กันชนหน้าที่ถูกออกแบบในลักษณะ Jet-wing Design พร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ ส่วนด้านหลังของรถมีท่อไอเสียทรงเหลี่ยมคู่ในแต่ละฝั่งของ Diffuser ที่กันชนหลัง และเพิ่มความเด่นด้วยป้าย S63 ที่มีขอบสีแดงบนฝาหลัง ส่วนบริเวณหลังซุ้มล้อหน้าของรถมีป้าย V8 Biturbo E Performance ขณะที่ล้อมีให้เลือกถึงล้อฟอร์จ AMG ขนาด 21 นิ้ว

ห้องโดยสารของ S63 E Performance ยังคงความหรูในสไตล์ของ S-Class แต่ก็ผสานด้วยอารมณ์สปอร์ตด้วย AMG-specific อย่างวัสดุและการเดินด้าย โดยเบาะหน้าหุ้มด้วยหนัง Nappa มีโลโก้ AMG ที่พนักพิงศรีษะ รวมไปถึงทั้งจอแสดงข้อมูลผู้ขับและจอระบบ Infotainment ของรถมีการแสดงข้อมูลในสไตล์รถแรงของ AMG นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับพวงมาลัย AMG ที่มีการควบคุมสำหรับเลือกโหมดการขับจาก 7 โหมดและการเก็บพลังงานจากการเบรก 4 ระดับได้ ขณะที่เบาะหลังยังคงความสบายในแบบเฟิร์สคลาสด้วยแบาะ 2 ที่นั่งแบบแยกพร้อมคอนโซลกลางขนาดใหญ่

ผู้ที่ซื้อรถแรงบนตัวถัง S-Class ไม่ต้องกังวลเรื่องหรูและความสะดวกสบายในการขับเพราะ S63 E Performance อยู่พื้นฐานของ S-Class รุ่นฐานล้อยาวรวมทั้งยังคงหวังในเรื่องความหรูหราและความสบายในการเดินทางได้ไม่แตกต่างจากรถซีดานหรูปกติจากค่ายดาวสามแฉกด้วยการทำงานช่วยขับต่างๆ

อย่างไรก็ตามราคายังไม่ถูกระบุออกมารวมไปถึงช่วงเวลาที่จะขาย

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th