เทรนด์ของรถเอสยูวีที่มาแรงต่อเนื่องทำให้ Mercedes-Benz ต้องเพิ่มไลน์อัพด้วยการส่ง E-Class All-Terrain ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC All-wheel Drive พร้อมลุยในทุกสภาพถนนตั้งแต่เส้นทางคดเคี้ยวบนเทือกเขาจนถึงทางลูกรังที่เต็มไปด้วยหลุมโคลน

การตัดสินใจขยายขนาดตัวถัง E-Class Estate ให้มีความใหญ่ขึ้น เพิ่มระดับความสูงจากพื้นถนนถึงด้านล่างของตัวรถ E-Class All-Terrain จะอยู่ระหว่าง 121-156 มม. ขึ้นอยู่กับการเลือกระบบขับขี่ Dynamic Select ที่มีทั้งหมด 5 โหมด (Comfort, ECO, Sport, All-Terrain, Individual)

หากเป็นการขับในโหมด All-Terrain ระบบควบคุม Air Body Control จะยกตัวถังรถให้สูงขึ้นอีก 20 มม. โดยจำกัดความเร็วไว้สูงสุด 35 กม./ชม. ในระหว่างการขับโหมดนี้หน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางจะบอกข้อมูลรายละเอียดองศาของล้อ, ระดับความสูงของตัวรถ, มุม และความลาดชันของเนินที่รถกำลังเคลื่อนผ่าน

สำหรับขุมกำลังตอนนี้มีตัวเลือกเดียวเป็นรุ่น E220 d เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-Tronic) โดยให้กำลังสูงสุด 191 แรงม้า ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 231 กม./ชม. และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรภายใต้การทดสอบตามมาตรฐานของ NEDC

แต่อีกไม่นาน Mecrdes เตรียมเพิ่มทางเลือกในรุ่น All-Terrain E350 d ที่จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร ที่มีความแรงถึง 254 แรงม้า และแรงบิด 457 ปอนด์-ฟุต โดยใช้งานร่วมกับเกียร์ชุดเดิม

ในส่วนของระบบช่วยเหลือการขับขี่มีการติดตั้ง Drive Pilot ที่ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติที่สามารถขับด้วยความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. รวมทั้งระบบช่วยเหลือในการเปลี่ยนเลน Active Lane-change รวมทั้งระบบความปลอดภัยที่ครบครันเหมือนยกชุดมาจาก E-Class รุ่นซีดาน

เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล :  www.media.daimler.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th