Mercedes-Benz คว้ารางวัลแห่งเกียรติยศมาครองได้ถึง 8 รางวัล

ท่ามกลางความมืดมิดที่มีประกายแสงสว่างของดวงดาว ความหมายที่บ่งบอกถึงความมีคุณค่าที่สวยงาม และเป็นพลังแห่งความหวัง ก็เปรียบเสมือนกับโลโกดาวสามแฉกของ Mercedes-Benz ที่เป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ชั้นนำของโลก ด้วยความสวยงามจากการดีไซน์ชั้นเลิศ ความหรูหราสง่างามจนเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น พร้อมกับสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมจนสามารถครองใจผู้ใช้รถยนต์จากทั่วโลกมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน

Mercedes-Benz คือความทรงคุณค่าของยนตรกรรมที่มีมาตั้งแต่ในอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน
“Car of The Year” งานซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพของรถยนต์ที่ได้รับรางวัลว่ามีความ
ยอดเยี่ยม และโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งในคลาสเดียวกัน โดยพิสูจน์ได้จากรางวัลแห่งชัยชนะที่ยนตรกรรมชั้นนำจาก Mercedes-Benz สามารถคว้ามาครอบครองได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับงาน Car of The Year 2019 เหล่าบรรดายนตรกรรมชั้นยอดของ Mercedes-Benz ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความเป็นรถยนต์ชั้นยอด โดยสามารถคว้ารางวัลแห่งเกียรติยศมาครองได้ถึง 8 รางวัล คือ

l BEST SEDAN UNDER 2,000 c.c.
l BEST SEDAN DIESEL UNDER 2,000 c.c.
l BEST MID-SIZE SEDAN DIESEL
l BEST LUXURY CAR DIESEL
l BEST ROADSTER
l BEST SUPER CAR CONVERTIBLE
l BEST SUV UNDER 2,000 c.c. PETROL
l BEST SUV UNDER 2,000 c.c. DIESEL

สำหรับรถยนต์ที่จะได้รางวัลนั้น ต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาจากเหล่าคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติ ซึ่งในส่วนแรกจะพิจารณาจากองค์ประกอบส่วนต่างๆ ทั้งในเรื่องของความสวยงาม, อรรถประโยชน์การใช้สอย, สมรรถนะ, ระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมถึงกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับมาตรฐานของราคา

ส่วนที่ 2 คณะกรรมการจะมีการเปรียบเทียบจากการขับขี่จริง ในสถานีทดสอบต่างๆ ที่ได้มีการจัดเตรียมไว้ โดยจำลองอุปสรรคต่างๆ ที่อิงมาจากการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และนำคะแนนที่ได้มารวมกับคะแนนในช่วงแรก เพื่อลงมติให้เป็นเอกฉันท์ว่า รถรุ่นไหน ประเภทไหน เหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่ง “Car of The Year” เพื่อเป็นเครื่องการันตีถึงความเป็น “ที่สุด”

BEST SEDAN UNDER 2,000 c.c.
MERCEDES-BENZ CLA 250 AMG Dynamic

ประเดิมความสำเร็จอย่างสวยงามให้กับ Mercedes-Benz กับการได้รับตำแหน่ง BEST SEDAN UNDER 2,000 c.c. ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องที่จะยากเกินคาดเดา เพราะ CLA 250 AMG Dynamic คือยนตรกรรมคุณภาพสูงที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากเทคโนโลยีของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำแถวหน้าของโลก

การออกแบบด้วยสัดส่วนความสัมพันธ์ในสไตล์สปอร์ตและแนวเส้นที่เฉียบคม รวมถึงความเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำในด้านแอโรไดนามิก โดยรถยนต์รุ่นนี้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.23 เท่านั้น ซึ่งความชาญฉลาดในการออกแบบเช่นนี้ จึงทำให้เกิดประสิทธิภาพในการลดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และการเกิดผลดีในเรื่องของเสียงรบกวนที่จะลดน้อยลงด้วย

ความลงตัวระหว่างความหรูหรากับความสปอร์ตของภายในห้องโดยสาร จะสร้างความรู้สึกที่ดีตั้งแต่ที่แรกเห็น และเมื่อได้เข้าไปสัมผัสก็จะรู้สึกได้ถึงวัสดุชั้นเยี่ยมที่ทาง Mercedes-Benz ได้เลือกสรรและนำมาใช้ในยนตรกรรมที่ทรงค่าแบบนี้

สมรรถนะที่สร้างความเร้าใจในการขับขี่ อัตราเร่งที่รวดเร็วจะช่วยสร้างความปลอดภัยในการเร่งแซง พร้อมทั้งให้ความคล่องตัวในยามเมื่อต้องเจอกับการจราจรอันหนาแน่น นอกจากนั้น ฟังก์ชัน ECO Start/Stop ก็จะคอยช่วยตัดการทำงานของเครื่องยนต์แบบชั่วคราวเมื่อรถจอดอยู่กับที่ ซึ่งนอกจากจะได้ในเรื่องของความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ก็ยังมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของค่ามลพิษที่จะลดน้อยลงอีกด้วย

ระบบส่งกำลังที่มั่นใจได้ในประสิทธิภาพกับเกียร์อัตโนมัติ
7G-DCT ที่สามารถถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ไปสู่เพลาแล้วไปปั่นล้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ยังมีทางเลือกในการบังคับควบคุม ด้วยโปรแกรมการขับขี่ DYNAMIC SELECT ที่ประกอบไปด้วยโหมด Comfort, Eco, Sport และ Manual ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างมีรสชาติตามที่ต้องการ

ด้วยคุณสมบัติแค่เพียงบางส่วนจากที่กล่าวมา ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นหรือสัมผัสเกิดความประทับใจ และความโดดเด่นที่มีก็สามารถชนะใจคณะกรรมการผู้ตัดสิน จนสามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติไปครอง

BEST SEDAN DIESEL UNDER 2,000 c.c.
MERCEDES-BENZ C 220 d AMG Dynamic

การเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดนิ่ง ทำให้เกิดวิวัฒนาการที่มาพร้อมกับรูปแบบที่ทันสมัย
ฉีกตัวเองออกจากรุ่นก่อนๆ การประสานสอดรับอย่างกลมกลืนของเส้นสาย มุม และความโค้งเว้าของพื้นผิว ก่อให้เกิดรูปแบบที่พลิ้วไหวและการตัดกันที่นำมาสู่ความประทับใจตลอดทั้งคัน

การออกแบบด้านหน้าที่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน กระจังหน้าแบบคลาสสิกในรูปแบบ 3 มิติ หรือสปอร์ตที่มีสัญลักษณ์ดาวสามแฉกขนาดใหญ่อยู่กึ่งกลางกระจังหน้า ช่องดักอากาศขนาดใหญ่และโครงร่างของไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยวเฉียบคมชัดเจน (ทั้งกลางวันและกลางคืน) เพื่อแสดงให้เห็นถึงใบหน้าแบบคลาสสิกที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองตามแบบฉบับของรถยนต์จากตระกูล C-Class

วัสดุระดับพรีเมียมที่มีการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ถูกนำมาใช้สำหรับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร เพื่อเพิ่มเติมความมีระดับให้เหนือกว่าใคร ความสะดวกสบายมีมาให้อย่างเพียบพร้อม ซึ่งคงเป็นเรื่องยากที่จะหาใครมาปฏิเสธในเรื่องความหรูหรา รวมถึงความรู้สึกที่ดี เมื่อได้มาสัมผัสกับห้องโดยสารของรถยนต์รุ่นนี้

พลังแห่งการขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ซึ่งให้ความโดดเด่นในเรื่องของพละกำลัง และความประหยัดเชื้อเพลิง รวมทั้งสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ในแบบที่ใจคุณต้องการ และยังมีฟังก์ชัน Eco Start/Stop เพื่อช่วยในเรื่องความประหยัดและลดมลพิษด้วย

ระบบส่งกำลังที่มาแบบล้ำสมัยกับเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ที่สามารถจะถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและนิ่มนวล ซึ่งคุณสมบัติโดยรวมที่มาแบบเพียบพร้อมนี้ จึงเหมาะสมกับการใช้งานในยุคปัจจุบันที่ต้องพบเจอกับการจราจรในหลากหลายรูปแบบ

บทสรุปของความลงตัวตามแบบฉบับยนตรกรรมชั้นนำ จึงทำให้ Mercedes-Benz C 220 d AMG Dynamic สามารถชนะใจเหล่าคณะกรรมการจนโดดเด่นคว้ารางวัล BEST SEDAN DIESEL UNDER 2,000 c.c. ในปีนี้ไปครอบครอง

BEST MID-SIZE SEDAN DIESEL
MERCEDES-BENZ CLS 300 d AMG Premium

ที่สุดแห่งการดีไซน์ที่สะท้อนความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง กับความโดดเด่นที่ถ่ายทอดผ่านรูปแบบของตัวถังที่สง่างามอย่างแตกต่าง ความแข็งแกร่งที่มาพร้อมบุคลิกที่เข้มแข็ง การออกแบบภายนอกที่สื่อถึงความงดงามแบบสปอร์ตในทุกรายละเอียด ซึ่งในทุกตารางนิ้วของรถยนต์รุ่นนี้แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งนั้น สามารถเร้าอารมณ์ความรู้สึกได้เป็นอย่างดี

พิเศษขึ้นไปอีกระดับกับชุดแต่งที่ช่วยเสริมบุคลิก และความงามสง่ากับพาร์ทจาก AMG ซึ่งนอกจากเรื่องความสวยงามที่ดูดีแล้วยังช่วยในเรื่องของหลักแอโรไดนามิกในยามเมื่อต้องใช้ความเร็วสูงอีกด้วย

ล้ำสมัยไปกับเทคโนโลยีชั้นสูงที่จะช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืนเต็มเปี่ยมไปด้วยความปลอดภัย ด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ซึ่งจะทำหน้าที่ควบคุมหลอดไฟแบบ LED จำนวน 84 หลอด ให้ปรับระดับความสว่างอย่างเป็นอิสระ โดยมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวและคำนวณระดับความสว่างแบบอัตโนมัติ

เหนือกว่าด้วยห้องโดยสารสไตล์สปอร์ตแบบพรีเมียม ทุกวัสดุที่ใช้ล้วนผ่านการเลือกสรรด้วยความตั้งใจ โดยผ่านมาตรฐานคุณภาพในระดับสูงสุด การออกแบบจัดตำแหน่งท่าทาง การจัดวางต่างๆ ทำให้ง่ายต่อการใช้งานโดยไม่เสียสมาธิในการขับขี่ รวมถึงความกว้างขวางสะดวกสบายที่ผู้โดยสารจะมีความสุขในทุกการเดินทาง

เป็นเลิศด้วยขุมพลังในการขับเคลื่อน จากเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงถึง 245 แรงม้า ซึ่งจะพาให้ยนตรกรรมคันนี้โลดแล่นไปตามเส้นทางของผู้มีวิสัยทัศน์ชั้นนำ

การถ่ายทอดพลังจากระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะระบบแรกของโลก ที่ใช้ทอร์คคอนเวอร์เตอร์แบบไฮโดรไดนามิก (hydrodynamic torque converter) อัตราทดเกียร์ที่ขยายกว้างขึ้น ทำให้รอบการทำงานของเครื่องยนต์ลดลง ในขณะที่การทำงานของเกียร์ชุดนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อบุคลิกการบังคับควบคุมที่ยอดเยี่ยม จึงช่วยทำให้เกิดความสะดวกสบายในการขับขี่เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับเสียงการทำงานที่ลดต่ำลง

ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่น การดีไซน์ที่เป็นเลิศ จึงเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่ทำให้ Mercedes-Benz CLS 300 d AMG Premium คว้ารางวัลอันทรงเกียรติไปครอบครอง

BEST LUXURY CAR DIESEL
MERCEDES-BENZ S 350 d AMG Premium

เหล่ารถยนต์ในตระกูล S-Class จาก Mercedes-Benz คือสัญลักษณ์แห่งผู้นำ และสะท้อนนิยามของความเป็นที่สุด ความเหนือระดับแบบพิเศษกับชุดกันชนหน้า-หลัง ดีไซน์สปอร์ต จาก AMG รวมถึงล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว

ความรู้สึกผ่อนคลายในระดับเฟิร์สคลาสสำหรับทุกการเดินทาง ที่สุดของเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อความผ่อนคลายและสะดวกสบายสูงสุด กับห้องโดยสารที่ถูกสร้างสรรค์มาเพื่อให้ความรื่นรมย์ในทุกอิริยาบถด้วยระบบ ENERGIZING comfort control ที่ควบคุมระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน

เทคโนโลยีของขุมพลังในการขับเคลื่อนกับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่แบบ 6 สูบ เทอร์โบคู่ ที่นับเป็นสุดยอดนวัตกรรมที่ทำให้เครื่องยนต์ทรงพลังมากขึ้น พร้อมกับการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น ในขณะที่มีการปล่อยไอเสียที่ลดน้อยลง

ความนุ่มนวลในทุกการเดินทางจากระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (AIRMATIC) ที่มาพร้อมกับระบบควบคุมระดับอัตโนมัติ ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของความนุ่มนวลแล้ว ในเรื่องของการทรงตัว การยึดเกาะถนน ก็ยังให้ความมั่นใจได้สูง ระบบจะทำการปรับลดความสูงตัวรถลง 20 มม. โดยอัตโนมัติ เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง และผู้ขับขี่ยังสามารถปรับความสูงขึ้นได้ถึง 30 มม. ในยามเมื่อต้องเจอกับสภาพเส้นทางที่ขรุขระหรือมีหลุมบ่อ

อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีความล้ำสมัยที่สุดแสนจะไฮเทค ซึ่งเน้นหนักในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่ ทั้งระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า หรือ Active Distance Assist DISTRONIC ทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกันชนหน้าในการคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัย ซึ่งนอกจากจะมีการเตือนแล้ว ยังมีการช่วยเบรกเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย

อีกหนึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัย คือ ระบบ Active Blind Spot Assist ที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือจักรยานยนต์คันอื่นที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังเปลี่ยนช่องทางการจราจร โดยจะมีไฟเตือนขึ้นโชว์ทันทีเมื่อระบบตรวจจับได้ว่ามีรถอยู่ในระยะที่กำหนด และถ้าไม่มีการตอบสนองจากผู้ขับขี่ ระบบก็จะทำการช่วยเบรกให้อัตโนมัติ เพื่อดึงรถให้กลับเข้าช่องทางอย่างปลอดภัย

คุณสมบัติที่โดดเด่นยังมีอยู่อีกมากมาย จึงเป็นเรื่องของความเหมาะสมที่ Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium จะได้รับตำแหน่ง BEST LUXURY CAR DIESEL ในครั้งนี้ไปอย่างสง่างาม

BEST ROADSTER
MERCEDES-AMG SLC 43

นับว่าที่สุดของอิสรภาพในการขับขี่ เพราะ MERCEDES-AMG SLC 43 จะเป็นสัญลักษณ์ของความเพลิดเพลินในการขับขี่แบบสปอร์ตที่เร้าใจท่ามกลางท้องฟ้าที่เปิดโล่ง คุณจะได้สัมผัสอิสรภาพที่แท้จริงด้วยสายตาคุณเอง เปิดรับความรู้สึกถึงธรรมชาติด้วยใจ กับการใช้หูฟัง ใช้จมูกสูดดม
ประสบการณ์ในการขับขี่ที่หาไม่ได้จากรถยนต์แบบธรรมดาทั่วไป ความสะดวกสบายที่คล่องตัวสำหรับการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยสิ่งเดียวที่คุณต้องระวังก็คือ สายตาของคนรอบข้างที่ต่างจ้องมองยนตรกรรมที่มีความโดดเด่นคันนี้

สำหรับวันที่แสงแดดส่องอ่อนๆ ท้องฟ้าใสๆ คุณก็สามารถกดปุ่มเปิดหลังคาด้วยระบบไฟฟ้าแบบอัตโนมัติด้วยเวลาไม่ถึง 20 วินาที และสามารถเปิด-ปิด ในขณะที่กำลังขับขี่ได้ด้วยความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. ซึ่งนับเป็นความรวดเร็วที่สะดวกในการใช้งาน และเป็นการเพิ่มความอิสระในการขับขี่ได้อย่างสวยงาม

การออกแบบที่จะเร้าประสาทสัมผัสทั้งหมด กระโปรงหน้ารถยาว โอเวอร์แฮงค์สั้น คือเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของรถยนต์ในแนวโรดสเตอร์ แต่การดีไซน์ที่โดดเด่นและแตกต่างของ SLC ก็คือ ส่วนด้านหน้าที่สะดุดตากับกระจังหน้าแบบ diamond grille และปีกโครเมียมที่ชวนทำให้ขนลุกซู่ เพราะความเร้าใจที่เห็นได้จากทางสายตา

ขุมพลังอันทรงประสิทธิภาพที่พร้อมจะแผลงฤทธิ์ให้อะดรีนาลีนของคุณได้หลั่งออกมา ถ้าเปรียบเหมือนนักมวยก็จะเป็นพวกตัวเล็กหมัดหนัก มีความพลิ้วไหวอย่างมีชั้นเชิง และพร้อมจะคว้าชัยชนะทุกครั้งเมื่ออยู่บนสังเวียน

ทุกการขับขี่เครื่องยนต์เบนซิน วี6 ขนาด 3.0 ลิตร ที่มีระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ โดยมีเครื่องหมายการันตีจาก AMG จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง รวมถึงระบบส่งกำลังอย่างเกียร์อัตโนมัติแบบเดินหน้า 9 จังหวะ ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยถ่ายทอดพละกำลังอันมหาศาลในทุกช่วงเสี้ยววินาทีที่คุณกดคันเร่ง

ความอิสรเสรีในการขับขี่ ที่มาพร้อมกับพลังการขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ บนเรือนร่างของโรดสเตอร์สายพันธุ์หรู คือบทสรุปของยนตรกรรมที่นับเป็นที่สุด และสามารถครอบครองรางวัลอันทรงเกียรติ BEST ROADSTER ได้อีกครั้ง

BEST SUPER CAR CONVERTIBLE
MERCEDES-AMG GT C Roadster

ความประทับใจแรกเป็นธรรมชาติที่ยั่งยืนเสมอ และความประทับใจนี้ถูกรังสรรค์ให้เป็นรูปทรงขึ้นมาอย่างชัดเจนด้วยการออกแบบ เพราะโดยปกติคุณค่าที่ซ่อนอยู่ภายในจะสามารถสัมผัสรับรู้ได้ขณะเคลื่อนที่อยู่เท่านั้น แนวเส้นและพื้นผิวของ Mercedes-AMG GT C Roadster ถูกออกแบบขึ้นโดยปราศจากการละเลยต่อความเข้มงวดพิถีพิถันแม้แต่น้อย ผลที่เกิดขึ้นมีอิทธิพลต่ออารมณ์ความรู้สึกอย่างชัดเจน จึงทำให้บังเกิดยนตรกรรมที่ยอดเยี่ยม พร้อมความสมบูรณ์แบบทั้งเรื่องของความงดงามที่สามารถจะสะกดทุกสายตา รวมถึงความร้อนแรงในสไตล์สปอร์ตที่คุณจะต้องหลงรัก

สัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์แบบทั้งสมรรถนะการขับขี่ และที่สุดแห่งการดีไซน์ ด้วยกระจังหน้าแบบ AMG specific radiator grille อันโฉบเฉี่ยว ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยทีมวิศวกรจาก AMG เมื่อมองด้านข้าง ความยาวของฝากระโปรงหน้าและช่วงโอเวอร์แฮงค์หน้าที่สั้น ให้ภาพที่โดดเด่นประทับใจ ความโป่งนูนของซุ้มล้อพร้อมแนวสันที่เฉียบคม และล้ออัลลอยน้ำหนักเบา รวมไปถึงการวางตำแหน่งกระจกบังลมหน้าเน้นย้ำได้เป็นอย่างดีถึงบุคลิกที่ถ่ายทอดโดยตรงจากโลกมอเตอร์สปอร์ต

สำหรับภายในห้องโดยสาร เมื่อนั่งลงบนเบาะนั่งแบบสปอร์ต สายตาจะถูกดึงดูดให้จับจ้องชื่นชมไปกับพวงมาลัยอันทรงเสน่ห์ของ AMG Performance และชุดแผงหน้าปัดที่มีการดีไซน์ได้อย่างโดดเด่น พร้อมจอดิสเพลย์แบบลอยตัว และการตกแต่งด้วยลายแบบสปอร์ตเฉพาะตัวของ Mercedes-AMG ที่จะช่วยเสริมให้เกิดภาพของความประทับใจ

เร้าใจกับความเร็วได้อย่างสุดขีดกับขุมพลังเครื่องยนต์ AMG V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร (AMG 4.0 V8 Biturbo) ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ คุณจึงสามารถดื่มด่ำอากาศบริสุทธิ์ไปพร้อมกับกำลังที่มีมาให้สูงสุดถึง 557 แรงม้า แรงบิด 680 นิวตันเมตร และระบบส่งกำลังแบบ AMG SPEEDSHIFT DCT 7-speed sports transmission ที่พร้อมจะปลุกสปิริตนักแข่งในตัวคุณให้ตื่นขึ้นมา

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจถ้า Mercedes-AMG GT C Roadster จะทำให้ชีวิตโลดแล่นไปอย่างไร้ขีดจำกัด และจะทำให้คุณค้นพบนิยามในรูปแบบใหม่ๆ กับยนตรกรรมที่เป็นที่สุดในแบบฉบับของซูเปอร์คาร์ที่สามารถเปิดหลังคาได้คันนี้

BEST SUV UNDER 2,000 c.c. PETROL
MERCEDES-AMG GLA 45 4MATIC

การดีไซน์ที่มีความโดดเด่นอย่างท้าทาย กับยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
จุดเด่นกับฝากระโปรงหน้าแบบใหม่ที่มีรูปทรงลู่ลมกว่าเดิม เส้นสายของตัวรถที่โฉบเฉี่ยวจนทำให้ใครหลายคนต้องเหลียวมอง ชุดพาร์ทรอบคันที่เสริมราศีความเป็นสปอร์ตที่แตกต่าง

การต้อนรับจากภายในห้องโดยสารด้วยกาบบันไดเรืองแสงพร้อมสัญลักษณ์ AMG เบาะนั่งแบบสปอร์ตที่นั่งกระชับและช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะการขับขี่ ผสมผสานกับการตกแต่งที่เร่งเร้าอารมณ์ตามแบบฉบับรถหรูที่ให้ความเป็นสปอร์ตขั้นสูง นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามความต้องการอีกด้วย

ชุดแผงหน้าปัด AMG บ่งบอกถึงความแตกต่างที่เหนือระดับ จอแสดงข้อมูล AMG ที่พร้อมจะแสดงรายละเอียดที่สำคัญสำหรับการขับขี่ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาตลอดเวลา และเติมเต็มในทุกความต้องการกับความสปอร์ตที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดได้อย่างสมบูรณ์

สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเป็นผลจากการพัฒนาที่ครอบคลุมทั่วถึง เครื่องยนต์ AMG แบบ 4 สูบ ที่มีขนาดเพียงแค่ 2.0 ลิตร แต่สามารถให้กำลังสูงสุดได้ถึง 381 แรงม้า ซึ่งจะให้ทั้งความตื่นเต้นเร้าใจ ความทนทานสูงสุด และความประหยัดที่เยี่ยมยอดไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ที่ถ่ายทอดกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นส่วนช่วยทำให้เกิดความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับขี่

มั่นใจได้กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4MATIC) ที่จะคอยให้ความปลอดภัยสูงสุดตลอดระยะเวลาของการขับขี่ นอกจากนั้นก็ยังมีระบบไฮเทคอื่นๆ ที่จะคอยช่วยเสริมสมรรถนะและความปลอดภัยต่างๆ อีกมากมาย

นับเป็นงานวิศวกรรมทางด้านยานยนต์ที่เฉียบแหลม กับยนตรกรรมแนวสปอร์ตที่มีความอเนกประสงค์ ซึ่งพกคุณสมบัติมาอย่างล้นเหลือ จนสามารถคว้ารางวัล BEST SUV UNDER 2,000 c.c. PETROL ไปครอบครองได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

BEST SUV UNDER 2,000 c.c. DIESEL
MERCEDES-BENZ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic

MERCEDES-BENZ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic สามารถถ่ายทอดความเป็นรถยนต์สไตล์ SUV ที่มาพร้อมแนวคิดในการออกแบบอย่างชาญฉลาด โดยมีการประสานบุคลิกที่แข็งแกร่งด้วยเส้นสายที่พลิ้วไหว ก่อให้เกิดเป็นความงดงามที่สะกดทุกสายตา ถ่ายทอดถึงความเป็นเพื่อนร่วมทางที่วางใจได้ ในการนำคุณสู่ทุกจุดหมายปลายทางได้อย่างประทับใจ ไม่ว่าระหว่างทางจะเจอสถานการณ์ใดก็ตาม

นับว่าเป็นคุณค่าที่อยู่เหนือกาลเวลา ความล้ำสมัย ความก้าวหน้าที่ไม่หยุดยั้ง และพร้อมเสมอสำหรับทุกความท้าทาย รูปทรงภายนอกที่แสดงออกถึงพลังในการขับเคลื่อน การออกแบบกระจังหน้าให้มีตำแหน่งที่ตั้งตรง พร้อมกับลายแถบคาดกระจังหน้าแบบ 2 แถบ และสัญลักษณ์ Mercedes-Benz กึ่งกลางกระจังหน้า รวมไปถึงการออกแบบชุดไฟหน้าที่มีความสง่างาม และรูปแบบของแผ่นกันกระแทกด้านล่างที่ให้ความรู้สึกในการพร้อมลุยไปกับทุกสภาพถนน

สำหรับด้านข้าง การหุ้มขอบซุ้มล้อเสริมภาพของความเป็นรถยนต์แบบ SUV ให้โดดเด่นสะดุดตามากขึ้น ขณะที่ภาพของความแข็งแกร่งถูกเสริมให้ชัดเจนมากขึ้นด้วยทางเลือกของกาบบันไดแบบอะลูมิเนียม ซุ้มล้อถูกออกแบบให้เป็นจุดเริ่มต้นของการสื่อถึงความกว้าง และความงามแบบสปอร์ต ทางด้านหลัง สปอยเลอร์หลังคาเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่ย้ำให้เห็นถึงการออกแบบที่สวยงาม และแข็งแกร่ง

ความประทับใจยังเกิดขึ้นในอีกหลายจุดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในทันที เช่น พื้นที่ส่วนหัวเข่าและการวางเท้าที่กว้างขวาง จึงทำให้เกิดความรื่นรมย์กับทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะนั่งอยู่ในตำแหน่งใด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิงมีมาให้อย่างเพียบพร้อม ส่วนพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระก็มีขนาดกว้างขวางและสามารถพับเบาะหลังลงได้เพื่อรองรับกับการขนสัมภาระที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ด้วยประตูท้ายขนาดใหญ่ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ประโยชน์ที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ โอกาสที่เปิดกว้างสำหรับการเดินทางที่ยาวไกล และการเดินทางที่มีรูปแบบอันหลากหลาย

จุดเด่นของเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ จากทีมวิศวกรของ Mercedes-Benz ที่สามารถบรรลุถึงผลสำเร็จได้อย่างดีเยี่ยมสำหรับความคล่องแคล่ว ความราบรื่นในการทำงาน และความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำ