Mercedes-Benz เพิ่มรุ่นซึ่งมาพร้อมกับป้าย EQ Power ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าในแบบปลั๊กอินไฮบริดให้กับ 3 รถขนาดคอมแพกต์ของตนทั้งรถเอสยูวีและคูเป้ 4 ประตูคือ GLA, CLA และ CLA Shooting Brake โดยที่ทั้ง 3 รุ่นนี้จะมาพร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 3

ทั้ง Mercedes-Benz GLA 250 e, CLA 250 e และ CLA Shooting Brake 250 e จะใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,300 ซีซี เทอร์โบชาร์จ 102 แรงม้าทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรีลิเธียมไอออนความจุประมาณ 15.6 kWh ซึ่งจะทำให้มีกำลังรวม 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่วนสมรรถนะในด้านการเร่งและความเร็วสูงสุดจะแตกต่างในแต่ละรุ่น CLA 250 e ใช้เวลา 6.8 วินาทีทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ก่อนที่จะไปถึงความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. และสามารถเดินทางโดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ 60-69 กิโลเมตร

ส่วน CLA Shooting Brake 250 e จะมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ที่ช้ากว่าเล็กน้อยโดยอยู่ที่ 6.9 วินาที และความเร็วสูงสุดของรถลดลงมาอยู่ที่ 235 กม./ชม. เช่นเดียวกับระยะการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนจากแบตเตอรีลดลงอยู่ที่ 58-68 กิโลเมตร ขณะที่ GLA 250 e ต้องการเวลา 7.1 วินาทีเพื่อเร่งจาก 0-100 กม./ชม. โดยมีความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. หากใช้พลังงานจากแบตเตอรีอย่างเดียวจะไปได้ระหว่าง 53-61 กิโลเมตร

ด้านการชาร์จพลังงานทาง Mercedes-Benz ระบุว่ารถปลั๊กอินไฮบริดทั้ง 3 รุ่นสามารถชาร์จพลังงานจาก 10 เปอร์เซ็นต์จนเต็มด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 45 นาทีกับ Wallbox 7.4 kW AC แต่หากใช้เครื่องชาร์จแบบเร็ว Wallbox 24 kW DC จะใช้เวลา 25 นาทีเพื่อชาร์จพลังงานจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์

แม้ทาง Mercedes-Benz จะเริ่มรับจอง GLA, CLA และ CLA Shooting Brake ปลั๊กอินไฮบริดในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ และจะเริ่มปล่อยรถไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น แต่ก็ยังไม่มีการระบุราคาออกมา

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th