Mercedes-Benz เตรียมปรับทิศทางการเข้าร่วมงานแสดงรถยนต์ในประเทศไทย และทั่วโลก
Mercedes-Benz ผู้ผลิตรถยนต์หรูสัญชาติเยอรมัน ประกาศแนวทางใหม่ในการเข้าร่วมงานแสดงรถยนต์ในอนาคต โดยจะเริ่มต้นในประเทศไทยครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์ Motor Expo 2022 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้ พร้อมนำเสนอ “ดิจิทัลไกด์” ผู้ให้คำแนะนำเรื่องรถยนต์ที่รู้จริงแบบไม่จำกัดเพศ การสร้างสรรค์บูธแบบอินเทอร์แอคทีฟภายใต้คอนเซ็ปต์ “Vision of the Beyond” นำเสนอประสบการณ์ยานยนต์แบบฉบับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่โดดเด่นเหนือระดับ
ในการแถลงข่าวการเปิดไลน์ผลิต Mercedes-Maybach รุ่นปลั๊กอินไฮบริด ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร และบีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในการเข้าร่วมงานแสดงรถยนต์ในอนาคต, การนำโมเดลอัลตร้าลักชัวรี่เข้ามาประกอบในประเทศ และข้อมูลอัพเดตของรถยนต์ไฟฟ้า EQS รุ่นประกอบในประเทศ
Luxury ไม่ได้อยู่ที่ขนาดพื้นที่
โฟล์เกอร์ เริ่มต้นการสัมภาษณ์ด้วยการอธิบายความหมายของคำว่า ‘Luxury’ ที่จะถูกนำเสนอผ่านรูปแบบใหม่ โดยไม่ยึดติดว่าความ ‘หรูหรา’ จะต้องมีพื้นที่บูธขนาดใหญ่ที่สุดเท่านั้น และจะเป็นการสร้างความดึงดูดให้ผู้เข้าชมงานแวะเวียนมาที่บูธของ Mercedes-Benz เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างจากเดิม
“เราเข้าใจ และคำนึงถึงจุดนี้เช่นกัน แต่เมื่อพูดถึงความลักชัวรี่ พื้นที่ขนาดใหญ่อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อสร้างความดึงดูดใจ แต่ในมุมมองของเรากลับเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม ความใหญ่โตไม่ได้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพหรือความเอ็กซ์คลูซีฟใดๆ” บิ๊กบอสค่ายรถยนต์จากเมืองสตุ๊ตการ์ท อธิบาย “ในเรื่องนี้ต้องพิจารณาจากหลายองค์ประกอบทั้งการดีไซน์บูธ, คอนเซปต์ และความใส่ใจในรายละเอียด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้เข้าชมงานทุกคน เหมือนที่เรานำเสนอในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อสักครู่ เมอร์เซเดส ต้องการสร้างรูปแบบของบรรยากาศ ทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสความเปลี่ยนแปลง บรรยากาศที่แตกต่างจากเดิม”
“นั่นคือเหตุผลที่เมอร์เซเดส ไม่ได้บอกว่าเราไม่ชอบผู้หญิงถึงไม่ใช่พริตตี้ แต่การเปลี่ยนเป็นดิจิทัลไกด์ เพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวหรือสมาชิกทุกคนได้เข้ามาพูดคุย สอบถามข้อมูล และได้รับประสบการณ์ลักชัวรี่ร่วมกัน มากกว่าการนำรถยนต์หลากหลายรุ่นมาจอดเรียงรายเหมือนลานจอด หลังจากนี้แนวทางของเมอร์เซเดส ในการเข้าร่วมงาน Auto Show ในอนาคต จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ โอกาสเรียนรู้นวัตกรรมที่นำมาจัดแสดง รวมทั้งรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องการนำเสนอแก่ลูกค้าของเมอร์เซเดส” โฟล์เกอร์ อธิบายความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น
ทางด้านกุซเทรา กล่าวเสริมถึงความเปลี่ยนแปลงของ Mercedes-Benz ที่ลูกค้าชาวไทยจะได้เห็นครั้งแรกในงาน Motor Expo 2022 “เมื่อนำองค์ประกอบทุกอย่างมาพิจารณา สิ่งสำคัญที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการเข้าร่วมงานแสดงรถยนต์คือการดูแลลูกค้าด้วยความใส่ใจอย่างดีที่สุด ทั้งการให้ข้อมูลรายละเอียดของรถยนต์ที่ครบถ้วนแก่ลูกค้า สร้างความเข้าใจในเทคโนโลยีที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอภายในงาน และการเปรียบเทียบความแตกต่างกับแบรนด์รถยนต์คู่แข่งของเรา”
“หากพูดถึงความลักชัวรี่ การบริการคือหัวใจสำคัญ เราต้องดูแลลูกค้าตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้ามาสัมผัสพื้นที่จัดแสดง ทำให้เรามีการนำเสนอดิจิทัลไกด์ ที่มีความเชี่ยวชาญในรถยนต์ Mercedes เพื่อดูแลลูกค้า การขายไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดอีกต่อไป แต่หากเกิดขึ้นก็ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ระหว่างช่วงงานแสดงรถยนต์ต่างๆ โชว์รูมตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศของเมอร์เซเดส ยังคงเปิดทำการตามปกติ ทำให้การซื้อขายรถยนต์สามารถจบลงอย่างเป็นทางการที่โชว์รูม ทำให้เป้าหมายของเราในโปรดักส์คือการดูแลลูกค้าอย่างเพอร์เฟกต์”
แบรนด์หรูรายแรกประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มีการเผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้า EQS รุ่นประกอบในประเทศไทย รหัส 500 4MATIC AMG Premium เป็นครั้งแรก พร้อมประกาศราคาจำหน่ายที่ 7,900,000 บาท ลดลงจากรุ่นนำเข้า 6.7-9.7 แสนบาท โดยกุซเทรา เปิดเผยว่า “EQS 450+ AMG Premium และ EQS 450+ Edition 1 ที่เป็นการนำเข้าจากประเทศเยอรมัน ทั้งหมด 20 คัน ถูกจำหน่ายให้ลูกค้าชาวไทยหมดแล้ว ตอนนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เตรียมนำเสนอ EQS รุ่นประกอบในประเทศที่จะเปิดรับจองอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป และพร้อมจะส่งมอบรถให้ลูกค้าภายในเดือนธันวาคมนี้”
ขณะที่ โฟล์เกอร์ พูดถึงการนำรถยนต์ไฟฟ้า BEV เข้ามาประกอบในประเทศไทยเป็นรุ่นแรกได้สำเร็จว่า “คู่แข่งรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มลักชัวรี่ Mercedes-Benz ถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่นำรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบเข้ามาผลิตในประเทศไทย เพื่อลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจ และความพิเศษที่เมอร์เซเดส ต้องการมอบให้ลูกค้าชาวไทย”
“ยอดจอง EQS อาจจะไม่สูงมากนักหากเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าในเซกเม้นต์อื่นๆ แต่ทั้ง 4 ดีลเลอร์ที่ได้สิทธิ์จำหน่ายแบรนด์ Mercedes-EQ (เบนซ์บีเคเค กรุ๊ป, เบนซ์ พระราม 3, ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ และทีทีซี มอเตอร์) มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว และการที่ EQS ถูกสร้างมาเพื่อให้ลูกค้าได้สนุกกับการขับขี่ ก็น่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย”
เชื่อมั่นขยายฐานอัลตร้าลักชัวรี่ Maybach ประกอบในประเทศ
ในขณะเดียวกันการนำ Mercedes-Maybach ซาลูนระดับอัลตร้าลักชัวรี่ เข้ามาตั้งไลน์ผลิตในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โฟล์เกอร์ อธิบายว่า “หลังจากพิจารณาองค์ประกอบทุกด้านด้วยความรอบคอบ รวมทั้งการศึกษาระหว่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย กับทางโรงงานผลิต เมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง ไทยแลนด์ ในการนำ Maybach เข้ามาผลิต ทั้งการวางแผนนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อมาผลิตในประเทศ”
“การทำงานร่วมกับดีลเลอร์ที่ได้สิทธิ์จำหน่าย Maybach ทั้ง 4 แห่ง (เบนซ์บีเคเค กรุ๊ป, ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์, สตาร์แฟลก และทีทีซี มอเตอร์) เพื่อสำรวจฐานลูกค้าในประเทศไทยว่ามีตลาดที่ใหญ่พอจะนำ Maybach เข้ามาประกอบในประเทศหรือไม่ รวมทั้งความซับซ้อนในการเลือกออปชั่นที่ยังคงมีให้เลือกสีตัวถังแบบทูโทนเช่นเดียวกับรุ่นนำเข้าก่อนหน้านี้”
นอกจากนี้ โฟล์เกอร์ พูดถึงความเป็นไปได้ในการผลิต Mercedes-Maybach S 680 4MATIC Premium เพื่อส่งออกขายในแถบอาเซียนว่า “ในตอนนี้เรายังไม่มีแผนส่งออก Maybach ที่ประกอบในประเทศไทย ในส่วนของการลงทุนยังคำนวณจากพื้นฐานการประกอบเพื่อตลาดประเทศไทยเท่านั้น ถึงปัจจุบันจะมีการส่ง S-Class ไปขายที่เวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของ Maybach เช่นกัน ในอนาคตเราต้องทำการศึกษาเพื่อดูว่ามีศักยภาพที่จะส่ง Maybach ที่ผลิตในประเทศไทยสู่ตลาดอื่นในแถบอาเซียหรือไม่”
สำหรับ Mercedes-Maybach S 680 4MATIC Premium ขุมกำลังไฮบริดรุ่นประกอบในประเทศ จะประกาศราคาอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2022 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th