Mercedes-Benz เผยโฉม C-Class เจนเนอรเชั่น 5 กับแนวคิดพื้นที่ความสะดวกสบาย
จากจุดเริ่มเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วที่เป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับผู้อยากสัมผัสความหรูจากค่ายดาว 3 แฉกก่อนที่จะมี A-Class มารับหน้าที่นี้ไป ตอนนี้ C-Class ได้เดินทางมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 5 แล้วเมื่อทาง Mercedes-Benz ได้เปิดตัวโฉมล่าสุดของรถคอมแพกต์หรูรุ่นนี้ออกมาทั้งตัวถังซีดานและแวกอนพร้อมกับการเแสดงว่าพื้นที่สำหรับความสะดวกสบายควรเป็นอย่างไร
เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้อยู่ในห้องโดยสาร C-Class ใหม่จึงมาพร้อมกับการขยายตัวถังในเกือบทุกส่วนจากรุ่นที่แล้วทั้งซีดานและแวกอน โดยในตัวถังซีดานตัวรถมีความยาว 4,751 มม. กว้าง 2,033 มม. สูง 1,438 มม. และฐานล้อมีความยาว 2,865 มม. ซึ่งทำให้มีความยาวมากกว่ารุ่นก่อน 65 มม. กว้างขึ้น 13 มม. แต่เตี้ยลง 9 มม. ในขณะที่ระยะฐานล้อมีความยาวขึ้น 25 มม. ซึ่งผลจากความเปลี่ยนแปลงในเรื่องขนาดภายนอกและระยะฐานล้อนี้ส่งผลอย่างชัดเจนต่อผู้โดยสารที่เบาะหลัง เพราะทำให้มีพื้นที่ส่วนขาเพิ่มขึ้น 21 มม. พื้นที่ส่วนหัวเพิ่มขึ้น 13 มม. ในขณะที่พื้นที่ช่วงศอกและไหล่เพิ่มขึ้น 15 และ 13 มม. สำหรับผู้อยู่ที่เบาะหน้าแม้จะมีพื้นที่ส่วนหัวเพิ่มขึ้นแค่ 2 มม. และพื้นที่ส่วนขาไม่ได้เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม แต่ก็ได้ความสบายพื้นขึ้นจากความกว้างของรถจนทำให้พื้นที่ช่วงศอกและไหล่เพิ่มขึ้น 22 และ 26 มม. ตามลำดับ
สำหรับ C-Class Estate ใหม่หรือตัวถังแวกอนซึ่งมีความแตกต่างจากซีดานแค่ในด้านตัวเลขความสูงของรถซึ่งอยู่ที่ 1,455 มม. มีความยาวเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 49 มม. กว้างขึ้น 13 มม. ขณะที่ความสูงลดลง 7 มม. ส่วนพื้นที่เก็บของด้านหลังมีความจุ 490 ลิตร เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 30 ลิตร
การที่ภายนอกของ C-Class ใหม่มีความสูงลดลงจากจากรุ่นก่อนหน้าเล็กน้อยอาจเป็นผลมาจากแนวคิดการออกแบบที่ทางผู้ผลิตระบุว่าเพื่อให้ความรู้สึกของการสัมผัสถึงความสปอร์ตและความสง่างาม โดยทาง Mercedes-Benz ได้ระบุว่าออกแบบมาให้รถคอมแพกต์หรูรุ่นใหม่ของตนดูเหมือนอยู่ในการเคลื่อนไหวในขณะหยุดนิ่งด้วยพลังจากสัดส่วนต่างๆ ของรถ อย่างไรก็ตามหากดูถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ภายนอกของรถด้านหน้าอาจให้ความรู้สึกถึงอิทธิพลที่มาจาก E-Class ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งในส่วนของไฟหน้า กระจังหน้า รวมทั้งกันชน ในขณะที่รูปทรงของไฟท้ายมีความคล้ายกับ S-Class ที่เปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้ว แต่มีส่วนบนที่เฉียงกว่า
ภายในห้องโดยสาร C-Class ใหม่ไม่เพียงมีพื้นที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้สึกใหม่หมดด้วยจอทัชสกรีนขนาด 11.9 นิ้วแนวตั้ง โดยที่ทั้งจอและแผงแดชบอร์ดถูกออกแบบให้ทำมุมเฉียง 6 องศาเข้าหาผู้ขับ และนอกจากจอขนาดใหญ่ตรงกลางแล้ว Mercedes-Benz ยังใช้จอขนาด 12.3 นิ้วความละเอียดสูงเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับการแสดงข้อมูลผู้ขับ นอกจากนี้แน่นอนว่า C-Class ใหม่มาพร้อมกับ MBUX เจนเนอรเชั่นล่าสุดที่มาพร้อมกับผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียง และการเชื่อมต่อ รวมไปถึงการอัพเดต Over-the-Air นอกจากนี้ยังมี Augment Reality เป็นออฟชั่นให้เลือกสำหรับระบบนำทาง โดยกล้องจะฉายภาพสดบนจอตรงกลาง พร้อมกับมีการแสดงข้อมูลนำทางอยู่บนภาพ
ในช่วงแรก Mercedes-Benz มี 3 ทางเลือกของเครื่องยนต์เบนซินซึ่งทั้งหมดเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ พร้อมกับระบบไมลด์ไฮบริดใช้ Integrated Starter Generator และระบบไฟ 48 V โดยเริ่มจาก C180 กับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 170 แรงม้า C200 เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 204 แรงม้า และ C300 กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรกำลัง 258 แรงม้า โดยที่ C200 และ C300 มีรุ่นขับเคลื่อนด้วยทุกล้อ 4Matic ให้เลือกเพิ่ม
ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบที่มีให้เลือก 2 รุ่นในช่วงแรกคือ C 220d และ C 300d ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ มาพร้อมกับ Integrated Starter Generator และระบบไฟ 48 V เหมือนกัน แต่มีกำลัง 200 และ 265 แรงม้าตามลำดับ ด้านการส่งกำลังสู่ล้อทุกรุ่นของ C-Class ใหม่เป็นหน้าที่ของเกียร์ 9G-Tronic ซึ่งถูกพัฒนามาสำหรับการทำงานร่วมกับ Integrated Starter Generator
ในส่วนของระบบช่วยขับทางค่ายดาว 3 แฉกระบุว่า Driving Assistance Package เจนเนอเรชั่นใหม่ของตนมีการทำงานที่ล้ำหน้าสำหรับช่วยลดภาระของผู้ขับในสถานการณ์การขับแต่ละวัน เพื่อความสบายและปลอดภัยมากขึ้น อย่างเช่นระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยแอคทีฟที่จะช่วยให้รถอยู่ในเลนสามารถทำงานได้เมื่อขับที่ความเร็วสูงถึง 210 กม./ชม. พร้อมกับมีกล้อง 360 องศาเพื่อตรวจดูเลน หรือการทำงานช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้ที่ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. จากเดิม 60 กม./ชม.
ทาง Mercedes-Benz วางแผนที่จะผลิต C-Class ใหม่ทั้งที่ในเยอรมนี จีน และแอฟริกาใต้ ส่วนการขายแน่นอนว่าจะเริ่มที่ยุโรปก่อนในปีนี้
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th