Mercedes-Benz C-Class All-Terrain เสริมความสามารถให้แวกอนหรูลุยทางวิบาก
จากที่มี E-Class All-Terrain เป็นทางเลือกสำหรับรถแวกอนพรีเมียมที่มาพร้อมกับความสามารถในการลุยทางวิบากได้มากขึ้นกว่า E-Class Estate อยู่แล้ว ทาง Mercedes-Benz ได้ขยายทางเลือกของรถแวกอนพร้อมลุยในขนาดตัวถังที่เล็กลงด้วย C-Class All-Terrain
Mercedes-Benz C-Class All-Terrain มีความแตกต่างจาก C-Class Estate ทั่วไปอย่างชัดเจนด้วยหลากหลายส่วนของรถที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการลุยเส้นทางออฟโรด อย่างความสูงของใต้ท้องรถจากพื้นที่เพิ่มขึ้นจาก C-Class Estate 40 มม. รวมไปถึงมีการติดแผ่นกันกระแทกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มคิ้วซุ้มล้อ และยังมาพร้อมกับกระจังหน้าเฉพาะที่แตกต่างจากรุ่นปกติ ซึ่งจากความแตกต่างเหล่านี้ทำให้ C-Class All-Terrain มีขนาดตัวรถภายนอกแตกต่างจาก C-Class Estate เล็กน้อยคือมีความยาวกว่า 4 มม. และกว้างขึ้น 21 มม. นอกเหนือไปจากความสูงของรถที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ทางค่ายดาว 3 แฉกยังมีการออกแบบล้อใหม่ตั้งแต่ขนาด 17-19 นิ้วสำหรับรุ่น All-Terrain โดยเฉพาะ รวมไปถึงยังมีการแต่งด้วยอลูมิเนียมขัดกับส่วนต่างๆ ภายนอกรถอย่างขอบล่างกระจกหน้าต่าง และราวหลังคา ขณะที่เสา B-Pillar และครอบกระจกมองข้างเป็นสีดำเงา พร้อมกับมี Night Package ที่มีการแต่งส่วนต่างๆ ด้วยวัสดุสีดำเงามากขึ้นเป็นทางเลือกให้ติดเพิ่มได้
เพื่อรองรับกับรถที่มีความสูงขึ้นและลุยทางทุรกันดารได้มากขึ้น Mercedes-Benz จึงใช้ช่วงล่าง 4-Link ที่ด้านหน้าพร้อมด้วยก้านคันส่งล้อหน้าที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นปกติเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมี 2 โหมดการขับใหม่เพิ่มเข้ามาให้เลือกคือ Offroad และ Offroad+ พร้อมการทำงาน Downhill Speed Regulation
นอกจากความสามารถในการลุยแล้ว C-Class All-Terrain ยังถูกเพิ่มความสามารถในการลากจูงด้วย พร้อมกับมีอุปกรณ์เสริมสำหรับการลากจูงให้ติดตั้งเพื่อช่วยควบคุมองศาของสิ่งที่ลากจูงตามรถที่ความเร็วไม่เกิน 5 กม./ชม. ในขณะที่น้ำหนักในการลากจูงสูงสุดอยู่ที่ 1,800 กิโลกรัม
C-Class All-Terrain มาพร้อมกับระบบ 4Matic ที่สามารถส่งกำลังสู่ล้อหน้า 45 เปอร์เซ็นต์และส่งกำลังสู่ล้อหลัง 55 เปอร์เซ็นต์ โดยมี 2 ทางเลือกของเครื่องยนต์คือเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อม Integrated Starter-generator และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อม Starter-generator และระบบไฟฟ้า 48-Volt
สำหรับภายในห้องโดยสารจะมีการแต่ง Avantgarde เป็นมาตรฐานทำให้มี 3 แนวสีให้เลือกใช้คือสีดำล้วน, สีเบจ Macchiato Beige ร่วมกับสีดำ และสีน้ำตาล Sienna Brown ร่วมกับสีดำ ส่วนแผงแดชบอร์ดมีการแต่งด้วยโครเมียม พร้อมกับถูกออกแบบให้เอียง 6 องศาเข้าหาผู้ขับ
ทาง Mercedes-Benz จะนำ C-Class All-Terrain ไปโชว์ในงานมิวนิกมอเตอร์โชว์เดือนหน้า ขณะที่ราคาขายของรถยังไม่ประกาศออกมา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th