ท่ามกลางความมืดมิดที่มีประกายแสงสว่างของดวงดาว ความหมายที่บ่งบอกถึงความมีคุณค่าที่สวยงาม และเป็นพลังแห่งความหวัง ก็เปรียบเสมือนกับโลโกดาวสามแฉกของ Mercedes-Benz ที่เป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ชั้นนำของโลก ด้วยความสวยงามจากการดีไซน์ชั้นเลิศ ความหรูหราสง่างามจนเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น พร้อมกับสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมจนสามารถครองใจผู้ใช้รถยนต์จากทั่วโลกมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน

Mercedes-Benz คือ ความทรงคุณค่าของยนตรกรรมที่มีมาตั้งแต่ในอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน
Mercedes-AMG คือ ความเหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับ พร้อมเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความโดดเด่นของสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ยากจะมีใครตามทัน

“Car of The Year” งานซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพของรถยนต์ที่ได้รับรางวัลว่ามีความยอดเยี่ยม และโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งในคลาสเดียวกัน โดยพิสูจน์ได้จากรางวัลแห่งชัยชนะที่ยนตรกรรมชั้นนำจาก Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG สามารถคว้ามาครอบครองได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับงาน Car of The Year 2020 เหล่าบรรดายนตรกรรมชั้นยอดของ Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความเป็นรถยนต์ชั้นยอด โดยสามารถคว้ารางวัลแห่งเกียรติยศมาครองได้ถึง 9 รางวัล คือ

1. BEST SEDAN UNDER 1,300 c.c.
2. BEST HYBRID SEDAN UNDER 2,000 c.c.
3. BEST HYBRID MID-SIZE SEDAN UNDER 2,000 c.c.
4. BEST MID-SIZE SEDAN DIESEL
5. BEST SPORT SEDAN
6. BEST SPORT COUPE
7. BEST SUPER CAR
8. BEST SUV UNDER 3,000 c.c. PETROL
9. BEST SUV UNDER 2,000 c.c. DIESEL

สำหรับรถยนต์ที่จะได้รางวัลนั้น ต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาจากเหล่าคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติ ซึ่งในส่วนแรกจะพิจารณาจากองค์ประกอบส่วนต่างๆ ทั้งในเรื่องของความสวยงาม, อรรถประโยชน์การใช้สอย, สมรรถนะ, ระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมถึงกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับมาตรฐานของราคา

ส่วนที่ 2 คณะกรรมการจะมีการเปรียบเทียบจากการขับขี่จริง ในสถานีทดสอบต่างๆที่ได้มีการจัดเตรียมไว้ โดยจำลองอุปสรรคต่างๆ ที่อิงมาจากการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และนำคะแนนที่ได้มารวมกับคะแนนในช่วงแรก เพื่อลงมติให้เป็นเอกฉันท์ว่า รถรุ่นไหน ประเภทไหน เหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่ง “Car of The Year” เพื่อเป็นเครื่องการันตีถึงความเป็น “ที่สุด”

Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic
BEST SEDAN UNDER 1,300 c.c.

เริ่มต้นความสำเร็จจากยนตรกรรมรุ่นเล็ก ที่มีสมรรถนะไม่เล็กเลย Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic กับการออกแบบภายนอกซึ่งได้มีการผสมผสานรูปแบบที่ล้ำสมัยเหนือระดับ กับความงามสไตล์สปอร์ตเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน แนวเส้นต่างๆ สื่อถึงพลังและสมรรถนะในการขับเคลื่อนที่เร้าใจ แม้ในขณะที่จอดนิ่งอยู่กับที่

การออกแบบห้องโดยสาร โอบล้อมผู้โดยสารไว้อย่างเป็นรูปแบบ การเชื่อมโยงระหว่างแผงคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแผงบุประตู มีความต่อเนื่อง และด้วยการออกแบบภายในห้องโดยสารแบบ AMG interior package ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์พิเศษของรถยนต์รุ่นนี้ เช่นเดียวกับการเลือกสรรอุปกรณ์ตกแต่งและไฟเรืองแสงภายในรถที่ให้แสงสว่างที่ดีที่สุด

ปลอดภัยกับทุกการเดินทาง ด้วยระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ จะคอยเฝ้าสังเกตการณ์แทนคุณตลอดเวลา และสามารถให้ความช่วยเหลือเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง เนื่องจากการทิ้งระยะห่างที่ลดน้อยลง หรือการขาดสมาธิในการขับขี่ ระบบจะแจ้งเตือนด้วยภาพและเสียงก่อนเกิดการชนปะทะ หากคุณเริ่มเบรกโดยใช้แรงที่เบาเกินไปหลังสัญญาณเตือนปรากฏขึ้น ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกให้คุณอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์

พร้อมกันนี้ คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับความสะดวกสบายระดับสูงในการขับขี่ระยะไกลบนทางด่วน ในขณะที่สามารถควบคุมการเข้าโค้งแคบได้พร้อมความตื่นเต้นแบบสปอร์ต ช่วงล่างแบบคอมฟอร์ตที่สมดุล แสดงถึงการผสมผสานของระบบป้องกันการสั่นสะเทือนกับเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยและยังให้ความเพลิดเพลินขณะขับขี่

หลากหลายอารมณ์การขับขี่เลือกได้จากเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง หรือระบบบังคับเลี้ยว ในโหมด “Sport” จะเน้นความโฉบเฉี่ยว คล่องตัว ขณะขับขี่ ส่วนโปรแกรมการขับขี่พื้นฐาน “Comfort” จะเน้นที่ความสมดุล ในทางตรงกันข้ามโหมด “Eco” จะเน้นประสิทธิภาพสูงสุดในการประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่าย

ทั้งหมดนี้เป็นแค่คุณสมบัติเพียงบางส่วนของ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic และบทสรุปจึงไม่น่าเป็นเรื่องเกินคาด สำหรับการคว้ารางวัล BEST SEDAN UNDER 1,300 c.c. ในปีนี้ไปครอบครอง

Mercedes-Benz C 300 e AMG Dynamic
BEST HYBRID SEDAN UNDER 2,000 c.c.

นวัตกรรมที่หลากหลายทำให้รถยนต์มีความคล่องตัวในการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mercedes-Benz C 300 e AMG Dynamic นั้น มีการออกแบบที่ชัดเจนและเร้าอารมณ์ พร้อมกับความโฉบเฉี่ยว คล่องตัวและก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

การออกแบบภายในห้องโดยสารเน้นความรู้สึกสบายที่เสริมสร้างสมรรถนะและความหรูหราสุดทันสมัย พร้อมกับการเลือกสรรวัสดุระดับพรีเมียมมาใช้สำหรับการตกแต่งแผงประตูและแผงหน้าปัด เพิ่มเติมประสบการณ์ของความมีคุณภาพสูงของการออกแบบตกแต่งภายในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี

สัดส่วนสรีระด้านหน้าของ C-Class ได้รับการออกแบบอย่างเฉียบคมด้วยกระจังหน้า Diamond Grille กันชนหน้าทรง A-Wing Design และไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มาพร้อม ULITRA RANGE Highbeam จะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ แม้ในมุมอับสายตา รวมถึงระบบ Active Distance Assist DISTRONIC ที่ช่วยรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าโดยสัมพันธ์กับความเร็วของรถ และระบบ Active Brake Assist ที่สามารถเบรกรถยนต์โดยอัตโนมัติให้คุณ ทั้งหมดของการดีไซน์และเทคโนโลยีใน C-Class พร้อมที่จะเติมเต็มประสบการณ์การขับขี่อันปลอดภัยและสมบูรณ์แบบให้คุณ

ความยอดเยี่ยมที่มาจากเทคโนโลยี Plug-in Hybrid เจเนอเรชันที่ 3 ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นทั้งในเรื่องของสมรรถนะที่เป็นเลิศ ความประหยัดที่คุณสามารถควบคุมได้ และการขับขี่ด้วยโหมดพลังงานไฟฟ้าก็จะช่วยสร้างความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ส่วนระบบเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ซึ่งมีจังหวะการทำงาน 9 สปีด ก็จะช่วยทำให้รถยนต์มีความเร็วรอบต่ำ ซึ่งช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและไม่สร้างเสียงดังรบกวน

ด้วยคุณสมบัติแค่เพียงบางส่วนจากที่กล่าวมา ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นหรือสัมผัส เกิดความประทับใจ และความโดดเด่นที่มีก็สามารถชนะใจกรรมการผู้ตัดสิน จนสามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติ BEST HYBRID SEDAN UNDER 2,000 c.c. ประจำปีนี้ไปครอบครอง

Mercedes-Benz E 300 e Exclusive
BEST HYBRID MID-SIZE SEDAN UNDER 2,000 c.c.

นิยามใหม่ของยนตรกรรมแห่งความสง่างาม ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า EQ Power เจเนอเรชัน 3 พร้อมพาคุณทะยานไปได้ไกลกว่าที่เคย ด้วยสมรรถนะจากเครื่องยนต์เบนซิน ที่ผสานพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ขนาดความจุไฟฟ้า 13.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่จะทำให้การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าไปได้ไกลกว่าเดิม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ความสะดวกสบายที่แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานและความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนระหว่างการเดินทางไกลในยามค่ำคืนหรือในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย Mercedes-Benz E 300 e Exclusive จะสามารถรับรู้และช่วยลดความตึงเครียดได้อย่างชัดเจน โดยใช้แนวคิดที่รวมทุกส่วนของรถเข้าไว้ด้วยกัน

Mercedes-Benz E 300 e Exclusive คือความคู่ควรกับรางวัล BEST HYBRID MID-SIZE SEDAN UNDER 2,000 c.c. ประจำปีนี้

Mercedes-Benz E 220 d Sport
BEST MID-SIZE SEDAN DIESEL

หรูหราอย่างสง่างามกับการออกแบบภายนอกที่ได้มีการผสมผสานรูปแบบที่ล้ำสมัยเหนือระดับ กับความงามสไตล์สปอร์ตที่เข้ากันอย่างกลมกลืน แนวเส้นต่างๆ สื่อถึงพลังและสมรรถนะในการขับเคลื่อนที่เร้าใจ แม้ในขณะที่จอดนิ่งอยู่กับที่ ส่วนการออกแบบภายในต่อเนื่องความเยี่ยมยอดจากภายนอก ความกว้างขวาง ความมีเสน่ห์ดึงดูดใจ และความสะดวกสบายที่ประสานรวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมของคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว

สมรรถนะในการขับขี่ที่เป็นเยี่ยม มาจากขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ OM 654 Common-rail แบบ 4 สูบ ที่ไม่เพียงมอบสมรรถนะอันเร้าใจ แต่ยังเหนือชั้นด้วยประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน และปล่อยไอเสียน้อยกว่าเมื่อเทียบกับรุ่น OM 651

ด้วยความโดดเด่นจากสมรรถนะของเครื่องยนต์ และความลงตัวในการออกแบบ จึงทำให้ Mercedes-Benz E 220 d Sport สามารถคว้ารางวัล BEST MID-SIZE SEDAN DIESEL ประจำปีนี้ไปครอบครอง

Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+
BEST SPORT SEDAN

สะกดทุกสายตากับการออกแบบ พร้อมการตกแต่งภายนอกของ Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ เพราะการประสานการออกแบบที่โดดเด่นให้เข้ากับสมรรถนะการขับขี่ที่เป็นเลิศ นับเป็นการเติมเต็มแนวคิดอันโดดเด่นได้ในระดับที่สูงเป็นพิเศษ

การดีไซน์ที่เน้นย้ำถึงพละกำลังที่ซ่อนอยู่ในรถยนต์สมรรถนะสูงคันนี้ สังเกตได้จากช่องดูดอากาศเข้าที่ติดตั้งแบบไร้ตะแกรง ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความโดดเด่น แต่ยังให้กระแสการไหลของอากาศตามที่กำหนด เพื่อดำเนินตามเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ คือ สมรรถนะการขับขี่สูงสุด

สัญญาณเตือนของ Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ ไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์น่าดู แต่ยังมีเสียงก้องกังวานน่าประทับใจอีกด้วย เสียงมุ่งไปยังโปรแกรมการขับขี่ AMG Dynamic Select เพื่อให้ปรับโทนเสียงที่ถูกต้องเสมอ ซึ่งหมายความถึงการลดเสียงของ AMG ในโปรแกรมการขับขี่ “Comfort” และในโปรแกรมการขับขี่ “Sport”, “Sport+” และ “Race” ที่เร้าอารมณ์ความรู้สึกมากเป็นพิเศษ

เปลี่ยนความรู้สึกทางอารมณ์กับภายในห้องโดยสาร ที่ให้บรรยากาศประหนึ่งสนามแข่ง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากพวงมาลัย AMG Performance หุ้มหนัง nappa และมีด้านล่างแบนราบ มาพร้อมเครื่องหมาย 12 นาฬิกา และการเดินด้ายสีตัดกับสีหนัง รวมถึงหุ้มบริเวณที่จับด้วยไมโครไฟเบอร์ Dinamica ส่วนที่นั่ง AMG ผลิตจากหนัง nappa พร้อมตราสัญลักษณ์ AMG บริเวณพนักพิงศีรษะด้านหน้า ก็ช่วยรองรับการขับขี่ได้อย่างเหมาะสม

ความโหดร้ายที่ปลายคันเร่งมาจากขุมพลังของเครื่องยนต์ Bi-turbo AMG V8 4.0 ลิตร ที่ทรงพลังที่สุด โดยมีกำลังอันน่าเหลือเชื่อถึง 612 แรงม้า (450 กิโลวัตต์) และมีแรงบิด 850 นิวตันเมตร ที่เกินพอสำหรับการสร้างความเชื่อมั่น ด้วยการตอบสนองที่ว่องไวและสมรรถนะที่สูงเกินกว่าใคร ๆ

นวัตกรรมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ การกระจายแรงบิดแปรผันเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อจนถึงระบบขับเคลื่อนเฉพาะล้อหลัง ส่วนการกระจายแรงบิดนี้ยังจำเป็นต่อการนำกำลังที่ได้รับจากเกียร์ AMG SPEEDSHIFT MCT 9 สปีดไปสู่ท้องถนน เพื่อให้ได้สมรรถนะตรงตามความต้องการ

Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ คืออสุรกายในคราบซีดานสปอร์ตพันธ์หรู ที่สามารถชนะใจเหล่าคณะกรรมการ จนสามารถคว้ารางวัล BEST SPORT SEDAN ไปครองได้อย่างสมศักดิ์ศรี

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ COUPE
BEST SPORT COUPE

เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอันบริสุทธิ์ ประสิทธิภาพการขับขี่พลศาสตร์ยานยนต์ขนานแท้ด้วยดีเอ็นเอ AMG ที่สืบต่อมายาวนาน Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupe ไม่ได้ถูกพัฒนาแค่ในด้านของสมรรถนะและความรู้สึกแบบสปอร์ตเท่านั้น แต่มันเป็นรถที่เกิดขึ้นจากความคิดที่ต้องการเป็นผู้นำ ซึ่งมักจะนำหน้าไปหนึ่งก้าวเสมอ ด้วยเทคโนโลยีในรูปแบบที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนได้ และเพื่อให้เป็นรถยนต์ที่มีความพิเศษสำหรับบุคคลสุดพิเศษเช่นคุณ

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ COUPE นำเสนอศิลปะแห่งการแสดงสมรรถนะบนพื้นถนน สเกิร์ตหน้า AMG รวมถึงกระจังหน้าหม้อน้ำอันโดดเด่นตามแบบเฉพาะของ AMG พร้อมครีบรังผึ้งคู่ ทำให้ภาพลักษณ์ของรถยนต์คันนี้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้นกว่าที่คุณเคยรู้จัก ล้ออัลลอย AMG แบบห้าก้านคู่ สีดำมันวาว ขนาด 20 นิ้ว ที่เหมาะสมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำหน้าที่ถ่ายทอดความสุขจากเหล่าวิศวกรของ AMG ไปยังพื้นลาดยาง

แนวคิดระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ สามารถเห็นได้จากป้าย “Turbo 4MATIC+” ที่บริเวณบังโคลน พร้อมสัมผัสประสบการณ์ทางเสียงแบบพิเศษจากระบบไอเสีย AMG Performance แบบเปิด-ปิด ได้ (สามารถเลือกติดตั้งได้) ที่จะทำให้หูและดวงตาของคุณพึงพอใจที่ได้สัมผัส

ได้รับการออกแบบให้สะท้อนสมรรถนะที่เหนือกว่าผ่านรูปลักษณ์แบบคูเป้และลายเส้นด้านข้างที่ดูทรงพลัง ฝากระโปรงและช่องพาวเวอร์โดมพร้อมตกแต่งกระจกมองข้างและขอบบานกระจกด้วยสีดำที่่ช่วยเสริมความสปอร์ตขึ้นไปอีกขั้น ท่อไอเสียแบบ AMG Sport exhaust system ปลายท่อไอเสียคู่แบบ 2 round twin tailpipelook สปอยเลอร์ด้านหลังบนฝากระโปรงท้ายแบบ AMG Spoiler lip ปลาย สปอยเลอร์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยเสริมคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์

มาพร้อมกับการตกแต่งห้องโดยสารด้วยวัสดุ Metal-weave และ Black piano เบาะที่นั่งหุ้มของเอเอ็มจีและตราสัญลักษณ์เอเอ็มจี รวมถึงเพลิดเพลินกับระบบมัลติมีเดีย อย่างหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ Digital widescreencockpit ระบบ MB Audio 20 พร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ 12.3

ขุมพลังที่พร้อมพาคุณโลดแล่นไปกับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 4.4 วินาที ซึ่งก็คงเพียงพอที่จะทำให้ชีวิตคุณมีความสุขไปกับทุกการขับขี่ที่ยากจะหาได้จากรถยนต์อื่นๆ ทั่วไป

Mercedes-AMG C 63 S Coupe
BEST SUPER CAR

ถ้าคุณอยากสัมผัสความเป็นที่สุดของสมรรถนะที่พร้อมจะสร้างความเร้าใจให้คุณได้ในทุกเสี้ยววินาทีในการขับขี่ Mercedes-AMG C 63 S Coupe ก็จะเป็นคำตอบสุดท้ายที่คุณต้องการ

ดีไซน์ภายนอกได้รับการออกแบบให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้า AMG specific radiator grille แบบด้านฝากระโปรงหน้าที่ปรับแต่งด้วยเส้นสายใหม่ให้สวยงามกว่าเดิม โครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ยกตัวขึ้นจากฝากระโปรงหน้าที่ได้รับการออกแบบให้ช่วยควบคุมการไหลเวียนของลมที่ปะทะด้านหน้าของตัวรถให้ดียิ่งขึ้น สเกิร์ตข้างที่ดีไซน์ให้เข้ากับล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว น้ำหนักเบา จาก AMG

ฝากระโปรงหลังยังมาพร้อมกับปีกแบบ AMG ซึ่งมีโครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ดูสะดุดตา รวมถึงดิฟฟิวเซอร์สไตล์ใหม่ ที่ช่วยพัฒนาการไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถ

ปลุกเร้าความรู้สึกตั้งแต่แรกเห็นกับภายในห้องโดยสาร ที่มาพร้อมชุดเบาะที่นั่ง AMG Performance seats ซึ่งห่อหุ้มด้วยหนังแท้คุณภาพสูง พร้อมกับระบบการอุ่นเบาะที่ปรับได้ 3 ระดับเสริมทั้งพนักพิงหลัง และปีกทั้ง 2 ข้าง เพื่อปกป้องด้านข้างของผู้ขับขี่ขณะขับรถด้วยความเร็วสูงได้ดียิ่งขึ้น ส่วนพนักพิงศีรษะที่ออกแบบเป็นพิเศษ ก็ช่วยเพิ่มความรู้สึกสปอร์ตให้ยิ่งดูเหนือชั้นเพิ่มขึ้นไปอีก

หัวใจหลักกับขุมพลังที่ให้สมรรถนะแบบสุดขั้วจนยากที่ใครจะตามทัน ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี8 Bi-turbo พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ที่ให้กำลังสูงถึง 510 แรงม้า แรงบิดมหาศาลถึง 700 นิวตันเมตร ที่พร้อมจะกระชากวิญญาณและความรู้สึกในการขับขี่ของคุณให้โลดแล่นไปข้างหน้าแบบผู้นำที่ชื่นชอบในความสำเร็จที่ยากจะมีใครตามได้ทัน

ถ้าใครก็ตามที่ได้สัมผัสกับประสบการณ์ในการขับขี่ Mercedes-AMG C 63 S Coupe ก็จะเข้าใจความรู้สึกของเหล่าคณะกรรมการอันทรงเกียรติได้ทันที ว่าทำไมถึงได้เทคะแนนอย่างท่วมท้นกับรถคันนี้ ในการคว้ารางวัล BEST SUPER CAR ประจำปีนี้ไปอย่างสวยงาม

Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe
BEST SUV UNDER 3,000 c.c. PETROL

บัญญัติใหม่แห่งยนตรกรรมอเนกประสงค์สายพันธ์สปอร์ต เติมเต็มความเร้าใจกับรูปลักษณ์ดีไซน์สไตล์คูเป้ พร้อมสะกดทุกสายตา บ่งบอกเอกลักษณ์ด้วยชุดแต่ง AMG Bodystyling รอบคัน กระจังหน้าตกแต่งแบบ AMG-specific radiator grille ถ่ายทอดความสปอร์ตดุดันแบบฉบับ AMG ผสานดีไซน์แบบ jet-wing และ AMG diffuser สีดำ ใต้กันชนหลัง เพิ่มประสิทธิภาพพร้อมความดุดัน

เสริมลุคสปอร์ตกับ AMG spoiler-lip สีเดียวกับรถ ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวทุกรายละเอียด สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างด้วย AMG Performance exhaust system ท่อไอเสียคู่แบบ tailpipe trim element ถ่ายทอดจิตวิญญาณนักแข่งที่แท้จริง ยกระดับรูปลักษณ์ให้สปอร์ตขีดสุด พร้อมให้เสียงคํารามเร้าใจ ซึ่งจะต่างกันตามโหมดการขับขี่ แด่ผู้หลงใหลยนตรกรรมอเนกประสงค์ หัวใจสปอร์ต

รูปทรงที่บ่งบอกความเป็นสปอร์ตที่งามสง่า โดยมีความอเนกประสงค์ในการใช้งานเป็นจุดเด่น นับเป็นความลงตัวสำหรับผู้บริหารแถวหน้ารุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในการขับขี่รถยนต์สมรรถนะสูง ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย และไม่ชอบมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิต

การออกแบบภายในห้องโดยสารอัดแน่นด้วยเหล่าวัสดุชั้นดี การจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงปุ่มสั่งงานระบบต่างๆ อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม การใช้งานสะดวกและไม่ทำให้เสียสมาธิ หรือจังหวะในการขับขี่ในยามที่ต้องใช้งาน ส่วนความกว้างขวางที่ให้มา ก็น่าจะตอบโจทย์พ่อบ้านที่รักครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ความสนุกจะเกิดขึ้นทุกครั้ง เมื่อคุณได้ปลดปล่อยพลังอันมหาศาลจากเครื่องยนต์เบนซิน วี6 ขนาด 3.0 ลิตร ที่มาพร้อมกับชุดเทอร์โบคู่ (Bi-Turbo) และอินเตอร์คูลเลอร์ใบใหญ่ ที่สร้างพละกำลังได้สูงถึง 390 แรงม้า แรงบิด
520 นิวตันเมตร

ระบบช่วงล่างแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ มาพร้อมระบบรองรับแบบถุงลม ที่สามารถเลือกปรับความนุ่มนวล และการตอบสนองการทำงานได้ถึง 3 รูปแบบ ตั้งแต่ในแบบ Comfort ที่ให้ความสบายในการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองบนการขับขี่แบบทั่วๆ ไป ส่วนโหมด Sport+ ก็สามารถรองรับการใช้งานในยามที่ต้องการสมรรถนะแบบสูงสุดได้อย่างมั่นใจ

บทสรุปของรางวัล BEST SUV UNDER 3,000 c.c. PETROL จึงเป็นของ Mercedes-AMG GLC 43
4MATIC Coupe อย่างเป็นเอกฉันท์ ด้วยคุณสมบัติโดยรวมที่มีนั่นเอง

Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic
BEST SUV UNDER 2,000 c.c. DIESEL

Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic ถ่ายทอดความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ที่มาพร้อมแนวคิดในการออกแบบที่ประสานบุคลิกที่แข็งแกร่งด้วยเส้นสายที่พลิ้วไหว ก่อให้เกิดเป็นความงดงามที่สะกดทุกสายตา ถ่ายทอดถึงความเป็นเพื่อนร่วมทางที่วางใจได้ ในการนำคุณสู่ทุกจุดหมายปลายทางได้อย่างประทับใจ

ความน่าตื่นตาตื่นใจไปกับรูปลักษณ์อันแข็งแกร่ง ที่มอบความรู้สึกสุนทรีย์ในเวลาเดียวกัน และนอกเหนือจากนี้ GLC ใน AMG Line ยังมีดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้น ด้วยกันชนที่กว้างขึ้น ปลอกท่อไอเสียที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับดีไซน์ การออกแบบล้อที่ให้ความรู้สึกถึงพละกำลัง และไฟท้าย LED ที่ส่องสว่างไม่เหมือนใคร

พลิกโฉมการสั่งการรถยนต์ในแบบเดิมๆ ไปกับ MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ที่ให้คุณสั่งการรถยนต์ได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย ผ่านการสัมผัสและการพูด พร้อมหน้าจอแสดงผลดิจิทัลแบบใหม่ อุปกรณ์ควบคุมระบบสัมผัสและระบบสั่งการด้วยเสียง โดยระบบจะเรียนรู้และพัฒนาเพื่อตอบสนองคุณให้ดีที่สุด

การออกแบบภายในห้องโดยสาร ให้ความความรู้สึกอบอุ่นและให้บรรยากาศของความปลอดภัยสำหรับทุกการเดินทาง การดีไซน์ปุ่มควบคุมต่างๆ เน้นเป็นโครเมียมสีเงินและสีเมทัลลิกชวนสัมผัส ส่วนวัสดุอื่นๆ ที่นำมาใช้ อย่างเช่น หนังหุ้มเบาะก็ล้วนแล้วแต่มีคุณภาพสูง และให้ความรู้สึกที่ดีในการสัมผัส

ความประทับใจยังเกิดขึ้นในอีกหลายจุดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในทันที เช่น พื้นที่ส่วนหัวเข่าและการวางเท้าที่กว้างขวาง จนทำให้เกิดความรื่นรมย์กับทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะนั่งอยู่ในตำแหน่งใด และพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระที่กว้างขวาง ซึ่งนั่นหมายถึงทางเลือกที่เปิดกว้างสำหรับการเดินทางที่ยาวไกลขึ้นด้วย

จุดเด่นของเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รุ่นใหม่ล่าสุด จากทีมวิศวกรของ Mercedes-Benz ที่สามารถบรรลุถึงผลสำเร็จได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับความคล่องแคล่ว ความราบรื่นในการทำงานและความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นเยี่ยม

ด้วยคุณสมบัติต่างๆ ที่โดดเด่นมากมาย จึงทำให้ Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic สามารถทำคะแนนได้สูงจนสามารถครองตำแหน่ง BEST SUV UNDER 2,000 c.c. DIESEL ประจำปีนี้ไปได้อย่างสวยงาม