Mercedes-Benz CLA Coupe รวมทั้ง CLA Shooting Brake ได้รับการปรับโฉมเพิ่มความสดให้กับรถทั้งด้านรูปลักษณ์ ขุมกำลังในส่วนของรุ่นปลั๊กอินไฮบริด รวมไปถึงเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานให้กับรถ

ภายนอกของ Mercedes-Benz CLA ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้ง Coupe และ Shooting Brake มาพร้อมกับด้านหน้าใหม่ที่มีความเฉียบคมขึ้น มีการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่เป็นลาย Star Pattern ขณะที่ด้านหลังของรถก็มาพร้อมกับ Diffuser ใหม่ที่มีความสปอร์ตมากขึ้นที่กันชนหลัง นอกจากนี้รถรุ่นใหม่ทั้ง 2 ตัวถังยังมีไฟหน้า LED High Performance เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมเพิ่มสีฟ้า Hyper Blue ใหม่ซึ่งเป็นสีเฉพาะสำหรับ CLAเท่านั้นเข้ามาให้เลือก ในขณะที่ล้ออัลลอยมาตรฐานมาพร้อมกับรถเป็นลาย 5 ก้านขนาด 17 นิ้วสีเงินหรือสีดำเงา  แต่หากยังไม่พอใจก็มีล้อขนาด 19 นิ้วอีก 3 ลายเป็นออฟชันให้เลือก

ห้องโดยสารของรถรุ่นใหม่ถูกระบุว่าเน้นภาพลักษณ์ที่ดูไฮเทคพร้อมกับเพิ่มสีและการแต่งใหม่เข้ามา โดยจอลอยตัวเหนือแผงแดชบอร์ดที่ยาวต่อเนื่องกัน 2  จอซึ่งมีขนาด 7 นิ้วและ 10.25 นิ้วสามารถเลือกเป็นจอ 10.25 นิ้วทั้ง 2 จอได้ ในขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสารยังมีพวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa ส่วนเบาะหุ้มด้วยหนัง Artico ร่วมกับผ้าสีดำ สำหรับการแต่งในห้องโดยสารมีการแต่งใหม่ที่เน้นสไตล์คาร์บอนสีเข้ม แผงไม้สีน้ำตาลที่เผยโชว์ให้เห็นลายไม้ หรือไมโครไฟเบอร์ Microcut สีน้ำตาล อย่างไรก็ตามผู้ซื้อสามารถเลือกออฟชันเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องโดยสารได้ทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง Artico หรือเบาะหนัง Artico ร่วมกับ Microcut  โดยทางค่ายดาวสามแฉกระบุว่าผ้าที่ใช้กับเบาะซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาจากการรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เบาะหนัง Artico/Microcut มีการใช้วัสดุรีไซเคิล ในปริมาณที่มากกว่า 65 เปอร์เซ็นต์

อีกสิ่งใหม่ในห้องโดยสารของ CLAรุ่นปรับโฉมคือระบบ MBUX  เจเนเรชันล่าสุดที่มีการแสดงหน้าจอใหม่กับ 3  รูปแบบการแสดงข้อมูลให้เลือกใช้ รวมไปถึงมีการปรับการเชื่อมต่อใหม่ซึ่งรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย นอกจากนี้ยังมีระบบ High Beam Assist, กล้องมองหลัง และ Package USB เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจึงทำให้มีช่องต่อ USB-C ที่รองรับการชาร์จไฟผ่าน USB ได้เพิ่มขึ้น

ด้านการขับเคลื่อนของรถที่มีให้เลือกหลากหลายรุ่นทั้งด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริดจะได้รับการอัพเดตในส่วนของรุ่นปลั๊กอินไฮบริดCLA 250 e โดยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร 163 แรงม้ามีกำลังเพิ่มขึ้น 7 แรงม้าเป็น 109 แรงม้า ทำให้มีกำลังขับเคลื่อนรวมจากระบบไฮบริด 218 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ขณะที่แบตเตอรี 15.6 kWh ของรถก็รองรับการชาร์จไฟได้ถึง 11 kW

หากต้องการรุ่นสมรรถนะสูงรถรุ่นใหม่ยังคงมีทางเลือกจาก Mercedes-AMG ด้วยรุ่นCLA 35 4Matic ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบกำลัง 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร และCLA 45 S 4Matic+ ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังขับเคลื่อน 421 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร โดยทั้ง 2 รุ่นใช้เกียร์ AMG Speedshift DCT 8 สปีดส่งกำลังสู่ทุกล้อของรถเหมือนกัน

อย่างไรก็ตามทาง Mercedes-Benzยังไม่เปิดเผยราคาและช่วงเวลาที่จะขายรถออกมา

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th