Mercedes-Benz CLE Cabriolet เตรียมเปิดหลังคารับอากาศฤดูใบไม้ผลิ
กลางปี 2023 ที่ Mercedes-Benz เผยโฉม CLE Coupe ออกมา ได้มีภาพของ CLE Cabriolet ออกมาให้ดูด้วย โดยระบุว่ารถจะเริ่มขายในปี 2024 นี้ ซึ่งตอนนี้ทางค่ายดาวสามแฉกได้เปิดเผยข้อมูลของรถรุ่นเปิดประทุนออกมาแล้วเพื่อเตรียมทำตลาดรับอากาศฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้
Mercedes-Benz CLE Cabriolet มาพร้อมกับหลังคาอ่อนแบบผ้าซึ่งมีให้เลือก 3 สีคือสีดำ สีแดง และสีเทา สามารถเปิด-ปิดหลังคาได้โดยใช้เวลาไม่เกิน 20 วินาทีในขณะขับที่ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. ซึ่งการเปิด-ปิดหลังคาทำงานด้วยไฟฟ้าพร้อมกับมี Power Roller Devider เพื่อแยกพับเก็บหลังคาจากพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังอัตโนมัติ จึงทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีความจุ 295 ลิตรเมื่อเก็บหลังคาจากที่ปกติมีความจุ 385 ลิตร
นอกจากนี้เพื่อให้ความสบายเมื่อขับรถเปิดหลังคา รถเปิดประทุนจากค่ายดาวสามแฉกจึงมาพร้อมกับระบบ Aircap ซึ่งใช้ Wind Deflector เพื่อหักเหทิศทางลมที่ด้านบนของกระจกหน้าเมื่อกดปุ่มเพื่อใช้งาน สำหรับหักเหทิศทางลมออกจากศีรษะของผู้อยู่ในรถ รวมทั้งยัง Wind Deflector ที่พนักพิงศีรษะของเบาะหลังเพื่อลดลมหมุนวนในห้องโดยสาร พร้อมกับมีระบบ Airscarf เพื่อสร้างอากาศอุ่นหมุนวนรอบคอและคางผู้ที่อยู่ในเบาะหน้า
ห้องโดยสารของรถแทบไม่มีความแตกต่างจากรุ่นคูเป้ที่มีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว และจอ Infotainment แนวตั้งขนาด 11.9 นิ้ว ซึ่งสามารถปรับเอียงจอได้ 15-40 องศา เพื่อลดแสงสะท้อนเมื่อเปิดหลังคา รวมทั้งยังมาพร้อมกับแอปพ์ TikTok และ Zoom ให้ใช้ นอกจากนี้รถยังใช้หนัง Nappa และหนังที่สะท้อนแสงเพื่อช่วยลดความร้อนในวันที่แสงแดดแรง ด้วยการเคลือบผิวเพื่อให้มีคุณสมบัติสะท้อนรังสี Near-infrared จากแสงอาทิตย์ ซึ่งทางผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนีระบุว่าช่วยลดอุณหภูมิให้กับหนังได้ถึง 12 องศาขณะกระทบแสงแดดโดยตรงเมื่อเทียบกับหนังทั่วไป โดยหนังที่สะท้อนแสงนี้มีให้เลือกหลากหลายสีรวมทั้งหนังสังเคราะห์สีดำ
ระบบขับเคลื่อนของรถมี 5 ทางเลือกคือ CLE 220d ,CLE 200 ,CLE 200 4Matic ,CLE 300 4Matic และ CLE 450 4Matic โดยรุ่นหลังซึ่งมีกำลังมากที่สุดมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร 381 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 4.7 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม. นอกจากนี้รถทั้งหมดยังมาพร้อมกับระบบไมลด์ไฮบริดในระบบขับเคลื่อน มี Integrated Starter0generator และระบบไฟฟ้า 48-โวลต์ช่วยเพิ่มกำลัง 23 แรงม้า เพิ่มแรงบิด 205 นิวตัน-เมตร
ส่วนราคาของรถในเยอรมนีเริ่มต้นที่ 68,782 ยูโรไปจนถึง 88,375.50 ยูโร
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th