Mercedes-Benz E-Class ปรับโฉมจนใหม่ขึ้นอย่างชัดเจน
เป็นธรรมดาที่หลังการเปิดตัวไปสักระยะทางผู้ผลิตรถยนต์จะทำการปรับโฉมครั้งใหญ่ให้กับรถของตนสักครั้งเพื่อสร้างความสดใหม่สำหรับการทำตลาดนอกเหนือไปจากการปรับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละรุ่นปีต่างๆ และก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาแล้วว่าทาง Mercedes-Benz จะปรับโฉมให้กับ E-Class ซึ่งเดิมจะมีการเปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ แต่ถึงแม้งานจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่การเปิดตัว E-Class รุ่นปรับโฉมใหม่ก็ยังมีอยู่ ซึ่งหลังเผยโฉมออกมาก็ไม่ทำให้บรรดาแฟนรถหรูขนาดกลางของค่ายดาว 3 แฉกต้องผิดหวังเพราะมีการออกแบบทั้งด้านหน้าและด้านหลังใหม่จนแตกต่างกับรุ่นก่อนปรับโฉมอย่างชัดเจน เรียกว่าไม่ต้องเป็นแฟนพันธุ์แท้ก็สามารถบอกถึงความแตกต่างได้
Mercedes-Benz E-Class รุ่นปรับโฉมที่ถูกเปิดตัวออกมาก่อน 2 ตัวถังคือ Saloon หรือซีดาน และ Estate หรือแวกอน มาพร้อมกับความแตกต่างกับรุ่นก่อนอย่างชัดเจนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยที่ด้านหน้าของรถมีการออกแบบทั้งไฟหน้า กระจังหน้า รวมทั้งกันชนใหม่ โดยไฟหน้าซึ่งมีไฟ Full LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาในรูปทรงที่คล้ายกับ CLS ในขณะที่กระจังหน้าของรถไม่เพียงมีความกว้างขึ้นกว่าเดินเท่านั้นยังมาในรูปทรงใหม่ด้วยโดยที่มีทั้งแบบ 3 แถบคู่เส้นแนวนอนในสไตล์หรูพร้อมสัญลักษณ์ดาว 3 แฉกเหนือฝากระโปรง และกระจังหน้าสปอร์ตแบบมีแถบกลางแถบเดียวและสัญลักษณ์ดาว 3 แฉกตรงกลางขึ้นอยู่กับรูปแบบการแต่ง
ส่วนด้านหลังของรถมีการออกแบบใหม่เช่นเดียวกับด้านหน้าทั้งในส่วนของไฟท้ายและกันชนหลัง ซึ่งในส่วนของไฟท้ายที่มีลักษณะยาวในแนวนอนเป็นอีกจุดของ E-Class ใหม่ที่ดูเหมือนได้รับอิทธิพลมาจากไฟท้ายของ CLS นอกจากนี้ทาง Mercedes-Benz ยังระบุว่า E-Class ใหม่มาพร้อมกับ 3 สีใหม่รวมทั้งล้อใหม่ให้เลือก
ภายในของ E-Class ใหม่มาพร้อมกับระบบ Infotainment ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นล่าสุดของ MBUX โดยที่มีจอ 10.25 นิ้ว 2 จอสำหรับแสดงข้อมูลการขับและระบบ Infotainment ที่ถูกออกแบบให้ยาวต่อเนื่องตามสไตล์รถจากค่ายดาว 3 แฉกรุ่นใหม่ๆ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ก็สามารถเลือกเปลี่ยนเป็นจอคู่ขนาด 12.3 นิ้วแทนได้ โดยที่ไม่ว่าจอขนาดใดก็สามารถเข้าถึงการปรับตั้งและควบคุมการทำงานต่างๆ ได้แบบทัชสกรีน รวมไปปถึงมีการควบคุมบนทัชแพดที่คอนโซลกลาง การสั่งงานด้วยเสียง และท่าทางของมือ
นอกจากนี้รถขนาดกลางรุ่นใหม่จาก Mercedes-Benz ยังมาพร้อมกับเบาะ Energizing Seat Kinetic ที่มีการปรับเบาะตามการขยับตัวเพื่อให้มีการเดินทางที่สบายมากขึ้นไปพร้อมกับ Energizing Comfort Control สำหรับเพลง การปรับแสง และการทำงานนวด โดยในรุ่นปลั๊กอินไฮบริดจะมาพร้อมกับโปรแกรม PowerNap ซึ่งเลือกได้ 3 แบบสำหรับใช้ในขณะพักจากการขับรถบนพื้นที่สำหรับพักรถหรือเมื่อชาร์จแบตเตอรีระหว่างทาง
พวงมาลัยภายในห้องโดยสารของ E-Class คืออีกส่วนที่ได้รับการออกแบบใหม่โดยที่มี 2 พื้นที่สำหรับควบคุมการทำงานบนก้านทั้ง 2 ฝั่งของพวงมาลัย พร้อมกับที่มีพวงมาลัย 3 แบบให้เลือกระหว่างแบบหุ้มหน้งทั้งหมด หุ้มหนังและไม้ และแบบ Supersport หรือมีด้านล่างแบน นอกจากนี้แน่นอนว่ารถหรูขนาดกลางจาก Mercedes-Benzใช้วัสดุต่างๆ ที่ให้ทั้งความหรูและสัมผัสที่ดีไม่ว่าจะเป็น Artico และหนัง Nappa กับทั้งเบาะ ประตู และพื้นผิวต่างๆ ที่ผู้อยู่ในรถสัมผัส
Mercedes-Benz ระบุว่า E-Class มีทางเลือกของการขับเคลื่อนในแบบปลั๊กอินไฮบริดไม่น้อยกว่า 7 แบบโดยที่มีทั้ง Saloon หรือ Estate, ขับเคลื่อนล้อหลังหรือล้อหน้า และเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล ซึ่งในเครื่องยนต์เบนซินจะมีกำลังตั้งแต่ 156-367 แรงม้า และกำลัง 160-330 แรงม้ากับเครื่องยนต์ดีเซล รวมทั้งยังมีเครื่องยนต์เบนซินใหม่ M254 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบชาร์จซึ่งทำงานร่วมกับ ISG หรือ Integrated Starter-Generator และระบบไฟฟ้า 48-โวลต์ของรถที่ช่วยเพิ่มกำลังได้ 20 แรงม้า เพิ่มแรงบิดได้ 180 นิวตัน-เมตร และอีกเครื่องยนต์เบนซินใหม่ที่ถูกนำมาใช้กับ E-Class ใหม่คือ M256 6 สูบ 3,000 ซีซี ซึ่งแน่นอนว่ามาพร้อมกับระบบ ISG ส่วนการส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์ 9G-Tronic ซึ่งถูกปรับให้เข้ากับ ISG เจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่ใช้ใน E-Class ใหม่มากที่สุด
ทาง Mercedes-Benz จะเริ่มส่งรถไปตามดีลเลอร์ในช่วงกลางปีนี้ แล้วตามด้วยการเปิดตัวรุ่นฐานล้อยาวสำหรับจีน ในขณะที่การปรับโฉมให้กับตัวถังคูเป้และเปิดประทุนจะตามมาภายหลัง
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th