ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาค่ายดาวสามแฉกรุกตลาดเอสยูวีหรูอย่างหนัก เพราะไม่นานหลังเปิตตัว EQC เอสยูวีใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงาน โฉมใหม่ของเอสยูวีขนาดกลาง GLE ก็ถูกเปิดตัวออกมา อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นการเปลี่ยนโฉมซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ห้าของเอสยูวีรุ่นนี้จาก Mercedes-Benz แต่อาจทำให้บางคนรู้สึกแปลกใจและมองด้วยความสงสัยว่า ใช่การเปลี่ยนโฉมแน่หรือ ด้วยความที่ GLE ใหม่อาจจะดูไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมมากนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมุมมองด้านข้างของรถที่ยังคงเอกลักษณ์ของเสา C ที่กว้างเอาไว้ แต่เมื่อดูให้ดีจะพบถึงรายละเอียดต่างๆ ภายนอกที่แสดงความเตกต่างจากรุ่นเดิมรวมทั้งยังทำให้เอสยูวีขนาดกลางรุ่นนี้ดูหนุ่มขึ้นว่ารุ่นเดิมด้วย จากกระจังหน้าทรง 8 เหลี่ยมที่ตั้งตรงขึ้นพร้อมไฟหน้า Multibeam LED ที่ให้ความสว่างสูงสุดภายในข้อกำหนดของกฏหมายที่ถูกออกแบบเพื่อความสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน ขณะที่ด้านหลังของรถถูกออกแบบให้ดูสปอร์ตขึ้นจากทั้งไฟท้ายที่เรียวขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าและสปอยเลอร์ด้านบน นอกจากนี้ GLE ใหม่ยังดูบึกบึนขึ้นจากทั้งเส้นบนฝากระโปรงหน้าและพื้นที่ด้านข้างรถตั้งแต่เสา C จนถึงไฟท้ายที่ดูเหมือนมัดกล้าม

อีกสิ่งที่ยืนยันได้ถึงความแตกต่างจากรุ่นเดิมของ GLE เจนเนอเรชั่นที่ห้าคือ ระยะฐานล้อที่มีความยาว 2,995 มม. ซึ่งยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิม 80 มม. และส่งผลต่อความสบายในการเดินทางของผู้ที่นั่งในเบาะหลังโดยตรงเพราะเป็นการเพิ่มพื้นที่ช่วงขาของเบาะหลังขึ้นอีก 69 มม. เป็น 1,045 มม. ขณะที่ความสูงในพื้นที่ส่วนหัวของเบาะหลังก็เพิ่มขึ้นอีก 33 มม. เป็น 1,025 มม. ส่วนพื้นที่เบาะหน้ามีความกว้างและสบายในการเดินทางมากขึ้นด้วยการออกแบบเสา A ให้ตั้งตรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ในส่วนของพื้นที่เก็บของด้านหลังของ GLE ใหม่มีความจุ 825 ลิตรและสามารถเพิ่มความจุได้ถึง 2,055 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง โดยที่ให้ความสะดวกมากขึ้นในการเคลื่อนย้ายสิ่งของขนาดใหญ่จากความกว้างของพื้นที่เก็บของที่กว้างขึ้น 72 มม. รวมไปถึงด้วยระบบช่วงล่าง Airmatic ที่สามารถลดความสูงท้ายลดลง 40 มม. ได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่มจึงทำให้เก็บและหยิบสิ่งของด้านหลังได้ง่ายขึ้น

นอกจากความกว้างขึ้นของห้องโดยสารด้านหลังแล้ว GLE ยังเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกที่สามารถปรับเบาะนั่งแถวที่สองได้แยกจากกันระหว่างเบาะขวาและซ้าย โดยที่สามารถปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ 100 มม. พร้อมกับปรับความเอียงของเบาะด้วยแผงด้านข้างประตูนอกเหนือไปจากการพับเบาะได้ 40:20:40 สำหรับการเพิ่มพื้นที่เก็บของ ขณะที่ระบบมัลติมีเดียในเอสยูวีขนาดกลางรุ่นใหม่เป็น MBUX รุ่นล่าสุดเหมือนที่ใช้ใน A-Class ใหม่โดยใช้จอขนาด 12.3 นิ้วคู่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับแสดงข้อมูล และความบันเทิง โดยที่สามารถเลือกรูปแบบการแสดงข้อมูลบนหน้าจอได้ 4 แบบตามความชอบของผู้ขับหรือแนวทางการตกแต่งภายในของรถ

GLE ที่จะถูกส่งทำตลาดรุ่นแรกคือรุ่น 450 4Matic ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 6 สูบพร้อมเทคโนโลยี 48-Volt  367 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร โดยมี EQ Boost ที่ช่วยเพิ่มแรงบิดได้อีก 250 นิวตันเมตรและกำลัง 22 แรงม้าในช่วยเวลาสั้นๆ ส่วนการส่งกำลังสู่ล้อทั้งสี่เป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic โดยใช้ระบบช่วงล่าง E-Active Body Control ที่ปรับควบคุมสปริงและโช๊กแต่ละล้ออิสระแยกจากกันสำหรับลดการโคลงของรถรวมไปถึงเมื่อขึ้นหรือลงทางลาดชัน พร้อมกับมีหลากหลายระบบช่วยในการขับเช่น Active Distance Assist Distronic ที่ใช้การตรวจจับท้ายรถหรือการจราจรเมื่อรถเคลื่อนที่ช้าสำหรับการเตือนผู้ขับรวมไปถึงลดความเร็วและเบรกอัตโนมัติ ระบบ Active Stop-and-Go Assist สำหรับช่วยลดภาระของผู้ขับในการรักษาเลนและระยะห่างจากรถคันหน้า

ทาง Mercedes-Benz ระบุว่า GLE จะเริ่มทำตลาดในช่วงต้นปี 2019 และจะมีรุ่นปลั๊กอินไฮบริดตามออกมาภายหลัง

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th