Mercedes-Benz GLS รุ่นใหม่ที่ใหญ่ สบาย และหรูขึ้น
ด้วยรหัส S ซึ่งทาง Mercedes-Benz ใช้กับรถรุ่นใหญ่และหรูสุดของตน จึงหมายความว่ารถเอสยูวีในชื่อ GLS มีความหรูและให้ความสบายในการเดินทางระดับเดียวกับ S-Class และเมื่อค่ายดาว 3 แฉกเปิดตัว GLS รุ่นใหม่ออกมาก็ได้ระบุว่ามาพร้อมกับพื้นที่ภายในมากขึ้น มีความสะดวกสบายขึ้น รวมทั้งมีความหรูหรามากขึ้น โดยเฉพาะคุณสมบัติในข้อหลังที่ทางผู้ผลิตเน้นว่าเป็นความหรูหราสมัยใหม่ทั้งบนถนนและเส้นทางออฟโรด ซึ่งเป็นข้อความที่สื่อสารมาจากการออกแบบรถเอสยูวีฟูลไซส์รุ่นใหม่นี้
Mercedes-Benz GLS ใหม่มาในขนาดของตัวรถที่ขยายขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าทุกด้านโดยมีความกว้างเพิ่มขึ้น 22 มม. จากขนาด 1,956 มม. ยาวขึ้น 77 มม. จากตัวเลข 5,270 มม. และที่สำคัญคือระยะฐานล้อของรถที่ยาว 3,135 มม. ซึ่งมีความยาวกว่ารุ่นก่อนหน้า 60 มม. ทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารโดยเฉพาะที่เบาะแถวที่ 2 มากขึ้น ส่วนพื้นที่เก็บของจะมีความจุถึง 2,400 ลิตรเมื่อพับเบาะแถบที่ 3 ลง ส่วนภายนอกของรถที่ด้านหน้าถูกออกแบบเพื่อแสดงถึงคุณสมบัติของรถออกมาจากทั้งกระจังหน้า 6 เหลี่ยมตั้งตรงที่แสดงความเป็นรถเอสยูวี แผ่นกันกระแทกโครมเมียมใต้กันชนพร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ รวมทั้งไฟหน้า Multibeam LED ซึ่งถูกออกแบบสำหรับใช้งานทั้งในตอนกลางวันและกลางคืนเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อให้ความสว่างสูงสุดภายใต้ข้อบังคับของกฏหมาย โดยทั้งไฟ Daytime Running Light และไฟ LED 3 ส่วนจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นรถเอสยูวี S-Class ด้านข้างรถตั้งแต่ประตูหลังจะแสดงถึงกล้ามเนื้อที่ทรงพลังไปถึงด้านหลังซึ่งเป็นไฟท้ายแบบ 2 ส่วนที่ใช้เทคโนโลยี LED ที่มีความสว่างสูงและได้รับการออกแบบให้เป็น 3 มิติ นอกจากนี้อีกสิ่งที่สำคัญในการออกแบบ GLS ก็คือแม้จะเป็นรถเอสยูวี แต่ก็มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.32 Cd ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำเมื่อเทียบกับการเป็นรถเอสยูวีขนาดใหญ่
ภายในของ GLS ซึ่งมาพร้อมเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่งซึ่งสามารถปรับไฟฟ้าได้ทั้งหมด โดยสามารถเพิ่มความหรูและความสบายที่มากขึ้นในขณะเดินทางได้ด้วยการเปลี่ยนเป็นแบบ 6 ที่นั่ง โดยที่เบาะแถวที่ 2 เป็นแบบเบาะแยกที่มีความหรูหราเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังให้ความรูสึกสบายในห้องโดยสารด้วยระบบปรับอากาศ 5 โซนอัตโนมัติ และนอกจากจอแสดงข้อมูลสำหรับผู้ขับรวมทั้งจอ Infotainment สำหรับระบบ MBUX ขนาด 12.3 นิ้วที่วางเรียงติดกันเหมือนรถรุ่นใหม่ๆ จาก Mercedes-Benz แล้ว GLS ยังมาพร้อมกับ MBUX Display Rear Seat Entertainment ซึ่งใช้จอ 11.6 นิ้ว 2 จอสำหรับความบันเทิงที่ด้านหลัง โดยที่มี Rear Comfort package Plus ซึ่งจะมาพร้อมกับแท็บเล็ตแอนดรอยด์ 7 นิ้วสำหรับควบคุมการทำงาน MBUX จากเบาะหลังเป็นทางเลือกเสริม
ทาง Mercedes-Benz ระบุว่าจะมีขุมกำลังให้เลือกใช้กับรถเอสยูวีหรูฟูลไซส์ของตนหลายทางเลือกทั้งเครื่องยนต์ 8 สูบและ 6 สูบ โดย GLS 580 4Matic จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V8 พร้อมกับการทำงานของระบบไฟฟ้า 48-Volt รุ่นใหม่ กำลัง 489 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตรที่สามารถเพิ่มแรงบิดได้ 250 นิวตัน-เมตร และ 22 แรงม้าในระยะเวลาสั้นๆ ด้วย EQ Boost ขณะที่รุ่น GLS 450 4Matic มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 367 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลจะมีทางเลือกกับรุ่น GLS 350d 4Matic และ 400d 4Matic ซึ่งทุกรุ่นใช้เกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic ช่วยในการส่งกำลัง และมีระบบ Active Distance Assist Distronic และ Active Stop-and-Go Assist ช่วยในด้านความปลอดภัย โดยที่มีระบบช่วงล่าง Airmatic และระบบ Adaptive Damping System Plus เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อให้ความสบายในขณะเดินทางบนเส้นทางต่างๆ
Mercedes-Benz GLS จะถูกผลิตที่โรงงานใน Tuscaloosa สหรัฐอเมริกา ดังนั้นจึงจะเริ่มจำหน่ายทั้งที่สหรัฐอเมริกาและยุโรปพร้อมกันในช่วงปลายปีนี้
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th