MERCEDES BENZ Maybach S-Class ซีดานหรูที่ V.I.P.และหน่วยงานหลายประเทศเลือกใช้
เป็นกระแสในสื่อหลายออนไลน์ เกี่ยวกับการพบเห็นบุคคลระดับ V.I.P. ที่อยู่ในยานพาหนะ MERCEDES BENZ Maybach ในต่างประเทศ หลายคนสนใจเรื่องของรถ แต่จำนวนไม่น้อยก็สนใจเรื่องของคน ความพิเศษมันจะอยู่ที่ว่าทำไมต้องเป็นรถรุ่นนี้ที่ถูกนำมาใช้ มันน่าสนใจอย่างไร…
นับตั้งแต่ Maybach-Motorenbau GmbH ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกออกมาในปี 1921 มันก็กลายเป็นรถยนต์นั่ง 4 ประตู ที่หลายคนสนใจ และแน่นอนด้วยคุณสมบัติของรถ มันจึงเหมาะสำหรับการใช้งานของบุคคลระดับ V.I.P. อีกทั้งผู้คนที่หลงใหล สมรรถนะ ความงดงาม ความประณีต พิถีพิถัน (Maybach Motorenbau ) เป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันที่หมดอายุในทุกวันนี้ในฐานะแบรนด์ย่อยของ Mercedes-Benz บริษัท ก่อตั้งขึ้นในปี 2452 โดยวิลเฮล์มมัยบัคและลูกชายของเขา แต่เดิมเป็น บริษัท ในเครือของ Luftschiffbau Zeppelin GmbH และเป็นที่รู้จักในชื่อ Luftfahrzeug-Motorenbau GmbH จนถึงปี 1999)
ในช่วงทศวรรษที่ 1920 และ 1930 รถยนต์ที่ผลิตขึ้นโดย Maybach ได้รับการยกย่องว่าเป็นรถยนต์หรูหรา ที่มีเสน่ห์และคุณค่า อีกทั้งยังมีความทันสมัยที่สุดในด้านของงานวิศวกรรมยานยนต์อย่างแท้จริง ผู้นำประเทศหลายคนที่เสริมสร้างตัวตนให้น่าสนใจขึ้นด้วยตราสัญลักษณ์นี้ซึ่งมีจำนวนการผลิตรวมทั้งสิ้น 1,800 คันในช่วง ระยะเวลาตั้งแต่ปี 1921 ถึง 1941
Maybach อ่านว่า ไมบาค รถยนต์นั่งจากเยอรมัน บริษัทก่อตั้งโดย วิลเฮล์ม มายบัค และลูกชาย คาร์ล มายบัค รถยนต์ของมายบัคมีลักษณะเป็นรถยนต์หรูหราขนาดใหญ่ นอกจากนี้รถยนต์แล้ว มายบัคยังได้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับอากาศยาน ให้แก่เรือเหาะ (Zeppelin) ปัจจุบันเดมเลอร์ เอจีเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าของมายบัค โดยบริษัทตั้งอยู่ที่เมืองสตุตการ์ต เยอรมนี
ในระหว่างช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 มายบัคได้ผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์สำหรับกองทัพเยอรมันเป็นส่วนใหญ่ ที่เป็นที่รู้จักได้แก่ แพนเซอร์ โฟร์ ไทเกอร์ วัน และ รถถังแพนเทอร์ ภายหลังสงคราม บริษัทยังคงได้ผลิตเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับรถไฟ เช่น เครื่อง เยอรมัน วี200 และ บริติชเรล คลาส 52 ที่มีชื่อเสียง
ในปี พ.ศ. 2503 เดมเลอร์-เบนซ์ ได้ซื้อหุ้นส่วนใหญ่บริษัท และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Maybach MERCEDES-BENZ Motorenbau GmbH และในปี พ.ศ. 2512 ได้กลายมาเป็น MTU Friedrichshafen
มายบัคได้กลับมาสร้างรถยนต์หรูหราอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้การดูแลของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยได้เริ่มออกมา 2 รุ่นได้แก่ มายบัค 57 และ มายบัค 62 มีลักษณะเหมือนกันแตกต่างกันตรงความยาวของตัวถังรถ รถมายบัคถือว่าเป็นรถในระดับหรูหรา ซึ่งราคาใกล้เคียงกับรถบริษัทอื่นเช่น เบนลีย์ หรือ โรลส์-รอยซ์ ในปี พ.ศ. 2548 มายบัคได้ออกรถยนต์รุ่น 57S มีลักษณะเป็นรถสปอร์ต โดยมีเครื่องยนต์ 6 ลิตร V12 เทอร์โบคู่ ผลิตแรงม้าได้สูงถึง 604 แรงม้า และ ทอร์กได้สูงถึง 737 ปอนด์/ฟุต
เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2554 MERCEDES-BENZ ได้แถลงว่าจะยุติสายการผลิตรถยนต์มายบัค ในปี พ.ศ. 2556 เนื่องจากมียอดขายน้อยเมื่อเทียบกับโรลส์-รอยซ์ ในปัจจุบันนี้ MERCEDES-BENZ ได้เข้าร่วมการตลาดสมาชิกใหม่ของครอบครัว MERCEDES-Maybach (เมอร์เซเดส-มายบัค) ในงาน Los Angeles Auto Show 2016
Maybach จัดอยู่ในตระกูล S-Class ถึงจะเป็นรถยนต์แบบซีดาน แต่มีการออกแบบตัวรถขนาดใหญ่ มีการตกแต่งที่หรูหรา โดยเฉพาะที่ภายใน ส่วนภายนอกนั้นเน้นความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เรียบหรู ไม่โฉบเฉี่ยวเหมือนรุ่นอื่น แต่นั่นเป็นข้อได้เปรียบตามความเหมาะสมของการเป็นยานพาหนะแบบทางการ อันเป็นจุดเด่นสำคัญที่รุ่นนี้ถูกเลือกใช้ในงานราชการหรือหน่วยงานของรัฐบาลหลายประเทศ
ความหรูหราและชัดเจนในตัวของมันเองอย่างที่สำคัญ คือมันเป็นรถที่ให้ความสำคัญกับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ได้ใช้งานรถอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะขับขี่เองหรือเป็นผู้โดยสาร รายละเอียดของความสะดวกสบายจะมีให้อย่างครบถ้วน อีก ทั้งขนาดของตัวรถที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่ มากกว่ารถในระดับ Limousine ซึ่งต้องเป็นรถในระดับนั้นจึงจะได้ ฟังก์ชั่นและการใช้งานเทียบเท่านี้ แต่ Maybach ตอบโจทก์นั้นได้อย่างลงตัว
ตัวรถมีสมรรถนะที่ไม่อาจจะมองข้ามกับเครื่องยนต์ความจุ 6.0L V12 biturbo engine (แบบสูบวี 12 ขนาด 6,000 ซี.ซี. เทอร์โบคู่) ชุดเกียร์ 7G-TRONIC automatic transmission แรงม้ามากกว่า 600 แรงม้า ด้วยสมรรถนะระดับนี้หากจะเทียบกับซุปเปอร์คาร์มันก็อาจจะล้ำเส้นเข้าไปได้ แต่เรื่องของความหรูหราแล้วมันต้องแน่นอนกว่าเพราะมันถูกสร้างมาด้วยจุดประสงค์นั้น
คุณสมบัติขอรถที่มีการออกแบบเรียบหรู การตกแต่งภายในที่สะดวกสบาย และสมรรถนะที่สามารถสร้างความมั่นใจได้อย่างเหมาะสมเมื่อต้องการใช้งานในทุกสถานการณ์ และเมื่อบวกกับระดับราคาที่ไม่สูงจนเกินไปนัก หลายประเทศจึงใช้มันเป็นรถสำหรับบุคคลระดับ V.I.P โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่ไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์ของ หน่วยงานรัฐถูกมองในแง่ลบจากประชาชนในประเทศของเขา ว่าใช้งบประมาณในการซื้อยานพาหนะอย่างฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น เพราะมันมีความเรียบง่ายในภาพลักษณ์ แต่มีความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังสามารถต่อยอดเอาไปใช้ในงานได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะทางด้านของความปลอดภัย
ด้วยค่าตัวที่อยู่ในระดับไม่ถึงหลัก 20 ล้านบาทไทย จึงเป็นตัวเลือกของหลายประเทศในการเลือกใช้ เพราะเมื่อตัดภาษีของประเทศไทยออกไป ราคาตัวรถของประเทศอื่นจะอยู่ในระดับที่ไม่สูงจนเกินไปเลยทีเดียว
เรื่อง โดย: ศิปิวรรธ ปานกลาง
เครดิต: ภาพ: www.topspeed.com / Hollywood Reporter / Mercedes-Benz / wikipedia.org
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th