เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เตรียมปรับราคาหลังปีใหม่ เพิ่มขึ้น 20,000-480,000 บาท
เมอร์เซเดส-เบนซ์ แบรนด์รถยนต์หรูสัญชาติเยอรมัน เตรียมปรับราคาขายรถยนต์ในประเทศไทยครั้งใหญ่ โดยอาจเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 20,000-480,000 บาท และคาดว่าจะเริ่มใช้ ราคาใหม่ ตั้งแต่ต้นปีหน้าทันที 2566
หลังจากหลายบริษัทรถยนต์ได้ปรับราคาขายในประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดทีมงาน Grand Prix Online ได้รับข้อมูลว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เผชิญผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เตรียมประกาศราคาขายใหม่รถยนต์หลายรุ่นที่จะมีผลใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566
จากข้อมูลที่หลุดออกมาคาดว่าโมเดลยอดนิยมของคนไทยหลายรุ่นจะมีราคาเพิ่มขึ้นทั้ง New C-Class ในรุ่น C220 d Avantgarde ที่จากเดิมขายอยู่ 2.59 ล้านบาท จะปรับเป็น 2.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 1.4 แสนบาท เช่นเดียวกับเอสยูวีรุ่นเริ่มต้น GLA 200 AMG Dynamic จะเพิ่มขึ้น 60,000 บาท ทำให้ราคาจำหน่ายใหม่จะเป็น 2.54 ล้านบาท
ขณะที่ E-Class ทั้ง 3 รุ่นย่อย ดีเซล และปลั๊ก-อิน ไฮบริด จะมีการปรับเพิ่มระหว่าง 81,000-121,000 บาท ทำให้ราคาใหม่จะเขยิบเป็น 3.29-3.89 ล้านบาท
เช่นเดียวกับ GLC ถึงจะเข้าสู่ช่วงปลายอายุโมเดลนี้แล้ว แต่จะปรับราคาเพิ่มอีกเล็กน้อย 20,000 บาท ทั้งในรุ่น GLC 220 d (ราคาใหม่ 4.16 ล้านบาท) และ GLC 300 e (ราคาใหม่ 4.18 ล้านบาท)
คาดว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จะประกาศการปรับราคาใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงก่อนหน้างานมหกรรมยานยนต์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2022 ที่ชาแลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: อินเตอร์เน็ต
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ราคาใหม่ 2566
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) (Mercedes-Benz Leasing (Thailand)) ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น —บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด— (Mercedes-Benz Mobility (Thailand) Co., Ltd.) อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำการเป็นธุรกิจที่มากกว่าบริษัทสินเชื่อรถยนต์ พร้อมการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ และธุรกิจเกี่ยวเนื่องเพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และเสนอทางเลือกผลิตภัณฑ์การเงินที่ตอบโจทย์ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ศุภวุฒิ จีรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย)กล่าวว่า “การเปลี่ยนชื่อจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง ประเทศไทย เป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ ประเทศไทย เป็นการปรับเปลี่ยนตอบรับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้เราต้องปรับตัวให้เป็นมากกว่าแค่ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ต้องมีความยืดหยุ่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย รวมทั้งธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่จะตอบโจทย์ลูกค้าในยุคปัจจุบัน พร้อมเคียงข้างกลุ่มรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และกลุ่มบริษัทรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในเครือ”
เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการครอบครองรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไป เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ เดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ให้ได้ครอบครองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้สะดวกสบายและง่ายขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์นั้นคือ “StarChoice” ที่จะเข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ ควบคู่ไปกับใช้บริการออนไลน์ที่ราบรื่น
“StarChoice” เสนออัตราค่าบริการรายเดือนแบบคงที่รวมทุกอย่าง (All-inclusive) ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตลอดระยะเวลาสัญญา 3-5 ปี พร้อมความคุ้มครองสูงสุดตามมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมค่าบำรุงรักษา ซ่อมแซม ประกันภัย ภาษี และค่าจดทะเบียน อีกทั้งยังมีบริการจัดหารถทดแทนตลอดระยะเวลาสัญญา โดยไม่ต้องจ่ายเงินงวดแรก ทำให้ลูกค้าตัดสินใจครอบครองรถได้ง่ายขึ้น และขับขี่ได้อย่างมั่นใจ โดยเมื่อสิ้นสุดสัญญาสามารถเลือกที่จะคืนรถ หรือเลือกเป็นเจ้าของรถได้เช่นกัน นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มอบความสะดวกสบายควบคู่ไปกับการบริหารการเงินได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ “StarChoice” บริษัทฯ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ที่ช่วยลูกค้าบริหารจัดการกระแสเงินสดได้ง่ายขึ้น พร้อมข้อเสนอในการเพิ่มมูลค่ารถยนต์ของลูกค้าด้วยสินเชื่อรีไฟแนนซ์ที่สามารถเปลี่ยนรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ของคุณ เป็นวงเงินสูงสุด 4 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ย และการผ่อนชำระที่คงที่ ตลอดระยะการผ่อนชำระสูงสุด 5 ปี