เมอร์เซเดสฯ เปิดตัว Mercedes-AMG G 63 ก่อนเข้าสู่งานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2025

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดตัว Mercedes-AMG G 63 ยนตรกรรมที่มาพร้อมการผสมผสานระหว่างขุมพลัง สมรรถนะ และเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโลกของยนตรกรรมออฟโรดสุดหรู โดยพร้อมให้สัมผัสคันจริงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายน 2568
Mercedes-AMG G63 มาพร้อมดีไซน์ที่สะท้อนความแข็งแกร่งเหนือกาลเวลา ด้วยการออกแบบรอบคันแบบ AMG bodystyling ตกแต่งด้วยกระจังหน้าแบบ AMG Specific Grille และกันชนหน้าแบบ AMG-specific front bumper เพื่อเพิ่มความสปอร์ตดุดัน ทั้งยังช่วยในด้านแอโรไดนามิกและการระบายอากาศ ผสานกับไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มทัศนวิสัย และความปลอดภัยขณะขับขี่
ราคา อย่างเป็นทางการในประเทศไทยของ Mercedes-AMG G 63 18,800,000 บาท
Mercedes-AMG 63 ขุมพลังจากเครื่องยนต์ V8 Bi-Turbo ขนาด 4.0 ลิตร ที่ออกแบบโดย AMG และเกียร์แบบใหม่ AMG SPEEDSHIFT TCT 9-SPEED SPORTS TRANSMISSION พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและแม่นยำ มอบพละกำลังสูงสุด 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ทำให้สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 4.5 วินาที พร้อมยกระดับสมรรถนะด้วยระบบ Mild Hybrid ที่ผสานการทำงานเข้ากับพื้นฐานเครื่องยนต์ V8 ภายใต้แนวคิด “One Man, One Engine” เสริมพลังการออกตัวที่เฉียบคม และตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
มาพร้อมดีไซน์ที่สะท้อนความแข็งแกร่งเหนือกาลเวลา ด้วยการออกแบบรอบคันแบบ AMG bodystyling ตกแต่งด้วยกระจังหน้าแบบ AMG Specific Grille และกันชนหน้าแบบ AMG-specific front bumper เพื่อเพิ่มความสปอร์ตดุดัน ทั้งยังช่วยในด้านแอโรไดนามิกและการระบายอากาศ
ผสานกับไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยขณะขับขี่ และการแก้ไขการออกแบบจุดเสา A-pillar ใหม่ทั้งหมด พร้อมการใส่ Spoiler ไว้ด้านบน ช่วยลดเสียงภายในห้องโดยสารลงได้มากถึง 20%
นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความโปร่งโล่งให้กับห้องโดยสาร พร้อมให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสัมผัสบรรยากาศภายนอกได้อย่างง่ายดาย
เปิดตัว Mercedes-Benz G-Class พลังไฟฟ้า-สานต่อตำนานสายลุย
มาจนถึงล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ทั้งยังเป็นครั้งแรกของ G-Class ที่มาพร้อมปุ่มเปิด-ปิด ประตูทั้งหมดเป็นแบบ KEYLESS-GO เพียงสัมผัสที่มือจับประตูก็สามารถล็อกหรือปลดล็อกได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ในทุกการเดินทาง
AMG High-Performance Braking System ระบบเบรกสมรรถนะสูง พร้อมการตกแต่งด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ประดับด้วยโลโก้ AMG ให้ความโดดเด่นในทุกการขับขี่ ผสานการทำงานกับระบบท่อไอเสียคู่ AMG Performance Exhaust System ที่มอบประสบการณ์อันเร้าใจถึงขีดสุด
พร้อมระบบปรับระดับเสียง ช่วยให้ควบคุมความกระหึ่มของเสียงท่อไอเสียได้ตามความต้องการ และกล้อง 360° with Transparent Bonnet เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นภาพด้านหน้ารถและใต้ท้องรถ ผ่านหน้าจอแสดงผล ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยโดยเฉพาะในเส้นทางออฟโรดหรือพื้นที่แคบ
AMG ACTIVE RIDE CONTROL Chassis ระบบช่วงล่างแบบ Active Hydraulic ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเสถียรในการขับขี่ และลดอาการโคลงตัวของรถ โดยสามารถปรับการขับขี่ได้ 2 รูปแบบ คือ Off-Road และ Sport
โดยเพิ่มฟีเจอร์ความเป็นรถมอเตอร์สปอร์ตมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่ง Differential Lock ซึ่งเป็นฟีเจอร์เอกลักษณ์ของ G-Class โดยระบบสามารถล็อกเฟืองท้ายได้ถึง 3 จุด
แต่ละจุดสามารถล็อกได้เต็ม 100% (Three Times 100% Lockable) ช่วยให้รถสามารถขับผ่านพื้นผิวที่มีแรงยึดเกาะต่ำ เช่น โคลน ทราย หิมะ หรือพื้นผิวขรุขระได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเทคโนโลยีที่มอบความล้ำสมัยอย่างลงตัว เริ่มจากหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ All-Digital Instrument Display ขนาด 12.3 นิ้ว ที่เชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการมัลติมีเดีย COMAND Online ขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงข้อมูลและควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย พวงมาลัย AMG Performance Steering Wheel หุ้มหนัง Nappa ตัดสลับ DINAMICA microfibre
ระบบ AMG DYNAMIC SELECT ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดขับขี่ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งสามารถปรับค่าการทำงานของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และพวงมาลัยให้ตอบสนองกับสภาพถนนและสไตล์การขับขี่ได้อย่างลงตัว
พร้อมเติมเต็มอารมณ์การขับขี่ด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® Surround Sound System ที่ให้คุณภาพเสียงคมชัดรอบทิศ นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังมาพร้อมระบบฟอกอากาศ Air Balance Cabin-Air Purification System ที่ช่วยรักษาคุณภาพอากาศให้สะอาด สดชื่น และผ่อนคลายตลอดการเดินทาง ทำให้ทุกเส้นทางเต็มไปด้วยความสะดวกสบายในแบบฉบับของ AMG
Mercedes-AMG G 63 ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุดมากมาย อาทิ Assistance Package ทั้งระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist with exit warning function)
ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist) และระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย (Active Steering Assist) และระบบความปลอดภัยอื่น ๆ อย่างครบครัน
สำหรับ Mercedes-AMG G 63 มีสีตัวถังให้เลือกกว่า 8 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Obsidian Black) สีเงิน (Iridium Silver) สีเงิน (Mojave Silver) สีน้ำเงิน (Sodalite Blue) สีน้ำเงิน (Brilliant Blue) สีเขียว (Emerald Green) และสีเทา (Selenite Grey)
นอกจากนี้ Mercedes-AMG G 63 ยังมาพร้อม OPITONAL EXTRA ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถเลือกออปชันและอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้อีกมากมาย ตั้งแต่สีตัวถังแบบ MANUFAKTUR ล้ออัลลอยด์ AMG ชุดแต่ง AMG Night Package และ Black accents
อุปกรณ์ตกแต่ง “G manufaktur” รวมถึงการตกแต่งภายในที่มีให้เลือกทั้งแบบ EXCLUSIVE และ SUPERIOR Line
เตรียมพบกับรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ Mercedes-Benz ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 (46th Bangkok International Motor Show 2025) จัดขึ้นที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายน 2568
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
Mercedes-AMG G 63 เปิดตัว