MERCEDES-BENZ V 250 d Avantgarde Long สุนทรียภาพใหม่ในการเดินทาง
มาเปลี่ยนบรรยากาศไปดูรถแนวครอบครัวกันบ้าง กับอีกหนึ่งเซ็กเมนต์ของค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาตอบสนองต่อการเดินทางในแบบครอบครัวใหญ่ หรือรองรับผู้บริหารที่ต้องการความสะดวกสบายที่มากกว่ารถซีดานทั่วๆ ไป กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ วี-คลาส รถในรูปแบบ MPV มาพร้อมขุมพลังดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ ที่ให้ทั้งพละกำลังและความประหยัดที่ดีไปพร้อมๆ กัน ภายใต้รหัสเรียกขาน V 250 d Avantgarde Long
ถ้าย้อนกลับไปสักประมาณปีกว่า เราเคยได้นำ วี-คลาส โฉมใหม่นี้มาทำการทดสอบกันไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนเผยโฉมใหม่ๆ แต่ครั้งนั้นกับครั้งนี้มีความแตกต่างกันตรงที่ในคราวนี้เรากำลังจะพาคุณผู้อ่านไปสัมผัสกับความกว้างขวาง และความสะดวกสบายที่มากขึ้นจากรหัสเรียกขานที่มีต่อท้ายมาว่า Long นั่นก็คือที่มาของความยาวของตัวรถและฐานล้อที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยเติมความสบายจากพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่มีให้ใช้งานมากขึ้นไปพร้อมๆ กัน การจัดวางห้องโดยสารแบบ 3 ตอน 2 + 2 + 2 เมื่อผสานกับมุมการเปิดของประตูคู่หน้าที่ทำได้มาก และประตูข้างแบบสไลด์ไฟฟ้า ทำให้ความสะดวกสบายในการเข้าสู่ในทุกที่นั่งเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น พื้นที่วางขาระหว่างเบาะทั้ง 3 แถวมีให้ใช้งานอย่างเหลือๆ พอที่คนตัวใหญ่ไซซ์ฝรั่งจะนั่งกันได้อย่างสบาย และด้วยเบาะนั่งแบบแยกที่สามารถเลือกปรับระดับของพนังพิงไปจนถึงระยะวางขาได้อิสระจากกัน ยิ่งช่วยให้ความสบายได้ดีในทุกๆ ที่นั่ง
โดยเฉพาะในแถวที่ 2 และ 3 ยังสามารถใช้งานชุดโต๊ะกลางได้ จากตัวโต๊ะกลางที่สามารถเลื่อนปรับตำแหน่งได้ การใช้งานก็เพียงกดตัวโต๊ะให้เด้งขึ้นมา แล้วดึงตัวถาดวางกางออกมาในแบบเดียวกับโต๊ะวางของบนสายการบิน ที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศภายในรถให้กลายเป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ไปจนถึงห้องอาหารสำหรับคุณหนูๆ ได้ในระยะเวลาที่สั้น แต่จะมีจุดอ่อนอยู่นิดตรงตัวเบาะนั่งแถวที่ 2 ไม่สามารถหมุนหรือถอดออกมาจากตัวรางได้อย่างง่าย จะทำได้ด้วยเครื่องมือพิเศษที่อยู่ในศูนย์บริการเท่านั้น ทั้งนี้ มาจากเรื่องของความปลอดภัยที่ทางเบนซ์คำนึงถึงเป็นหลัก เพราะตัวเบาะนั่งนั้นจะมีความแข็งแรงและปลอดภัยจากตัวเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดในทุกตำแหน่งที่นั่งที่ยึดติดมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวเบาะเลย นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารของ V 250 d คันนี้ ยังได้รับการติดตั้งชุดไฟภายในห้องโดยสารมาให้พร้อมสรรพ สามารถปรับเปลี่ยนสีได้หลากหลาย พร้อมสร้างบรรยากาศที่ดีในการขับขี่ยามค่ำคืน ส่วนทางด้านบนนั้น ได้ให้ชุดหลังคากระจกแบบพาโนรามิกขนาดใหญ่กินพื้นที่เหนือห้องโดยสารตอนหลังไปเกือบทั้งบาน ช่วยเพิ่มความโปร่งให้กับห้องโดยสารไปในตัว แต่ก็ต้องแลกมากับแสงที่อาจจะส่งผ่านเข้ามาอยู่บ้างในวันที่แดดแรงๆ จนสามารถส่องผ่านม่านบังแสงที่มีติดตั้งมาให้
นอกจากเรื่องของความสะดวกสบายที่เปรียบเสมือนหัวใจหลักของรถกลุ่มนี้แล้ว ในเรื่องของสมรรถนะที่ดูว่าอาจจะเป็นเรื่องสำคัญรองลงมานั้น หัวข้อนี้ V 250 d คันนี้ สามารถให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้ดีตามสไตล์ยุโรปคาร์คันหนึ่งเลยทีเดียว เพราะด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ 4 สูบ ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ ขนาด 2,000 ซี.ซี. ที่พกพาแรงม้าเยอรมันมากว่า 190 ตัว พร้อมด้วยแรงบิดระดับ 440 นิวตันเมตร ที่มีมาให้ใช้งานกันตั้งแต่ 1,400 รอบนั้น เมื่อผสานการทำงานเข้ากับชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ 7 สปีดด้วยแล้ว สามารถสร้างการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ ให้พลังในการขับเคลื่อนแบบเหลือๆ โดยสามารถเดินทางไกลในระดับความเร็ว 120 กม./ชม. ได้อย่างสบายๆ พร้อมตอบสนองต่อการเร่งแซงในยามที่ต้องการได้ตลอดเวลา ให้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองในขณะเดินทางได้มากถึง 12.41 กม./ลิตร นับว่าประหยัดได้ดีพอตัวเมื่อเทียบกับสมรรถนะที่ได้และภาระที่หนักอึ้งถึง 2 ตันกว่าๆ
ระบบช่วงล่างแบบอิสระทั้งสี่ล้อได้รับการปรับเซตมาเป็นอย่างดี จนสามารถให้ความรู้สึกเสมือนหนึ่งกำลังขับเบนซ์คันโตอย่างที่คุ้นเคย ให้ความมั่นใจในการเดินทางได้เป็นอย่างดี แม้จะต้องผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยว อีกทั้งระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ ที่มาพร้อมระบบป้องกันที่ครบครัน สามารถเพิ่มความอุ่นใจได้ดีตลอดการเดินทาง อันนี้พิสูจน์กันแล้วจากประสบการณ์ตรงของน้องหมาที่วิ่งมาตัดหน้าในขณะที่วิ่งอยู่ด้วยความเร็วระดับร้อย V 250 d คันนี้ยังสามารถลดความเร็วลงได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ตัวรถนั้นยังสามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจ เติมความปลอดภัยในการเดินทาง อีกทั้ง V 250 d ยังได้รับการติดตั้งระบบความปลอดภัยใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาให้ อาทิ ระบบเตือนการชนในด้านหน้าที่จะคอยส่งสัญญาณเตือน หากพบว่าเรากำลังเคลื่อนที่เข้าใกล้รถคันข้างหน้าในระยะที่ไม่ปลอดภัย ไปจนถึงระบบช่วยรักษาเลน ที่จะคอยเตือนหากพบว่ามีการเปลี่ยนเลนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจของผู้ขับ โดยการสั่นเตือนของตัวพวงมาลัยในขณะที่พบว่าตัวรถมีการเบี่ยงออกจากเลนที่ใช้งานอยู่
Mercedes-Benz V 250 d Avantgarde Long คันนี้ นับได้ว่าเป็นการกลับมาสู่สมรภูมิรถ Luxury MPV กันแบบเต็มตัว ทั้งรูปลักษณ์หน้าตาที่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัยมากขึ้น ไปจนถึงภายในที่หรูหรา และสะดวกสบายไม่น้อยหน้าคู่แข่งในเซ็กเมนต์ หลังจากที่ปล่อยให้โฟล์คและโตโยต้ากวาดยอดขายในเซ็กเมนต์นี้มาหลายปี
ข้อมูลทางเทคนิค
ยี่ห้อและรุ่นรถ Mercedes-Benz V 250 d Avantgarde Long
ประเทศผู้ผลิต และรุ่นปี ประเทศไทย รุ่นปี 2018
แบบเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
ปริมาตรความจุ (ซี.ซี.) 2,143
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบ/นาที) 190/3,800
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รอบ/นาที) 44.9/1,400-2,400
ถังเชื้อเพลิงจุ (ลิตร) 70
ระบบขับเคลื่อน ล้อหลัง
ระบบเกียร์ เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
ระบบเบรก หน้า/หลัง ดิสก์เบรก / ดิสก์เบรก
ล้อ ล้อแม็กขนาด 18”
ยาง (หน้า, หลัง) 245/45R18
ราคาจำหน่าย 5,690,000 บาท
เรื่อง : กิตติศักดิ์ ด้วงพิมพ์
ภาพ : ธนกฤต ธนะสารเจริญ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th