เมื่อปีที่แล้ว Mercedes-Benz ได้ทำการปรับโฉมครั้งใหญ่ให้กับ V-Class ซึ่งทำให้รถเอ็มพีวีรุ่นนี้มาพร้อมกับภายนอกที่ถูกปรับใหม่ มีเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบใหม่กับระบบส่งกำลัง 9-G Tronic พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับต่างๆ รวมไปถึงการปรับในส่วนของระบบ MBUX ในรถ อย่างไรก็ตามล่าสุด V-Class ได้รับการอัพเดตใหม่อีกครั้งเพื่อเพิ่มความดึงดูดมากขึ้นสำหรับผู้ต้องการความสบายด้วยการเดินทางในรถเอ็มพีวีหรูกับการเพิ่มระบบกันสะเทือนถุงลม Airmatic เข้ามาให้เลือก

        เมื่อเทียบกับระบบกันสะเทือนปกติของ Mercedes-Benz V-Class ระบบ Airmatic มาพร้อมกับจุดเด่นที่เพิ่มขึ้นในหลายๆ ด้าน โดยที่โดเด่นที่สุดคือการเพิ่มความสบายให้มากขึ้นเมื่อเดินทางบนเส้นทางขรุขระต่างๆ นอกจากนี้ยังส่งผลในด้านการลดเสียงรบกวนทั่วทั้งตัวรถ ช่วยลดความสิ้นเปลืองน้ำมันที่ความเร็วสูง รวมไปถึงสามารถปรับการทำงานผ่านโปรแกรมการขับต่างๆ ได้

        ระบบกันสะเทือนถุงลม Airmatic จะมีการปรับแชสซีส์ของ V-Class ตามสภาพความขรุขระที่แตกต่างกันของถนน เพื่อรักษาความสูงจากพื้นถนนของใต้ท้องรถในทุกรูปแบบการรับน้ำหนักของรถแม้ในเส้นทางที่มีความขรุขระมาก นอกจากนี้ยังมีการควบคุมการสั่นสะเทือนอิสระในทุกล้อของรถเพื่อตอบสนองต่อสภาพถนน จึงช่วยเพิ่มความมั่นคงขึ้นและลดการโคลงของรถลงในขณะขับจากการลดการขยับของตัวรถให้น้อยลง

        สำหรับรูปแบบการทำงานของช่วงล่างถุงลม Airmatic ที่แตกต่างกันผู้ขับสามารถเลือกได้จากโปรแกรมการขับโดยใช้สวิตช์ Dynamic Select ที่คอนโซลกลาง โดยที่ในโปรแกรม Comfort และ Manual ระบบกันสะเทือนถุงลม Airmatic จะช่วยให้ V-Class มีความสูงในระดับปกติเมื่อใช้ความเร็วสูงถึง 110 กม./ชม. แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้นระบบกันสะเทือนก็จะปรับลดความสูงลงอัตโนมัติ 10 มม. โดยหากเลือกโปรแกรม Sport ระบบกันสะเทือนก็จะลดความสูงของรถลงจากปกติแม้ใช้ความเร็วต่ำกว่า 110 กม./ชม. นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม Lift ที่จะเพิ่มความสูงขึ้น 35 มม. ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม.

        นอกจาก V-Class ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดที่มีระบบกันสะเทือนถุงลม Airmatic แล้ว ระบบกันสะเทือนนี้ยังมีในรถไฟฟ้า EQV, Vito Tourer, eVito Tourer รวมทั้ง Marco Polo ด้วย

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th