Mercedes-Benz Vision EQS โชว์ความหรูของรถไฟฟ้าในอนาคต
Mercedes-Benz ทำ Vision EQS ออกมาแสดงในแฟรงเฟิร์ตมอเตอร์โชว์ โดยนอกจากจะเป็นการตอบความสงสัยบรรดาลูกค้าของตนว่ารถไฟฟ้าซีดานหรูในอนาคตของ Mercedes-Benz จะเป็นอย่างไรแล้ว ยังเป็นการแสดงให้บรรดาผู้ผลิตรถไฟฟ้าหน้าใหม่เห็นด้วยว่าการทำรถไฟฟ้าที่มีความหรูจะต้องทำอย่างไร เพราะทางค่ายดาว 3 แฉกระบุอย่างชัดเจนว่า Vision EQS เป็นการนำปรัชญาการออกแบบ Progressive Luxury หรือความหรูหราที่ก้าวไปสู่อนาคตของรถรุ่น EQ จาก Mercedes-Benz ไปสู่อีกระดับ
Mercedes-Benz Vision EQS ถูกออกแบบเพื่อแสดงทั้งความงามที่สัมผัสได้และการชาร์จที่น่าอัศจรรย์ จึงทำให้นอกจากภายนอกของรถมีรูปทรงที่โค้งมนไหลลื่นแล้ว ยังมาพร้อมกับการใช้แสงไฟเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับรถ ไม่ว่าจะเป็น Lightbelt หรือแถบแสงขนาดเล็กที่คาดยาวต่อเนื่องรอบตัวรถตั้งแต่กระจังหน้า ไฟหน้าดิจิตอลไลต์ซึ่งประกอบด้วย 2 โมดูลเลนส์โฮโลกราฟิกในแต่ละฝั่ง กระจังหน้าไฟ Matrix ซึ่งประกอบด้วยไฟ LED 188 ดวงเพื่อสร้างลักษณะ 3 มิติ และไฟท้ายมีลักษณะเป็นดาวขนาดเล็กที่ให้แสงสว่างได้จำนวน 229 ดวง[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]
ส่วนแนวคิดการออกแบบภายในห้องโดยสารของ Vision EQS มาจากเรือยอชท์หรู จึงทำให้ส่วนของแผงแดชบอร์ดกลมกลืนไปกับสิ่งต่างๆ ที่ใช้ในการแต่งด้านหน้า เช่นเดียวกับค็อกพิตที่ถูกพัฒนาให้ดูเหมือนดาดฟ้าเรือ โดยทาง Mercedes-Benz ได้บอกว่าสิ่งนี้จะเป็นปรัชญาการออกแบบภายในของรถซาลูนหรูในอนาคตของตน และไม่เพียงแค่การออกแบบที่หรูเท่านั้น Vision EQS ยังมาพร้อมวัสดุคุณภาพสูงที่เป็นมิตรกับธรรมชาติอย่างการใช้ Dinamica ไมโครไฟเบอร์สีขาว Crystal White พร้อมกับการใช้วัสดุที่คล้ายไม้เมเปิลจากการรีไซเคิลขวดพลาสติก รวมไปถึงการใช้หนังประดิษฐ์ที่มีเนื้อละเอียดเหมือนหนัง Nappa ในขณะที่หลังคารถูกบุด้วยสิ่งทอที่ผลิตมาจากการรีไซเคิลขยะพลาสติกจากทะเล
แน่นอนว่า Vision EQS มาพร้อมระบบ Infotainment MBUX ที่ล้ำหน้า พร้อมกับมีหลากหลายพื้นที่สำหรับแสดงดิจิตอลคอนเทนต์ นอกจากภาพรวมที่ดูหรูและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วทาง Mercedes-Benz ยังไม่ลืมใส่ใจต่อรายละเอียดต่างๆ ภายในห้องโดยสารด้วยอย่างลำโพง ที่มีตะแกรงครอบเป็นสี Rose Gold หรือการใช้วัสดุที่มีลักษณะแวววาวเหมือนจิวเวลรีเพื่อเสริมความหรู
ด้านการขับเคลื่อนค่ายดาว 3 แฉกระบุว่า Vision EQS มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งติดตั้งอยู่ทั้งที่เพลาหน้าและเพลาหลังโดยรับพลังงานมาจากแบตเตอรีที่พื้นรถสำหรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อซึ่งมีการแปรผันการส่งแรงบิดที่เพลา สำหรับกำลังรวมจากมอเตอร์ทั้ง 2 ของรถอยู่ที่ 476 แรงม้า แรงบิด 760 นิวตัน-เมตร ซึ่งสามารถช่วยให้รถไฟฟ้าหรูนี้เคลื่อนที่จากความเร็ว 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 4.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กม./ชม. แม้ทางผู้ผลิตจะไม่มีการพูดถึงความจุของแบตเตอรีที่อยู่ใน Vision EQS แต่ก็ระบุว่าสามารถใช้เดินทางได้ถึง 700 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP โดยสามารถชาร์จพลังงานได้ 80 เปอร์เซ็นต์ด้วยเวลา 20 นาทีกับเครื่องชาร์จ 350 kWh
Vision EQS มาพร้อมกับเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ Level 3 สำหรับการเดินทางไกลบนทางหลวง แต่ด้วยการใช้ระบบโมดูลาร์เซ็นเซอร์จะทำให้สามารถเพิ่มระดับการขับขี่อัตโนมัติมากขึ้นได้ในอนาคต
แน่นอนว่า Vision EQS เป็นการทำออกมาเพื่อแสดงถึงทิศทางรถซีดานของ Mercedes-Benz ในอนาคต ซึ่งคงยังไม่มีการนำมาผลิตจริงในช่วงเวลาใกล้ๆ นี้ แต่จากความหรูในห้องโดยสารและตัว S ในชื่อรถก็อาจทำให้พอจะคาดการณ์ถึง S-Class ในอนาคตได้ว่าจะออกมาในรูปแบบใด
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]