Mercedes-EQE AMG LINE เตรียมขายไทยเป็นรุ่นแรก
Mercedes-EQE AMG LINE เตรียมเปิดขายไทยเป็นรุ่นแรก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พร้อมเติมเต็มไลน์อัพรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในบอดี้แบบซาลูน รอลุ้นราคาเร็วๆ นี้
เพียงไม่กี่เดือนหลังจากการเปิดตัว EQS แบรนด์ Mercedes-EQ ก็ได้นำเสนอรถยนต์รุ่นต่อไปตามสถาปัตยกรรมไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ EVA2 platform นั่นคือ EQE ใหม่ รถเก๋งสำหรับนักธุรกิจสไตล์สปอร์ตมีฟังก์ชั่นที่จำเป็นทั้งหมดของ EQS ในรูปแบบที่กะทัดรัดกว่าเล็กน้อยในการเปิดตัวสู่สาธารณชน
โดยวางจำหน่ายทั้งหมดสองรุ่น คือ EQE 350 ที่มีกำลังไฟ 215 กิโลวัตต์ ระยะทางวิ่งได้ต่อการชาร์จสูงสุด 525 กม. เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางระยะไกล และอีกรุ่นหนึ่งที่เพิ่มความจุแบตเตอรี่ขนาด 500 กิโลวัตต์ การผลิต EQE เกิดขึ้นที่โรงงาน Mercedes-Benz เยอรมันในเมือง Bremen สำหรับตลาดโลก และที่ BBAC บริษัทร่วมทุนระหว่างเยอรมันและจีนในกรุงปักกิ่งสำหรับตลาดท้องถิ่น
ซึ่งรุ่นเริ่มต้นที่เปิดจำหน่ายในต่างประเทศของ EQE จะมีให้เลือกทั้งรุ่นตกแต่งเริ่มต้นแบบ Sport Edition รุ่น AMG Line รุ่น AMG Line Premium รุ่น AMG Line Premium Plus และรุ่น Excusive Luxury ซึ่งมีข่าวล่าสุดว่าเตรียมขายไทยตามแผนการที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยได้วางไว้ในปีนี้
Mercedes-EQE AMG LINE
จุดเด่นของ EQE มีความคล่องตัวมากกว่า EQS ด้วยฐานล้อที่สั้นกว่าเล็กน้อย ด้วยการนำเสนอแนวคิดของรถซาลูนที่มุ่งไปสู่อนาคต ดีไซน์โดยรวมเน้นความพิเศษเฉพาะตัว ตามหลักแอร์โรไดนามิการออกแบบที่ไร้รอยต่อ ลดระยะยื่นและส่วนหน้าสั้นลง ด้านหลังเน้นไดนามิกด้วยสปอยเลอร์หลังที่เฉียบคม
โดยรวมดีไซน์คล้ายรถคูเป้ดูสปอร์ตและปราดเปรียว กระจังหน้าสีดำแบบ Mercedes-Benz pattern ชุดไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT โปรเจคเตอร์ที่มีพิกเซลมากกว่าหนึ่งล้านพิกเซล ตอบสนองด้วยแสงที่สว่างคมชัดแบบ ULTRA RANGE ไปได้ไกลถึง 650 ม. ทำให้คุณรู้สึกได้เหมือนขับรถกลางวัน
ติดตั้งล้ออัลลอย AMG ก้านคู่ น้ำหนักเบา ขนาด 19 นิ้ว กลมกลืนกับขอบตัวถังด้านนอก พร้อมส่วนไหล่ที่มีกล้ามเนื้อเด่นชัด ทำให้ EQE มีลักษณะที่แข็งแรง ไฟท้าย LED ในรูปแบบเกลียว 3 มิติ และสามารถตกแต่งเพิ่มเติมภายนอกในแบบ AMG Line
ระบบกันสะเทือนของ EQE ใหม่ มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC ที่สามารถให้ผู้ใช้งานเลือกปรับเซ็ตช่วงล่างได้ ในขณะขับขี่ ระบบเซ็นเซอร์และอัลกอริธึมที่ซับซ้อนจะตั้งค่าแดมเปอร์ตามคุณภาพของถนน AIRMATIC ช่วยให้ระยะห่างจากพื้นคงที่ ตัวอย่างเช่น ในโปรแกรม SPORT ตัวถังรถจะต่ำลง 20 มม. ที่ความเร็วสูงกว่า 120 กม./ชม. เพื่อลดแรงเสียดทานตามหลักอากาศพลศาสตร์และเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุม หากรถลดความเร็วลงต่ำกว่า 80 กม./ชม. ระดับตัวถังจะกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น
ดีไซน์ภายในเน้นความทันสมัยเสริมด้วยเทคโนโยลีขั้นสูง
มิติรถโดยรวม ความยาวxความกว้างxความสูง: 4,946×1,961×1,512 (มิลลิเมตร) ขนาดภายในห้องโดยสารนั้นสูงกว่า E-Class ในปัจจุบันอย่างชัดเจน เน้นดีไซน์ภายในที่แปลกใหม่ แต่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน ไฮไลท์สำคัญคือระบบ MBUX Hyperscreen แผงหน้าปัดทั้งหมดเป็นจอไวด์สกรีน หน้าจอความละเอียดสูงแบบ OLED เคลือบด้วยกระจกป้องกันรอยชีดข่วน
ตัวกราฟฟิกต่างๆ ประสานการทำงานกันอย่างลงตัว แต่รุ่นเริ่มต้นจะไม่มีหน้าจอนี้ สั่งงานผ่านการสัมผัส และคำสั่งเสียง สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ตามโหมดต่างๆ ผู้ใช้สามารถเข้าถึง วิดีโอ ทีวี หรืออินเทอร์เน็ตได้แม้ในขณะเดินทาง นี่เป็นเพราะ Mercedes-EQ ใช้ตรรกะการปิดกั้นกล้องที่ชาญฉลาด: หากกล้องตรวจพบว่าคนขับกำลังดูที่จอแสดงผลผู้โดยสารด้านหน้า กล้องจะหรี่แสงโดยอัตโนมัติสำหรับเนื้อหาบางอย่าง ที่สำคัญยังมาพร้อมกับสุดยอดพลังเสียงจาก Burmester® surround sound system, DOLBY ATMOS คมชัดทุกรายละเอียด จากลำโพงมากถึง 15 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ภายในยังโปร่งโล่งสบายด้วย Panoramic sliding sunroof คุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกอิสระที่ยอดเยี่ยมและเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่สว่างสดใสภายในห้องโดยสาร
แบตฯ วิ่งได้ไกล หมดกังวลหาสถานีชาร์จ
ใน EQE แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประกอบด้วย 10 โมดูลและมีปริมาณพลังงานที่ใช้งานได้ 90 kwh ซอฟต์แวร์การจัดการแบตเตอรี่ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งพัฒนาขึ้นภายในบริษัท ช่วยให้สามารถอัปเดตผ่านอากาศ (OTA) ด้วยวิธีนี้ การจัดการพลังงานของ EQE ยังคงเป็นปัจจุบันตลอดเวลา ชาร์จไฟแบบ DC Charging นาน 32 นาที ชาร์จไฟ DC Charging 15 นาที วิ่งได้ 250 กิโลเมตร ชาร์จไฟ AC 11 kW ใช้เวลา 8.25 ชั่วโมง 22 kW ใช้เวลา 4.25 ชั่วโมง
หมดกังวลกับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการนำทางแบบ Electric Intelligence ซอฟแวร์ที่ช่วยวางแผนเส้นทางที่เร็วและสะดวกที่สุด รวมถึงการหยุดชาร์จ โดยอิงตามปัจจัยต่างๆ มากมาย และตอบสนองแบบไดนามิกต่อการจราจรติดขัดหรือรูปแบบการขับขี่ที่เปลี่ยนไป เป็นต้น ซึ่งรวมถึงการแสดงภาพในระบบอินโฟเทนเมนท์ MBUX ว่าความจุของแบตเตอรี่ที่มีอยู่เพียงพอที่จะกลับไปยังจุดเริ่มต้นโดยไม่ต้องชาร์จหรือไม่
ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม Driving Assistance package ทั้ง Active Distance Assist DISTRONIC , Lane Keeping , Blind Spot ระบบช่วยหยุดรถฉุกเฉิน เป็นต้น
ขับสนุกตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้า
ในด้านสมรรถนะขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 565 นิวตันเมตร ขับเลื่อนล้อหลัง สามารถวิ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. อย่างที่ทราบผู้ขับสามารถตั้งโปรแกรมการขับขี่ในแบบ COMFORT โดยมี SPORT, ECO และ INDIVIDUAL เป็นทางเลือก
ส่วนรุ่นที่เตรียมเปิดขายไทยเร็วๆ นี้คาดว่าจะเป็นรุ่น EQE Saloon หรือที่เรียกติดปากว่ารุ่นซีดาน 4 ประตู มาพร้อมกับชุดแต่งแบบ AMG LINE เสริมหล่อทั้งภายในและภายนกอก เพิ่มแป้นเหยีบแบบสปอร์ตพร้อมปุ่มยางสีดำ พรมปูพิ้น AMG พวงมาลัยแบบสปอร์ตมัลติฟังชั่น AMG หุ้นหนัง Nappa
เบาะนั่งแบบสปอร์ต AMG หุ้มหนัง Lugano มี GUARD 360° ช่วยปกป้องรถ เบาะนั่งคู่หน้าแบบอุ่นได้ มาพร้อมระบบช่วยจอดรถ และกล้องถอยหลัง และระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ THERMATIC ส่วนด้านหน้าจอแสดงผลภายในห้องโดยสาร จะเป็นจอแยก 2 จอแทน MBUX Hyperscreen ที่เป็นเพจเกจต้องซื้อเพิ่ม
ติดตามข่าวความเคลื่อนไวเพิ่มเติม รวมทั้งสเป็กขายไทยได้เร็วๆ นี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th