Mercedes เผยโฉม Maybach S-Class รุ่นใหม่ซึ่งเป็นรถยนต์หรูสำหรับการมีคนขับให้ออกมา โดยมาพร้อมกับการออกแบบในส่วนต่างๆ เพื่อเน้นสำหรับการเป็นรถลิมูซีนหรูที่เจ้าของรถจะนั่งอยู่ที่เบาะหลังในขณะเดินทางทั้งในเรื่องความกว้าง ความสบาย และเทคโนโลยีต่างๆ

        Mercedes-Maybach S-Class มาพร้อมกับระยะฐายล้อที่ยาว 3,396 มม. ซึ่งยาวขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 18 มม. เพื่อการสร้างบรรยากาศในการเดินทางสำหรับผู้โดยสารในเบาะหลังที่กว้างขวางขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า รวมไปถึงยังสร้างบรรยากาศที่ดีขณะเดินทางด้วยระบบ Active Noise Compensation หรือลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟที่จะส่งสัญญาณเสียงตรงกันข้ามเพื่อหักล้างเสียงรบกวนจากถนนก่อนที่จะมาถึงหูของผู้อยู่ในห้องโดยสาร

        นอกจากนี้ Maybach S-Class ใหม่ทุกคันยังมาพร้อมกับเบาะ Executive คู่ที่ด้านหลังซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชั่นนวดใหม่สำหรับความผ่อนคลายบริเวณน่อง รวมทั้งมีแพ็กเกจ Chauffeur เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยที่ผู้นั่งที่เบาะหลังจะสามารถปรับพื้นผิวของเบาะ พนักพิงหลัง และที่รองขาได้เพื่อการเอนหลังที่สบายสำหรับการพักผ่อน ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ มีทั้ง Seat belt Extender ซึ่งปกติแล้วจะมีเฉพาะในรถคูเป้และเปิดประทุนเท่านั้น โดยที่จะทำงานร่วมกับระบบ MBUX Interior Assistant ที่ทำงานตอบสนองเมื่อตรวจจับการเคลื่อนที่ของมือซึ่งเอื้อมไปจับเข็มขัดนิรภัย

นอกจากนี้ระบบ MBUX Interior Assistant ยังรองรับการควบคุมด้วยท่าทางหรือ Gesture ของผู้นั่งที่เบาะหลังเพื่อเปิดและปิดบังแดดหรือเปิด-ปิดไฟด้วย โดยที่ระบบจะสามารถทำได้ถึงขั้นตรวจจับเมื่อผู้นั่งที่เบาะหลังเอื้อมไปยังพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่มืด โดยที่จะมีการเปิดไฟมัลติสปอตเพื่อช่วยให้มองเห็น

เครื่องยนต์ที่ทาง Mercedes จะใช้กับ Maybach หลักๆ มี 2 รุ่นคือ Maybach S580 ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ กำลัง 496 แรงม้า พร้อมกับมีระบบไมลด์ไฮบริด 48-โวลต์ช่วยเพิ่มกำลังขับเคลื่อนอีก 21 แรงม้า และ Maybach S650 ที่ใช้เครื่องยนต์ V12 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 621 แรงม้า ร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ตลาดในบางภูมิภาคจะมีทางเลือกในแบบปลั๊กอินไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังขับเคลื่อนรวม 503 แรงม้า

รถหรูสำหรับมีคนขับให้รุ่นใหม่จาก Mercedes มาพร้อมกับระบบขับขี่อัตโนมัติเลเวล 3 ซึ่งจะทำให้ผู้ขับสามารถละมือจากพวมาลัยได้ในสถานการณ์อย่างการจราจรที่รถติดหนัก หรือบนมอเตอร์เวย์บางเส้นที่กฎหมายอนุญาตให้ใช้การทำงานนี้ได้ตั้งแต่หลังกลางปี 2021 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ Maybach S-Class ยังให้ความสบายเพิ่มขึ้นด้วย Maybach Mode ที่ใช้ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ Maybach Mode เพื่อให้การเดินทางที่นุ่มนวลขึ้นกว่า S-Class ทั่วไป รวมไปถึงเมื่อใช้ Maybach Mode คันเร่งของรถจะให้การเร่งความเร็วที่นุ่มนวลขึ้น ออกตัวที่เกียร์ 2 และเปลี่ยนมาใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 9 สปีดเพื่อการทำงานที่นุ่มนวลขึ้น

สำหรับผู้ที่เน้นความหรูภายนอกด้วย Mercedes มีทางเลือกในแบบสีทูโทนที่ภายนอกรถพร้อมด้วยเส้นแบ่งระหว่าง 2 สีโดยใช้มือในการทำ ซึ่งใช้เวลา 1 สัปดาห์สำหรับกระบวนการทั้งหมด นอกจากนี้ประตูหลังของรถยังทำงานด้วยไฟฟ้าโดยการกดปุ่ม ทาง Mercedes มองว่าตลาดหลักของ Maybach S-Class คือจีน เกาหลีใต้ รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี โดยจะเริ่มขายก่อนสิ้นปีนี้

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th