ดูยังไง? ซื้อรถมือสองออนไลน์คุณภาพดี-ราคาไม่แรง
ยุคนี้การซื้อสินค้าออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ ขอแค่เสิร์ชเจอของที่ถูกใจ ราคาโดนๆ ใครก็พร้อมกดสั่งซื้อทันที แต่ของชิ้นใหญ่อย่าง—รถยนต์ ถึงแม้จะสามารถจบการซื้อบนหน้าจอสมาร์ทโฟนพร้อมเดลิเวอรี่รถถึงหน้าประตูบ้านของลูกค้าแล้วก็ตาม หลายคนก็ยังลังเลที่จะตัดสินใจจนกว่าได้เห็นรถคันจริง โดยเฉพาะรถมือสองที่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ คงต้องขอไปดูคันจริงสักครั้งว่าตรงปกตามที่ผู้ประกาศขายบนเว็บไซต์หรือเปล่า ?
เพราะรายละเอียดในการตรวจสอบและพิจารณานั้นมีมากมาย ที่สำคัญซึ่งหลายคนมักจะกังวลคือ จะไว้ใจผู้ขายได้อย่างไร สุดท้ายแล้วซื้อไปใช้ หรือซื้อไปซ่อมกันแน่
การซื้อ-ขายรถยนต์ออนไลน์เกิดขึ้นในบ้านเรามาหลายปีแล้ว แต่คนส่วนใหญ่จะมั่นใจหรือพูดง่ายๆ ว่าถ้าต้องจ่ายเงินก่อนก็คงเลือกรถยนต์ใหม่ป้ายแดงมากกว่าไปเสี่ยงดวงกับรถยนต์มือสองที่หากคนซื้อไม่มีประสบการณ์ ดูรถไม่เป็น บางครั้งอาจโดนเต็นท์รถย้อมแมวเอารถยนต์ที่ไม่ได้รับการซ่อมบำรุงตามมาตรฐาน, ปกปิดข้อมูลอุบัติเหตุ หรือความเสียหายจากน้ำท่วมมาหลอกขายให้เสียเงินไปฟรีๆ
วิธีเลือกซื้อรถยนต์มือสอง ขั้นตอนเบื้องต้นในการตรวจเช็คควรเริ่มจากสภาพภายนอกรถที่จะต้องเดินดูรอบคันอย่างละเอียดว่ามีบาดแผลตรงไหนบ้าง หากมีก็ต้องดูว่ารุนแรงระดับใด คุณซื้อแล้วเอาไปซ่อมเองคุ้มไหม มีร่องรอยสนิมให้เห็นรึเปล่า ควรนำรถคันที่คุณเลือกไปจอดกลางแดดเพื่อให้ง่ายต่อการดูว่าตรงไหนมีการทำสีใหม่ที่จะมีความฉ่ำกว่าสีรถเดิม รวมทั้งเปิดฝากระโปรงหน้า-หลังเพื่อดูว่ามีการดัดหรือคดงอของโครงสร้างตัวถังหรือไม่
เสร็จแล้วก็มาไล่ดูสภาพภายในห้องโดยสาร แผงประตูมีอาการกรอบหรือรอยแตกหรือไม่ เบาะนั่งทุกตำแหน่งมีความเก่า-ใหม่ผ่านการใช้งานมาแค่ไหน หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แสดงผลครบถ้วน การทำงานของระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียงฟังได้ปกติ ตรวจสอบการทำงานของแผงสวิตช์ควบคุมกระจกไฟฟ้า และระบบล็อกประตู
จากนั้นลองสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ถือเป็นหัวใจหลัก หากไม่มีความรู้ควรหาคนที่มีความชำนาญมาช่วยฟังเสียงว่ามีอะไรผิดปกติ ทดสอบรอบเดินเบา-รอบสูง อาการสั่นของเครื่องยนต์ ที่สำคัญคือต้องกล้าถามคนขายหรือเจ้าของเต็นท์รถตรงๆ ว่ามีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์ไว้ให้รึเปล่า ระดับไฟของแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้อีกนานแค่ไหน และพยายามสังเกตว่ามีรอยหรือคราบน้ำมันรั่วซึมในห้องเครื่องหรือไม่
หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นแล้วทุกคนคงอยากจะนำรถยนต์ที่เล็งไว้ออกไปทดลองขับใช่ไหม? แน่นอนว่าด้วยเวลา และระยะทางที่จำกัด จุดสำคัญๆ ที่คุณพอจะทดสอบได้ก็มีการทำงานของเครื่องยนต์, อาการกระตุกของเกียร์, การควบคุมพวงมาลัย และระบบช่วงล่างที่อาจจะต้องใช้ความรู้สึกส่วนตัวของแต่ละคน หากคนขายไม่ได้มีแท่นยกให้คุณได้ตรวจสภาพใต้ท้องรถว่าโช๊คอัพ และจุดยึดต่างๆ ผ่านการใช้งานมาอย่างไร รวมทั้งสภาพยางทั้ง 4 ล้อที่ติดรถมาควรตรวจสอบวันปีที่ผลิตมีรอยแตก, รอยบวม หรือรอยฉีกซ่อนอยู่ไหม
สุดท้ายเป็นการตรวจเช็คเอกสารต่างๆ ที่ติดมากับรถยนต์มือสองคันนั้นว่าเลขตัวถังตรงกับในเล่มทะเบียนหรือไม่, เลขไมล์น้อยผิดปกติหรือไม่หากเทียบกับอายุรถ, การนำเข้าผ่านตัวแทนอย่างถูกต้องหรือไม่ หากเป็นรถยนต์ที่ซื้อจากผู้นำเข้าอิสระ หลังจากซื้อไปแล้วถ้ามีปัญหาต้องซ่อมใหญ่หรือหาอะไหล่ไม่ได้ คุณก็จะไม่มีสิทธิ์นำรถไปซ่อมที่ศูนย์บริการของตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์นั้นๆ
แค่นี้ก็คงมึนแล้วสำหรับคนที่กำลังเก็บข้อมูลเพื่อหารถยนต์มือสองคุณภาพดีๆ ไม่ต้องพูดถึงรถปีใหม่ๆ แบรนด์ยุโรปที่มีเทคโนโลยีล้ำๆ ที่จะต้องรู้ลึกว่ามีรายละเอียดตรงไหนต้องดูเพิ่มเติม อย่างคุณสนใจเมอร์เซเดส-เบนซ์ รถหรูสัญชาติเยอรมัน ก็ต้องดูเพิ่มทั้งระบบไฟที่ควรลองสตาร์ทรถเพื่อลองให้ครบทุกฟังก์ชั่น ระบบช่วงล่างเป็นของเดิมไหมเพราะบางรุ่นที่เป็นแบบถุงลม Air Suspension ที่หากพังไปแล้วเจ้าของเก่าอาจใส่โช๊คอัพปกติแทนเพราะสู้ราคาไม่ไหวก็มี
ถ้าเป็นรถกลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริด ก็ต้องดูว่ามีการใช้งานเป็นประจำหรือไม่เพราะกำลังไฟฟ้าของแบตเตอรี่อาจเสื่อมได้หากเป็นรถที่นานๆ ขับที, ระยะรับประกันจากศูนย์บริการเหลือมากน้อยแค่ไหน และเอกสารจดทะเบียนต้องมั่นใจว่าถูกต้องระบุชัดเจนว่าออกจากโชว์รูมอย่างเป็นทางการไม่ได้เป็นการซื้อผ่านผู้นำเข้าอิสระ
ถึงจะมีตัวช่วยขนาดนี้ก็ยังอาจยากไปสำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ซื้อรถยนต์มือสองมาก่อนที่จะตัดสินใจเสียเงิน 7 หลัก โดยอาศัยรีวิวตามโซเชียลมีเดีย หรือข้อมูล-เปรียบเทียบราคารถยนต์มือสองรุ่นที่เล็งไว้ตามเว็บไซต์ซื้อขาย-รถที่มีความน่าเชื่อถือ กลายเป็นโอกาสให้บริษัทรถยนต์ต่างๆ เข้ามาสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ากลุ่มนี้ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบครบทุกแบรนด์แล้ว
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบรถยนต์ยุโรปหรูๆ แต่ให้ความเร้าใจในการขับขี่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็คงเป็นตัวเลือกแรกๆ แน่นอน โดยค่ายดาวสามแฉกสร้างช่องทางในการซื้อรถยนต์ใช้แล้วผ่านแพล็ตฟอร์มออนไลน์ Mercedes-Benz Certified (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์ทิฟายด์) ที่มาพร้อมการกำหนดมาตรฐานระดับสูงสไตล์เยอรมันที่จะช่วยกำจัดความกังวลใจของลูกค้าในการซื้อรถยนต์มือสอง
ด้วยการนำมาตรฐานแบบ Mercedes-Benz มาใช้รับรองคุณภาพรถยนต์ใช้แล้วของพวกเขาที่จะคัดเลือกเฉพาะรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปีหรือระยะทางไม่ถึง 30,000 กิโลเมตร และไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหนักจนสร้างความเสียหายให้โครงสร้างตัวถัง ทำให้ลูกค้าที่จะซื้อไม่ต้องเหนื่อยกับการก้มๆ เงยๆ ตรวจดูสภาพตัวถังเหมือนเวลาไปดูตามเต็นท์รถ
ในส่วนของระบบเครื่องยนต์ และระบบไฟฟ้าที่รถปีใหม่ๆ ค่อนข้างจะล้ำสมัยเกินกว่าที่เราจะตรวจสอบได้หมด ทาง Mercedes-Benz Certified จะมีอุปกรณ์ที่สามารถตรวจเช็คความผิดปกติ และจัดการแก้ไขโดยทีมช่างผู้ชำนาญที่ได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก่อนจะนำมาให้ขายทางออนไลน์บนเว็บไซต์
ที่สำคัญรถยนต์ Mercedes-Benz ใช้แล้ว ทั้งหมดจะต้องผ่านการตรวจสอบ Multi-Point Check ซึ่งจะตรวจดูรายละเอียดที่เล็กที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์ได้ระดับความปลอดภัยตามมาตรฐาน รวมทั้งการซ่อมแซมทุกจุดด้วยชิ้นส่วนแท้ของ Mercedes-Benz
และหากจังหวะดีๆ เข้าไปดูทางเว็บไซต์ www.mercedesbenzcertified.com อาจเจอรถผู้บริหาร, รถโชว์ และรถเพื่อทดลองขับ ซึ่งจะมีอายุการใช้งานน้อยมากๆ มาให้เลือกจับจอง พร้อมได้รับข้อเสนอทางการเงินพิเศษจาก Mercedes-Benz Leasing รวมถึงบริการหลังการขาย, ระยะการรับประกัน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดยคุณสามารถโอนเงินจองรถยนต์รุ่นที่ต้องการได้ทันทีในหน้าเว็บไซต์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะติดต่อกลับเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม และขอเอกสารเพื่อดำเนินการทำสัญญาซื้อขายในภายหลัง
สำหรับผู้ที่สนใจรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ใช้แล้ว คุณภาพดีที่ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถเข้าไปเลือกดูรุ่นรถยนต์ที่สนใจ และข้อเสนอทางการเงินที่พิเศษได้ทางเว็บไซต์ www.mercedesbenzcertified.com
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
ขอบคุณข้อมูล: Mercedes-Benz Certified
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th