คัมแบ็ก! เบนซ์ ครองแชมป์รถหรูเมืองไทย Q1 ยอดจดทะเบียน 3,178 คัน-รุกหนักเปิดอีก 15 รุ่นในปีนี้
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ค่ายรถหรูสัญชาติเยอรมัน กลับมาครองตำแหน่งเบอร์หนึ่งตลาดรถลักชัวรี่ของประเทศไทยอีกครั้ง ประกาศตัวเลขยอดจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก 3,178 คัน ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564 พร้อมรุกหนักเตรียมเปิดตัวรถใหม่อีก 15 รุ่นในปีนี้
โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหารบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ลักชัวรี่ในไทยในไตรมาสแรกของปี 2564 ด้วยความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในเรื่องนวัตกรรม บริการที่ยอดเยี่ยม ตลอดจนวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ รวมถึงเครือข่ายดิจิทัลของเทคโนโลยีแห่งอนาคต ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ มียอดขายรถยนต์ที่จดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกแล้วทั้งสิ้นถึง 3,178 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มรถยนต์ลักชัวรี่ ทั้งนี้ยังเป็นผลมาจากการที่เราสามารถเพิ่มปริมาณรถยนต์ให้เพียงพอต่อการส่งมอบในเดือนมีนาคม โดยยังรวมถึงการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาได้อย่างหลากหลายรุ่นมากที่สุดในตลาดรถยนต์ไทย
“โดยรถที่ได้ความนิยมสูงอยู่ในกลุ่มรถยนต์ Mercedes-AMG รถยนต์เอสยูวี และกลุ่มรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ทั้งนี้ยอดขายในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ยังไม่รวมยอดจองในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ มียอดจองเป็นอันดับ 1 ของตลาดรถยนต์ลักชัวรี่ด้วยเช่นกัน และเช่นเดียวกับในตลาดโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จะยังคงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรม และตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยเรามีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 15 รุ่น ซึ่งรวมถึงรถยนต์รุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด อีกหลายรุ่นด้วย เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงใจในปีนี้”
ในขณะที่ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของเมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถครองแชมป์ยอดขายรถยนต์ในไตรมาสที่ 1 ด้วยยอดส่งมอบรถ 590,999 คันทั่วโลก เติบโตกว่า 22.3 เปอร์เซ็นต์ โดยรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือ xEV ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ครองส่วนแบ่งในตลาดโลก 10 เปอร์เซ็นต์ และในยุโรปกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ หลังจากตอนนี้ EQA รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มียอดจองทั่วโลกสูงถึง 20,000 คัน รวมทั้งความสำเร็จในประเทศจีน 1 ในตลาดสำคัญของพวกเขาสามารถทำยอดขายเป็นสถิติ 222,520 คันสูงสุดของสถิติไตรมาสแรก (เพิ่มขึ้น 60.1 เปอร์เซ็นต์)
บริตตา ซีเกอร์ กรรมการในคณะกรรมการบริหารเดมเลอร์ เอจี และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ซึ่งกำกับดูแลงานด้านการตลาด และการขาย เปิดเผยว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำยอดขายทั่วโลก 590,999 คัน (เพิ่มขึ้น 22.3 เปอร์เซ็นต์) ในไตรมาสแรกของปี 2564 อันเป็นผลมาจากยอดขายในประเทศจีน และสหรัฐอเมริกา รวมถึงความต้องการที่สูงขึ้นอย่างมากในกลุ่มรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนจากแบตเตอรี่ ในยุโรปยอดขายรถยนต์ 1 ใน 4 ภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และแบรนด์สมาร์ท เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (xEV) สำหรับในตลาดโลก รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100% มีสัดส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งหมดหรือประมาณ 59,000 คัน ในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% จำนวน 16,000 คัน โดยรถยนต์รุ่น EQA ที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม และได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าด้วยยอดจองประมาณ 20,000 คัน นับเป็นสัญญาณที่ดีในการเริ่มต้นปีสำหรับแบรนด์ Mercedes-EQ ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ สำหรับปี 2564”
“นอกเหนือจากรถยนต์รุ่น EQS, EQB และEQE เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องในปี 2564 โดยเปิดตัวรถในกลุ่มรถไฟฟ้าใหม่อีก 3 รุ่น รวมเป็น 6 รุ่น และล่าสุดเราได้นำเสนอรถยนต์ EQS ในฐานะรถยนต์รุ่นแฟล็กชิพของเรา ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะเป็นรถยนต์ที่ผู้ใช้ทั่วโลกจะชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง และจะเป็นรุ่นที่พลิกประสบการณ์การขับขี่ รวมถึงเรื่องการเชื่อมต่อกับบริการต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น” ซีเกอร์ กล่าวเพิ่มเติม ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะยังคงขยายการเติบโต และสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าด้วยการนำเสนอรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่หลากหลายรวมแล้วราว 30 รุ่นจนถึงสิ้นปีนี้
ยอดขายรถยนต์ Mercedes-Benz ทั่วโลกแบ่งตามภูมิภาค และประเทศ:
ยอดขายในตลาดเอเชีย-แปซิฟิก เพิ่มขึ้น 46.6 เปอร์เซ็นต์เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศจีนที่มีการส่งมอบรถยนต์ 222,520 คันในไตรมาสที่ 1 คิดเป็นการเติบโตถึง 60.1 เปอร์เซ็นต์ เฉพาะในเดือนมกราคมที่ผ่านมาสร้างสถิติยอดขายถึงเกือบ 100,000 ภายในเวลาเพียง 1 เดือน ขณะที่ในยุโรป ท่ามกลางการมาตรการล็อกดาวน์ต่อเนื่องในช่วงต้นปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถทำยอดขายได้สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วคือเพิ่มขึ้น 1.8 เปอร์เซ็นต์
ในเยอรมนี เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำยอดขาย 54,446 คัน (ลดลง 15.4 เปอร์เซ็นต์) ตลาดอเมริกาเหนือมียอดขายรวม 88,318 คัน (เพิ่มขึ้น 12.5 เปอร์เซ็นต์) ในจำนวนนี้ 78,256 คัน เป็นรถยนต์ที่ส่งมอบในตลาดสหรัฐอเมริกา (เพิ่มขึ้น 15.5 เปอร์เซ็นต์) ทำให้ครองตำแหน่งแชมป์ยอดขายสูงสุดของตลาดรถยนต์ลักชัวรี่ในไตรมาสแรกของประเทศสหรัฐอเมริกา
สรุปจำนวนยอดขายรถยนต์นั่งและรถตู้ของ Mercedes-Benz ในตลาดโลก
จำนวนยอดขายทั่วโลก 581,270 คัน เพิ่มขึ้น 21.8 เปอร์เซ็นต์ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม โดยยอดขายของรถยนต์ New S-Class ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างดีด้วยสถิติยอดจองมากกว่า 50,000 คัน นอกจากนี้การเติบโตของยอดขายของรถยนต์รุ่นต่างๆ ยังแบ่งออกได้ดังนี้ รถยนต์รุ่น S-Class เพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ SUV เพิ่มขึ้น 54.3 เปอร์เซ็นต์ รถยนต์รุ่น E-Class ทั้งแบบรถยนต์นั่ง 4 ประตู และแบบเอสเตท เพิ่มขึ้น 23.9 เปอร์เซ็นต์
ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของอัตราการเติบโตของยอดรถยนต์ส่งมอบยังแข็งแกร่งในระดับเลขสองหลัก สำหรับกลุ่มไฟฟ้าขนาดเล็กแบรนด์ Smart มียอดขายทั้งรถแบบ 2 ประตูและ 4 ประตูรวม 9,729 คัน มีอัตราการเติบโตรวมสูงถึง 65.9 เปอร์เซ็นต์จากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในเยอรมนี
จากสถานการณ์ที่หลายประเทศในยุโรปยังมีการล็อกดาวน์ กลุ่มรถตู้เพื่อการพาณิชย์มีอัตราเติบโต 18.2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ยอดขายรวมของรถตู้สปรินเตอร์ วีโต้ วีโต้ทัวเรอร์ และซีตัน มีจำนวน 76,328 คัน ในสหรัฐอเมริกา และในยุโรปทำยอดขายรถตู้เพื่อการพาณิชย์ได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในยุโรปรถตู้ไฟฟ้าสปรินเตอร์ โดยรถยนต์รุ่น eSprinter และ eVito ถือเป็นรุ่นที่ช่วยเพิ่มการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
“ยอดขายรถตู้ไฟฟ้า 1,200 คันในไตรมาสแรกนับว่าได้สร้างสถิติใหม่ของอัตราการเติบโตที่สูงถึง 150 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นการตอกย้ำเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่จะผลักดันการรถใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะเปิดตัวรถตู้รุ่นซีตัน (Citan) ใหม่ โดยจะมีรุ่นที่เป็นรถไฟฟ้าตามมาในปีหน้า นั่นหมายความว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีรถตู้ไฟฟ้าในทุกเซกเมนต์” มาร์คุส ไบรท์ชแวท หัวหน้ากลุ่มรถยนต์ตู้ แสดงความมั่นใจ
ยอดขายรถยนต์และรถตู้ของเมอร์เซเดส-เบนซ์
Q1 2021 | % เปลี่ยนแปลง | |
• เมอร์เซเดส-เบนซ์* | 581,270 | +21.8 |
• smart | 9,729 | +65.9 |
• รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ | 590,999 | +22.3 |
• รถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ (เพื่อการพาณิชย์) | 76,328 | +18.2 |
• รถยนต์และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ | 667,327 | +21.8 |
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยอดขายแบ่งตามภูมิภาคและตลาด |
||
• ยุโรป | 192,302 | +1.8 |
-ยอดขายในเยอรมนี | 54,446 | -15.4 |
• เอเชียแปซิฟิก | 291,578 | +46.6 |
-ยอดขายในประเทศจีน | 222,520 | +60.1 |
• อเมริกาเหนือ | 88,318 | +12.5 |
-ยอดขายในสหรัฐอเมริกา | 78,256 | +15.5 |
*หมายรวมถึงรถยนต์รุ่น V-Class และ X-Class
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th