mg hs มือ สอง ที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์อันงดงามcตามแบบฉบับของ MG
หากใครที่ต้องการซื้อรถยนต์สักหนึ่งคัน แต่ยังไม่มีงบมากเพียงพอที่จะซื้อมือหนึ่ง วันนี้จะมาพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ mg hs มือ สอง โดยรถยนต์ MG HS จะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับความเรียบหรูตามสไตล์ของ MG พร้อมทั้งยังมีการใส่สมรรถนะของเครื่องยนต์อันทรงพลังรวมไว้ในหนึ่งเดียว ซึ่งในรถรุ่นนี้จะมีการผลิตและการใช้งานภายใต้แนวคิด Brit Dynmic ที่จะทำให้ทั้งสมรรถนะของรถ ดีไซน์การออกแบบ การควบคุม และในด้านของความปลอดภัยอยู่ในระดับสูงสุดเลยทีเดียว อีกทั้งรถยนต์รุ่นนี้ยังเป็นรถสาย SUV ที่มีความโดดเด่นในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก โดยจะมีการออกแบบรูปลักษณ์โดยรวมผสมผสานเข้ากับความเป็นสปอร์ตที่หรูหรามาอย่างกลมกลืนเลยทีเดียว และที่สำคัญรถยนต์รุ่นนี้จะเน้นในเรื่องของความเป็น Classical British Shoulder Line ที่จะให้ทั้งความเป็นเอกลักษณ์ และความโดดเด่นได้อย่างลงตัว ทำให้ทุกความเคลื่อนไหวมีเอกลักษณ์ได้ในทุกมุมมอง
อีกทั้งรถยนต์รุ่นนี้ยังมีการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ และขับขี่ได้อย่างสบายใจ และในขณะเดียวกัน ยังสามารถขับขี่ได้ด้วยความเร็ว เพราะเครื่องยนต์จะมีสมรรถนะที่ดี ไม่ทำให้รถอืดจนเกินไป แม้ว่าจะซื้อ mg hs มือ สอง ก็ยังสามารถทำความเร็วได้อย่างเต็มรูปแบบแน่นอน ในส่วนของการเปลี่ยนเกียร์จะให้ความรู้สึกที่มีความ Smooth มากยิ่งขึ้น เมื่อมีการใช้เกียร์ต่ำ จะสามารถใช้ตัวเอนจิ้นเบรกได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ทำให้เกิดปัญหาการสะดุดบ่อย ๆ และการใช้งานของเกียร์ รวมถึงพวงมาลัยจะเป็นแบบมัลติฟังก์ชันทั้งหมด จึงทำให้เพิ่มความเท่ และสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
mg hs มือ สอง มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ 2 รูปแบบ ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้อย่างตามใจชอบ
หากใครที่ต้องการซื้อรถยนต์ mg hs มือ สอง จะต้องดูให้ดีก่อนว่า รถในรุ่นนั้น ๆ มีเครื่องยนต์รูปแบบไหน เนื่องจากรถยนต์รุ่นนี้ จะมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 เทอร์โบ ที่จะมีการเลือกใช้หัวฉีดแบบ Direct Injection รหัส SGE แบบ 4 สูบ ที่จะมีการให้พละกำลังสูงสุดถึง 169 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที และมีการให้แรงบิดสูงสุดที่ 275 นิวตัน-เมตร มีการทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ Dual Clutch 7 จังหวะ สำหรับรถยนต์รุ่นนี้จะมีสไตล์การขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ ซึ่งจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเลยทีเดียว
อีกหนึ่งเครื่องยนต์ของรถรุ่นนี้ จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 เทอร์โบ แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว TGI-TECH โดยจะมีการใช้รหัส 20L4D ในขนาด 2.0 ลิตร และจะมีการใช้หัวฉีดแบบ Direct Injection ที่จะมีการทำงานร่วมกับพลังเทอร์โบ ชาร์จ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 350 นิวตัน-เมตร พร้อมทั้งยังมีการผสานเข้ากับการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Dual Clutch 6 จังหวะ และสำหรับเครื่องยนต์ในรูปแบบนี้ จะมีการทำงานเป็นสไตล์การขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ เพราะฉะนั้นจึงถือเป็นเครื่องยนต์ที่เหมาะกับการซื้อ mg hs มือ สอง เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
mg hs มือ สอง มาพร้อมกับระบบด้านความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ
ในส่วนของระบบด้านความปลอดภัยของรถยนต์รุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์มือหนึ่ง หรือ mg hs มือ สอง จะได้รับระบบในด้านความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ โดยจะมีการเลือกใช้ช่วงล่างแบบใหม่อย่าง Euro Tuning Suspension อีกทั้งยังมีการเลือกใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบมาตรฐานสากลในยุโรปอย่าง ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ที่จะมีการติดตั้งมาให้ถึง 25 ระบบด้วยกัน โดยระบบความปลอดภัยทั้งหมด จะมีการผสมผสานการทำงานกันเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งยังมีถุงลมนิรภัยมาให้อีก 6 จุดด้วยกัน และยังมีม่านถุงลมนิรภัย ที่จะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ในรถยนต์รุ่นนี้ยังมีการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งระบบ i-Smart ที่จะถือว่าเป็นอีกระบบในการช่วยปฏิบัติการ ที่จะช่วยให้ทุกการใช้งานภายในตัวรถ มีการยกระดับให้มีความปลอดภัย และมีความสบายมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญในรถยนต์รุ่นนี้จะมีการอัปเกรดระบบ และทุกฟังก์ชันการใช้งานด้วยเทคโนโลยี AI ที่จะช่วยให้รถยนต์รุ่นนี้มีความอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น และให้รถรุ่นนี้มีความสามารถพิเศษ ที่จะช่วยให้ทุกการขับขี่ลื่นไหลมากที่สุดบนท้องถนน
จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้เลยว่า รถยนต์รุ่นนี้จะมาพร้อมกับประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะมีการซื้อรถ mg hs มือ สอง ก็ยังจะได้รับสมรรถภาพของการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในส่วนของราคาสำหรับรถยนต์มือสองของรุ่นนี้ จะอยู่ที่ประมาณหนึ่งล้านต้น ๆ ไปจนถึงหกแสนปลาย ๆ ซึ่งจะถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพงมากจนเกินไปสำหรับรถยนต์มือสอง และถึงแม้จะเป็นรถยนต์มือสอง แต่ยังมาพร้อมกับรูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยว ให้ความหรูหราได้ในทุกการใช้งาน อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการออกแบบด้านในตัวรถให้มีความกว้างขวางมากกว่าเดิม สามารถตอบโจทย์ให้แก่ผู้โดยสารด้านหลังได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้งานถึง 2 รูปแบบด้วยกัน ซึ่งจะถือว่าเป็นข้อดีอย่างมากเลยทีเดียว
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th