อารมณ์เปลี่ยนจนร้องว้าว!! กับสัมผัสแรกของ MG HS PHEV
จากที่เคยได้ทดลองขับ MG HS อยู่บ่อยครั้ง จนจำความรู้สึกในการขับได้อย่างกับเป็นรถของตัวเอง มาวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ จนต้องอุทานดังๆ ว่า “ว้าว!!” เมื่อกดคันเร่งส่งแรงบิดจากขุมพลังลูกผสมแบบ Plug-In Hybrid ทำให้ MG HS PHEV คันนี้ออกตัวอย่างว่องไวปานกามนิตหนุ่ม ผิดจากเดิมอย่างชัดเจน
โดยการทดลองขับในครั้งนี้เป็นการขับในสนาม MG Driving Experience ก่อนที่จะมีการเปิดตัวเปิดราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ เช้าวันนี้สื่อสายรถยนต์หลายสื่อจึงพร้อมใจกันร่วมทดลองขับกันอย่างสนุก แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลใดๆ ออกมาเลยสักนิดเดียว แต่ครั้งนี้ทำให้ได้สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
สำหรับภาพรวมของตัวถังยังคงเดิม มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แน่นอนว่าเพิ่มโลโก้ HS PHEV ที่มุมล้างขวาของประตูท้าย ล้ออัลลอยลายใหม่ มีจุดชาร์จไฟเพิ่มขึ้นมาที่ด้านหลังซ้ายของตัวถัง ดูไปแล้วแทบจะเหมือนเดิมทุกอย่าง
แต่สำหรับภายในห้องโดยสารรู้สึกประทับใจ ทำมาได้ดูดี ดูหรูและพรีเมียม ดูแพง ด้วยเบาะหนังแบบทูโทนสีเทาอมน้ำเงินตัดครีม รวมทั้งที่แผงคอนโซลอีกด้วย ซึ่งหุ้มด้วยวัสดุแบบ Soft Touch ให้ความนุ่มนวล และเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ให้อารมณ์ของความพรีเมียมได้อย่างดี เมื่อเลือกใช้สีภายในห้องโดยสารเป็นโทนแบบนี้ทำให้ห้องโดยสารดูโปร่งและกว้างมากขึ้น รวมทั้งหลังคาพาโนรามิกซันรูฟก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้น่านั่งอยู่ในรถคันนี้มากขึ้น สำหรับคันสีขาว ส่วนคันสีดำภายในเป็นโทนดำให้อารมณ์ดุไปอีกแบบ
ชุดคันเกียร์และปุ่มต่างๆ ทำออกมาได้หรูหราได้เรื่อง
มีจุดที่เปลี่ยนไปคือ หน้าจอแสดงผลมาตรวัดความเร็ว วัดรอบ และแสดงสถานะเป็นแบบเต็มกรอบ ให้ความคมชัดสูงมาก ชุดหัวเกียร์เปลี่ยนใหม่ เพิ่มปุ่มเกียร์ P เข้ามาแบบรถหรูฝั่งยุโรปกันเลย ซึ่งการออกแบบโซนชุดเกียร์ตรงนี้เสริมด้วยวัสดุมันวาวและกึ่งมันกึ่งด้าน ทำให้ดูหรูหราขึ้นอีกด้วยเช่นกัน พร้อมด้วยเบาะปรับด้วยไฟฟ้าทั้งสองตัวด้านหน้า ด้านหลังมีช่องแอร์หลังและช่องเสียบชาร์จ USB สองช่อง แผงประตูหุ้มหนังตรงนี้ก็ให้อารมณ์หรูหราด้วยเช่นกัน
เบาะนั่งน่าสนใจมากยังคงเป็นทรงเดิม แต่การใช้สีแบบทูโทนทำให้เบาะดูสวยขึ้น ปีกเบาะยังคงสูงรองรับช่วงลำตัวได้ดี ตรงส่วนรองรับไหล่ใช้วัสดุเป็นหนังอาคันทาร่าแบบรถซูเปอร์คาร์กันเลย
ในส่วนของการขับสรุปสั้นๆ ว่า เรื่องของน้ำหนักพวงมาลัย วงเลี้ยว ระบบช่วงล่าง การรองรับแรงสั่นสะเทือนยังคงสไตล์เดียวกับรุ่นเดิม เพียงแต่สัมผัสได้ว่ามีความแม่นยำในการเข้าโค้งมากขึ้นและช่วงล่างแข็งขึ้นเล็กน้อย แต่ที่แจ่มที่สุดคือ อัตราเร่งนี่ล่ะ จากเดิม MG HS จะเป็นสไตล์ออกตัวเนิบๆ แล้วร่อนไหลต่อเนื่อง แต่ MG HS PHEV เหมือนหนังคนละม้วน ออกตัวได้กระฉับกระเฉงฉับไวมาก กดคันเร่งแบบคิกดาวน์ทำเอาหลังติดเบาะ ร้องโอ้ววว กันทั้งคัน เพราะตะลึงกับความกระฉับกระเฉงขนาดนี้ เสียงเครื่องยนต์เข้ามาน้อยมาก ความรู้สึกในการออกตัวคล้ายกับรถไฟฟ้า แต่ถ้าอยู่นอกตัวรถ เมื่อรถออกตัวจะได้ยินเสียงมอเตอร์ไฟฟ้าชัดเจน ชัดขนาดที่กลบเสียงของเครื่องยนต์ไปเลย
นั่นทำให้ MG HS PHEV ลบจุดด้อยในเรื่องของการออกตัวได้อย่างสิ้นเชิง (แน่นอนล่ะเพราะมีมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วย) เพิ่มเติมนิดหน่อย จากที่พอรู้มา มีการปรับลดขนาดของถังน้ำมันลง แล้วแบ่งพื้นที่ให้กับแบตเตอรี่ลิเธียงไอออน ขนาด 6 โมดูล ที่สเปกทุกอย่างยังคงไม่ถูกปิดเป็นความลับจนกว่าจะมีการเปิดตัว
ลำโพงจาก BOSE อีกต่างหาก
เครื่องยนต์ดูจากนี้แล้วเป็นตัวเดิม 1.5 ลิตร เทอร์โบ พร้อมด้วยระบบ Converter แปลงกระแสไฟฟ้าสู่แบตฯ ลิเธียม แต่สเปคแรงม้า แรงบิด จะเป็นอย่างไร จะเหมือนกับที่ขายในจีนหรือที่ขายในยุโรปต้องมารอลุ้นกัน
เอาเป็นว่าสัมผัสแรกกับ MG HS PHEV คันนี้ บอกเลยว่าเป็นการอัพเกรดของที่น่าใช้ ให้ดีขึ้นไปอีกขั้น โดยเฉพาะการขับขี่ที่สนุกสนานมากกว่าเดิมเยอะมาก มีความหรูหรามากขึ้น แต่ต้องมารอลุ้นกันว่าจะมีราคาเปิดตัวมาที่เท่าไหร่ เพราะ MG มักจะมีเซอร์ไพรส์เรื่องราคากันอยู่เสมอ และนี่จะเป็นรถตลาดที่เป็น Plug-In Hybrid ในราคาที่ต่ำที่สุดในกลุ่มหรือไม่ ต้องติดตามพร้อมกัน วันที่ 27 ตุลาคมนี้..รู้เรื่อง!!
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th