mg hs ราคา คุ้มค่าที่สุดในบรรดารถกลุ่มรุ่นรถ SUV ในประเทศไทย
หากเรากำลังมองหารถยนต์แบบ SUV ตามท้องตลอด เราก็มักจะนึกถึงรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับจำนวนที่โดยสารได้เยอะ หรือสามารถขนของได้จำนวนมากแต่ไม่ดูใหญ่จนเกินไปจนกลายเป็นรถหกล้อหรือรถตู้ ซึ่งเมื่อเรามองไปที่ตลอดรถยนต์ของประเทศไทยในปัจจุบันก็มักจะเจอกับรถประเภทที่กล่าวมานี้จำนวนมาก แต่บ่อยครั้งก็มักจะเจอกับปัญหาเฉพาะของแต่ละรุ่นที่ไม่คุ้มค่ากับผู้ใช้งานจริงเสียเลย สำหรับในครั้งนี้เราจึงจะมาแนะนำรถยนต์แบบ SUV อย่าง mg hs ราคา ที่คุ้มค่าที่สุดของไทยในปัจจุบันนี้กันว่าเป็นอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มเนื้อหาสาระสำคัญในครั้งนี้กันได้เลย
mg hs ราคา นี้ดีไซน์โดน ๆ
โดยปกติแล้วพื้นฐานสำคัญที่รถ SUV ของแบรนด์ MG มีนั้น จะมีลักษณะดีไซน์รถทรงโค้งสวยสะดุดตา ด้วยมุมโค้งมนประสานกับเหลี่ยมนูนรอบรถได้อย่างลงตัว แม้จะเป็นรถคันใหญ่แต่ถือได้ว่าสร้างเอกลักษณ์ได้ดูโดดเด่นคล้ายรถหรูทรงสปอร์ตดี ๆ เลยทีเดียว พื้นที่โดยรอบรถมีความยาวอยู่ที่ 4.575 เมตร ส่วนความกว้างอยู่ที่ 2.720 เมตร และความสูงของตัวรถอยู่ที่ 1.664 เมตร สำหรับน้ำหนักรถอยู่ที่ 1,557 กิโลกรัม ทางนักออกแบบได้มีการใส่ดีไซน์กระจังหน้ารถแบบ Diamond Grille เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่น ๆ ของ Mercedes Benz ในปัจจุบัน ถ้าหากเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ในหมู่รถยนต์ SUV ก็จะมีความคล้ายคลึงกับ MG รุ่น ZS อีกด้วย อีกทั้งวัสดุที่ใช้ภายในห้องโดยสารเป็นแบบเพอร์ฟอร์แมนซ์คาร์ด้วยวัสดุแบบซอฟท์ทัช คุณจึงสัมผัสได้กับความนุ่มสบายที่หรูหราและเต็มไปด้วยรายละเอียดที่แสนจะใส่ใจผู้ใช้งาน จึงสรุปได้ว่า mg hs ราคา นี้มีดีไซน์ที่คุ้มค่าโดนใจผู้ใช้งานจริงที่สุดในตอนนี้แล้ว
mg hs ราคา คุ้ม ๆ กับขุมพลังตามความชอบ
สำหรับ mg hs ราคา คุ้ม ๆ ในปัจจุบันนี้ได้เปิดตัวด้วยขุมพลังสองแบบด้วยกัน ทำให้คุณสามารถเลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ด้วยระบบพลังงานดังต่อไปนี้
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 เทอร์โบ
สำหรับขุมพลังนี้จะเป็นเครื่องยนต์หัวฉีด Direct injection แบบ 4 สูบ โดยใช้รหัสเครื่องยนต์ว่า SGE มีพลังสูงสุดอยู่ที่ 169 และมีแรงม้าอยู่ที่ 5,600 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงถึง 275 นิวตัน-เมตร อีกทั้งทางด้านระบบเกียร์ใช้เป็นแบบออโต้ หรือเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 จังหวะ ทำให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ขับเคลื่อนเช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 เทอร์โบ
สำหรับขุมพลังนี้จะเป็นเครื่องยนต์หัวฉีด Direct injection แบบ 4 สูบ 16 วาล์วด้วย TGI-TECH โดยใช้รหัสเครื่องยนต์ว่า 20L4D ประสานพลังขับเคลื่อนร่วมกับระบบ Turbo charge ทำให้มีพลังสูงสุดอยู่ที่ 218 และมีแรงม้าอยู่ที่ 5,500 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงถึง 350 นิวตัน-เมตร อีกทั้งทางด้านระบบเกียร์ใช้เป็นแบบออโต้ หรือเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 6 จังหวะ ทำให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ขับเคลื่อนเช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ
คุณสมบัติอื่นของ mg hs ราคา เริ่มต้น ราคากลาง และราคาสูงสุด
สำหรับคุณสมบัติอื่น ๆ หรือฟังก์ชันเสริมของ mg hs ราคา แต่ละซีรีส์นั้นจะถูกแบ่งเป็น mg hs รุ่น C, D และ X ส่วนราคาเริ่มต้นจนถึงสูงสุดจะเป็น C, D และ X ตามลำดับเช่นกัน ซึ่งคุณจะได้ความคุ้มค่าในแต่ละรุ่นดังต่อไปนี้
- mg hs ราคา เริ่มต้น รุ่น C
สำหรับราคาเริ่มต้นของ mg hs รุ่น C นี้มีคุณสมบัติและฟังก์ชันที่มีให้มากับตัวรถคือ ระบบปรับอากาศ, ถุงลมนิรภัยคนขับ, ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง, ม่านถุงลมนิรภัย, ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบควบคุมการทรงตัว (VSA), ระบบป้องกันการไหลของรถ (HSA), สัญญาณเตือน, ประตูล็อกไฟฟ้า, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ, จุดยึดคาร์ซีท (ISOFIX), ระบบเตือนการออกนอกเลนส์, ระบบ Keyless Entry, ปุ่ม Push Start, การเชื่อมต่อ (Connectivity) ระบบเชื่อมต่อด้วย Bluetooth และ USB, พวงมาลัยเพาเวอร์ และ กระจกไฟฟ้า
- mg hs ราคา กลาง รุ่น D
สำหรับราคากลางของ mg hs รุ่น D นี้มีคุณสมบัติและฟังก์ชันที่มีให้มากับตัวรถที่มากกว่ารุ่น C คือ ระบบ Cruise Control, ระบบให้ความบันเทิง หน้าจอ ขนาด 7 นิ้ว, ชั้นวางของบนหลังคาและ ที่นั่งปรับไฟฟ้า
- mg hs ราคา สูงสุด รุ่น X
สำหรับราคากลางของ mg hs รุ่น X นี้มีคุณสมบัติและฟังก์ชันที่มีให้มากับตัวรถที่มากกว่ารุ่น C และ D คือ ระบบเตือนมุมบอด, เซนเซอร์หน้า, เซนเซอร์หลัง, ระบบการนำทาง (Navigation), ซันรูฟ (Sunroof), ระบบตรวจสอบความดันยาง, ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า
นอกจาก MG HS ทั้งสามรุ่นนี้จะมีราคาและคุณสมบัติที่ต่างกันแล้ว ตัวรถยังมาพร้อมกับระบบ i-smart ที่จะคอยควบคุมเซนเซอร์อัจฉริยะทุกระบบให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังคอยปรับสมดุลให้ตัวรถขับขี่ได้อย่างลื่นไหลและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ mg hs ราคา เปิดตัวในไทยตั้งแต่ 919,000 – 1,119,000 บาท กลายเป็นรถ SUV ที่คุ้มค่าที่สุดในยุคนี้เลยทีเดียว
ส่วนในเรื่องสีตัวรถมีให้เลือก 4 สีด้วยกันได้แก่ Scarlet Red, Arctic White, Black Knight และ Silver Metallic ถูกเปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 2018 พร้อมที่นั่งอัจฉริยะ 5 ที่นั่ง จากเนื้อหาทั้งหมดนี้คุณจึงจะได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มสบายในการขับเคลื่อนทุกจังหวะ ไม่ว่าจะเป็นทางลาด ทางตรง หรือทางโค้ง ก็ผ่านไปได้อย่างง่ายดายและนุ่มนวล จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้รุ่นใหญ่อย่าง SUV รุ่น MG HS นี้คุ้มค่าคุ้มราคานั่นเอง
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th