สวมบทบู๊! MG เตรียมเปิดกระบะ, รถยนต์ไฟฟ้ามาแน่-ตั้งเป้ายอดขาย 50,000 คัน
เอ็มจี แบรนด์รถลูกผสมอังกฤษ-จีน คอนเฟิร์มแผนเปิดตัวรถกระบะขายในประเทศไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2562 พร้อมส่งอีก 1 โมเดลบุกเซกเม้นต์ใหม่ ตั้งเป้าโกยยอดขาย 50,000 คัน ขยายโชว์รูม 140 แห่งรองรับ เล็งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขายตัดหน้าค่ายใหญ่หวังพลิกเกมเป็นผู้นำเทคโนโลยีใหม่
คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับทีมงาน Gran Prix Online ถึงความสำเร็จของเอ็มจี ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาว่า “ในปีนี้เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย กำลังก้าวสู่ปีที่ 5 และในเดือนมกราคมนี้เราจะมียอดขายสะสมถึง 50,000 คัน ถือเป็นหลักชัยแรกของบริษัท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกค้าชาวไทยให้การตอบรับรถยนต์เอ็มจี เป็นอย่างดี”
หากนับเฉพาะปี 2561 เอ็มจี เพิ่งประกาศตัวเลขยอดขายอย่างเป็นทางการออกมาอยู่ที่ 23,740 คัน เติบโตขึ้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์หากเทียบกับปีก่อนหน้านี้ จากความสำเร็จของซับคอมแพ็กต์เอสยูวี MG ZS ที่มียอดขายคิดเป็นสัดส่วน 60 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย MG3 แฮตช์แบ็กยอดนิยมที่มีการปรับโฉมใหม่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนยอดขาย 25 เปอร์เซ็นต์
ตัวเลขความสำเร็จในปี 2561 และแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศไทยที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณพงษ์ศักดิ์ กล้าที่จะตั้งเป้าหมายว่ายอดขายของเอ็มจี จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในปีนี้ “ผมเชื่อว่าปีนี้เราจะทำยอดขาย 50,000 คัน โดยคาดว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะเติบโตขึ้น 5-10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ยอดขายรวมอยู่ที่ 1,100,000 คัน โดยมีปัจจัยสำคัญจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมทั้งในส่วนของการผลิต, ธุรกิจขนส่ง และเกษตรกรรม ประกอบกับจะมีรถยนต์ใหม่หลายรุ่นเปิดตัวในปีนี้ก็จะช่วยผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้น”
หน้าตาของ Maxus T60 ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นกระบะใหม่ภายใต้แบรนด์ MG
การจะมียอดขายระดับ 50,000 คัน ไลน์อัพที่มีอยู่ในปัจจุบันคงไม่เพียงพอ หลายคนคงอยากรู้ว่าในปีนี้เอ็มจี มีแผนจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในประเทศไทยหรือไม่ “มีครับ” คุณพงษ์ศักดิ์ ตอบทันที “คิดว่าจะมีไม่น้อยกว่า 2 รุ่น เอาเป็นว่าเอ็มจี จะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ (All-new) และอีกรุ่นถึงแม้จะเป็นการปรับโฉม (ไมเนอร์เชนจ์) แต่ก็จะเข้าเซกเม้นต์ใหม่ ต้องรอติดตามกัน”
1 ในโมเดลใหม่ของเอ็มจี จะเป็นรถกระบะที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นการนำ Maxus T60 แบรนด์ร่วมเครือมาอัพเกรดแปะโลโก้ MG โดยคุณพงษ์ศักดิ์ พูดถึงการบุกเซกเม้นต์ที่มีโตโยต้า และอีซูซุ ครองตลาดแบบผูกขาดมานานนับสิบปีว่า “การเปิดตัวรถกระบะจะเป็นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยการทำตลาดรถกระบะต้องใช้เวลาพอสมควร สำหรับจะเป็นโมเดลอะไรนั้น การที่เอ็มจี อยู่ภายใต้เครือเอสเอไอซี (SAIC) ที่มีหลายแบรนด์รถยนต์ภายใต้การบริหาร เราสามารถหยิบยืมโมเดลอื่นของบริษัทในเครือเพื่อนำมาขายที่ประเทศไทยภายใต้แบรนด์ MG”
คำพูดของผู้บริหารมากประสบการณ์ บอกเป็นนัยถึงการเตรียมลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หลังจากมีการนำเอสยูวีไฟฟ้า Roewe ERX5 อีก 1 ในแบรนด์ร่วมเครือเอสเอไอซี เข้ามาทดลองวิ่งอยู่บนถนนเมืองไทยพักใหญ่แล้ว และพวกเขาก็เพิ่งยื่นขอสนับสนุนการลงทุนทั้งในส่วนของปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
Roewe ERX5 (บน) และ MG ZS Pure Electric Vehicle (ล่าง) 2 ตัวเต็งรถยนต์ไฟฟ้าที่อาจจะมาผลิตในเมืองไทย
“ทางเอ็มจี มีการยื่นขอสนับสนุนการลงทุนจากบีโอไอ ทั้งในส่วนของปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า โดยเป็นการยื่นขอสนับสนุนแยกกัน โครงการเหล่านี้ต้องใช้เวลาพอสมควร ความจริงโมเดลรถยนต์ไฟฟ้า และปลั๊ก-อิน ไฮบริด มีอยู่ในเครือเอสเอไอซี อยู่แล้ว ตอนนี้เป็นช่วงประเมินความคุ้มค่าของโครงการ”
“การที่เรายื่นใบสมัครกับทางบีโอไอ เพราะว่ามีตัวเลือกหลายรุ่น และตามศักยภาพที่มีอยู่ ถ้าไม่ติดขัดอะไรเอ็มจี พร้อมจะทำ เพื่อเป็นผู้นำเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนรถที่นำเข้ามาทดสอบเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ เป็นเทคโนโลยีที่สามารถถ่ายทอดสู่โรงงานผลิตที่ประเทศไทย แต่รถคันนี้เรานำมาทดสอบเท่านั้น ไม่มีความชัดเจนว่าจะเรียกเป็นโมเดลใหม่ได้”
ทำให้อีกความเป็นไปได้ของแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มจี อาจเป็นการอัพเกรด MG ZS ที่ขายดีอยู่แล้วให้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ หลังจากเพิ่งเปิดตัว MG ZS Pure Electric Vehicle ที่งานแสดงรถยนต์กวางตุ้ง ออโต้โมบิล เอ็กซิบิชั่น เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสามารถวิ่งได้ไกลถึง 428 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยมีกำหนดการขายที่อังกฤษ และประเทศอื่นๆ ภายในปี 2019
สุดท้ายคุณพงษ์ศักดิ์ พูดถึงแผนการขยายโชว์รูม-ศูนย์บริการเพื่อรองรับลูกค้าเอ็มจี ในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นว่า “เราวางแผนจะเปิดโชว์รูมให้ครบ 140 แห่งภายในปี 2562 จากที่ตอนนี้เรามีอยู่ 104 แห่ง และกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 30 แห่ง เท่ากับว่าจะเพิ่มอีกประมาณ 10 แห่งเท่านั้น โดยจะครอบคลุมพื้นที่ 66 จังหวัด ขาดเพียงแค่จังหวัดเล็กๆ เช่น พังงา, แม่ฮ่องสอน และตราด ความจริงเราอยากให้ครอบคลุมทุกจังหวัด ถ้ามีคนสนใจจะเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายเราก็ยินดีเสมอ”
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย)
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th