MG5 Electric ปรับโฉมหน้าใหม่ทันสมัยและอเนกประสงค์ขึ้น
MG ได้ทำการปรับโฉมให้กับรถสเตชันแวกอนไฟฟ้า MG5 Electric ที่ยุโรปหรือที่ขายในประเทศไทยด้วยชื่อ MG EP โดยรถรุ่นใหม่มาพร้อมกับภายนอกที่สดใหม่และทันสมัยขึ้นกว่าก่อนหน้าอย่างชัดเจน รวมทั้งย้งถูกเพิ่มอุปกรร์มาตรฐานใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งทาง MG จะนำรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ไปเปิดตัวที่งาน Goodwood Festival of Speed
MG5 Electric ใหม่ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการปรับโฉมตาม Rowe Ei5 รถในเครือเดียวกันที่ทาง MG นำมาติดแบรนด์ของตนขายซึ่งปรับโฉมไปเมื่อปีที่แล้ว มาพร้อมกับด้านหน้าที่แตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างชัดเจน โดยกระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมกับแถบโครเมียมแนวนอนหายไป เปลี่ยนมาเป็นกระจังหน้าแบบปิดในสไตล์รถไฟฟ้าพร้อมแถบสีดำด้านบนแทน นอกจากนีรถสเตชันแวกอนไฟฟ้ายังมาพร้อมกับไฟหน้าใหม่ที่มีความเรียวเล็กลงกว่าก่อน และมีกันชนหน้าใหม่พร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น รวมทั้งยังย้ายโลโก้ MG จากที่กระจังหน้าไปอยู่บนฝากระโปรงรถแทน ส่วนช่องชาร์จไฟยังคงอยู่ที่กระจังหน้าเหมือนเดิม
ในส่วนด้านข้างของ MG5 Electric ใหม่ยังคงมาพร้อมกับเส้นสายไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนปรับโฉมแต่มีล้อลายก้านวีปัดเงาลายใหม่เพิ่มความสดให้กับรถ ส่วนด้านหลังของรถแม้จะยังคงมีไฟท้ายทรงเดิมแต่มีการปรับแตกต่างไปจากรุ่นก่อนหน้าด้วยการมีกราฟฟิกไฟใหม่ที่ทันสมัยขึ้น รวมทั้งแถบโครเมียมระหว่างไฟท้ายของรถรุ่นใหม่ไม่ยาวล้ำเข้าไปในไฟท้ายเหมือนรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้รถสเตชันแวกอนไฟฟ้ารุ่นใหม่ยังได้รับการเปลี่ยนกันชนหลังใหม่ โดยที่ยังคงมาพร้อมกับรูฟเรลบนหลังคาและสปอยเลอร์ปลายหลังคาเหมือนเดิม
ส่วนในห้องโดยสารของรถก็มีการออกแบบแผงแดชบอร์ดใหม่เพิ่มความทันสมัยเช่นเดียวกับภายนอกของรถ โดยรถรุ่นใหม่มาพร้อมกับจอระบบ Infotainment แบบลอยตัวขนาด 10.25 นิ้วจากที่ในรุ่นก่อนเป็นจอขนาด 8 นิ้ว รวมทั้งยังมีการอัพเดตซอฟต์แวร์ที่รองรับบริการเชื่อมต่อของรถใหม่เป็น MG iSMART Lite นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Vehicle-To-Load หรือ V2L ซึ่งทำให้สามารถชาร์จไฟเพื่อให้พลังงานกับอุปกรณ์ภายนอกอย่างจักรยานไฟฟ้าหรืออุปกรณ์สำหรับการตั้งแคมป์ได้จากแบตเตอรีของรถ
MG5 Electric ใหม่มี 2 เกรดให้เลือกในยุโรปคือ Standard Range ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี 50.3 kWh ให้ระยะการเดินทาง 320 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ส่วนกำลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร และเกรด Long Range มาพร้อมแบตเตอรี 61.1 kWh ให้ระยะการเดินทาง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ แต่มอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังขับเคลื่อนน้อยกว่าเกรด Standard Range เหลือ 156 แรงม้าขณะที่แรงบิดสูงสุดยังเท่าเดิม ส่วนความเร็วสูงสุดของรถอยู่ที่ 185 กม./ชม. ทั้ง 2 เกรด
MG5 Electric ใหม่ทั้ง 2 เกรดมาพร้อมกับระบบชาร์จออนบอร์ดไฟกระแสสลับ 11 kW และสามารถชาร์จไฟแบบเร็วกับไฟกระแสตรงได้ตั้งแต่ 5-80 เปอร์เซ็นต์โดยใช้เวลา 40 นาที ทาง MG ระบุว่ารถสเตชันแวกอนไฟฟ้ารุ่นใหม่มี 4 สีให้เลือกในยุโรป แต่ยังไม่ระบุถึงช่วงเวลาที่จะเริ่มขายและราคารถออกมา