Mini ทำรุ่นพิเศษผลิตจำกัดในชื่อ Cooper Brick Lane Edition สำหรับตลาดญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการนำเอาชื่อถนนที่มีชื่อเสียงด้านกราฟฟิติในอีสต์ลอนดอนมาตั้งเป็นชื่อรุ่นที่ถูกแต่งเพิ่มสไตล์โดดเด่นทั้งภายนอกและภายในของรถจากรุ่นทั่วไป โดยที่มีให้เลือก 3 ตัวถังคือ Mini Cooper 3 ประตู Mini Cooper D 5 ประตู และ Mini Cooper D Clubman

ทุกตัวถังของรถที่เป็นรุ่นพิเศษ Mini Brick Lane Edition จะถูกแต่งภายนอกด้วยสติ๊กเกอร์ลายพิเศษทั้งบนฝากระโปรงหน้าและด้านข้างรถซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากอาคารอิฐซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Brick Lane นอกจากนี้ยังมีสติ๊กเกอร์ตัว B ที่เสาของรถ รวมถึงแผ่นป้าย Brick Lane ที่บริเวณซุ้มล้อหน้า และปิดท้ายความพิเศษภายนอกด้วยล้อสีดำที่มาพร้อมกับจุกล้อ Floating Hubcap ที่จะทำให้โลโก้ Mini ตั้งตรงอยู่เสมอเมื่อจอดรถ

ส่วนภายในห้องโดยสารของ Brick Lane Edition มากับอุปกรณ์เพิ่มความพิเศษอย่างคิ้วบันไดระบุชื่อรุ่นพิเศษ รวมทั้งมีพรมปูพื้นเฉพาะรุ่น และแต่งแผงแดชบอร์ดด้วยชื่อรุ่น Brick Lane สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ทั้งภายนอกและภายในที่มาพร้อมกับรถมีไฟ Full LED ล้ออัลลอยขนาด 17 หรือ 18 นิ้ว เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์พร้อมปรับความอุ่นได้ กล้องมองหลัง รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันพร้อมการทำงาน Stop & Go

ในส่วนของ Mini Cooper Brick Lane Edition 3 ประตูมี 3 สีภายนอกให้เลือกคือสีขาว สีเงิน และสีเมทัลลิก เครื่องยนต์มีกำลังขับเคลื่อน 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ใช้เกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีดส่งกำลัง มีการผลิตจำกัด 180 คันและตั้งราคาไว้ที่คันละ 4,330,000 เยนหรือประมาณ 1,240,000 บาท สำหรับ Mini Cooper D Brick Lane Edition 5 ประตูมีให้เลือก 2 สีระหว่างสีเทา Moonwalk Grey Metallic และสีขาว White Silver Metallic เครื่องยนต์มีกำลังขับเคลื่อน 116 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ใช้เกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีดส่งกำลัง การผลิตจำกัดที่ 300 คัน พร้อมกับตั้งราคาไว้ที่ 4,630,000 เยนหรือประมาณ 1,320,000 บาท

ปิดท้ายด้วย Mini Cooper D Clubman Brick Lane Edition มีเฉพาะตัวรถสีดำ Mini Yours Enigmatic Black Metallic เท่านั้น เครื่องยนต์มีกำลังขับเคลื่อน 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดส่งกำลัง และตั้งราคาไว้ที่ 4,810,000 เยนหรือประมาณ 1,374,000 บาท สำหรับการผลิตจำกัดไว้ที่ 180 คัน