ช่วงปี 1969 Mini 1275 GT ได้ถูกผลิตออกมาจำหน่ายไปพร้อมกับ Mini Cooper S โดยชื่อรุ่นมาจากความจุ 1,275 ซีซีของเครื่องยนต์ ซึ่งมีกำลัง 60 แรงม้า สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 13.5 วินาทีและทำความเร็วสูงสุด 140 กม./ชม. ซึ่งเป็นรถที่มีสมรรถนะโดดเด่นในขณะนั้นและถูกใช้ในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตหลายรายการในช่วงทศวรรษที่ 1970 ด้วยแรงบันดาลใจจากรถที่มีบทบาทในมอเตอร์สปอร์ตรุ่นนี้ Mini ฝรั่งเศสจึงทำ Mini Cooper S GT Edition ออกมาเป็นพิเศษในจำนวนจำกัด โดยใช้ Mini Cooper S สามประตูเป็นพื้นฐานในการถ่ายทอดความพิเศษและความสปอร์ตของ 1275 GT

เพื่อระลึกถึงรถรุ่นดังในอดีต Cooper S GT ที่ถูกผลิตจำกัด  150 คันได้ถูกแต่งทั้งภายนอกและภายในใหม่หลายส่วน เริ่มที่ภายนอกใช้สีดำ Midnight Black Metalic กับตัวรถพร้อมกับมีแถบสีเทาและแดงพาดกลางฝากระโปรงหน้า ด้านหลัง และด้านข้างของตัวรถ โดยที่ด้านข้างเน้นย้ำถึงรุ่น GT 1275 ด้วยตัวอักษร GT พร้อมกับเสริมความเด่นด้วยการใช้สีแดงทั้งที่สปอยเลอร์ กระจกมองข้าง เสาอากาศ Shark Fin ช่องรับอากาศใต้กระจังหน้า รวมทั้งหลังคา โดยใช้สีดำ Piano Black กับส่วนกรอบกระจังหน้า ไฟหน้า ไฟท้าย และที่เปิดประตูแทนโครเมียม  นอกจากนี้ยังเพิ่มไฟขนาดเล็กที่กระจังหน้ารถในไสตล์รถแข่งแรลลีของ Mini และเปลี่ยนไฟเลี้ยงเป็นสีขาวเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ขณะที่ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วแบบ Spacecraft ของ John Cooper Works รวมไปถึงชุดแอโรไดนามิกคิตจาก John Coopers Works ด้วย

ภายในของรถให้ผู้ขับซึมซับความเป็นรุ่น GT ตั้งแต่เปิดประตูด้วยการฉายโลโก้ GT ที่พื้นเมื่อเปิดประตู นอกเหนือไปจากภายในรถที่ตัวหนังสือ GT ที่ฐานประตู และ GT Limited Edition แบบสามมิติบนแผงแดชบอร์ดฝั่งผู้โดยสาร  ส่วนเบาะหน้าเป็นหนังผสม Dinamica ของ John Cooper Works เช่นเดียวพวงมาลัยหุ้มหนัง และอุปกรณ์มาตรฐานอื่นภายในห้องโดยสารจากรุ่น Cooper S ไม่ว่าจะเป็นหลังคาซันรูฟ Panoramic, จอทัชสกรีนขนาด 6.5 นิ้ว ระบบปรับอากาศสองโซน โดยภายในห้องโดยสารเน้นการใช้สีดำเป็นหลักพร้อมกับแทรกด้วยสีแดงทั้งที่เบาะ พวงมาลัย และรอบจอ LCD ตรงกลาง เช่นเดียวกับสีภายนอกตัวรถ

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th