MINI COUNTRY MAN COOPER S – HIGH TRIM แรงมากขึ้น เร้าใจกว่าที่เคย พร้อมออปชั่นใหม่ตอบโจทย์การใช้งาน
การกลับมาของร่างใหม่ “คันทรีแมน” หนึ่งในคอมแพคแฮชแบคแสนสนุก ผลงานที่เปลี่ยนภาพ “มินิ” เมื่อ 7 ปีก่อน จากรถเล็กแสนน่ารักกลายมาเป็นนักกล้ามกลัดมัน กับเจนเนเรชั่นที่สอง “มาดแมนขึ้น แข็งแกร่งขึ้น” เพื่อต้อนรับหน้าร้อนนี้มินิสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับกลุ่มมินิเลิฟเว่อร์อีกครั้ง หนนี้ไม่ได้มีดีแค่บอดี้ใหม่ใหญ่กว่าเดิมแต่เสริมด้วยความสามารถที่มากขึ้น ช่วยเปลี่ยนการเดินทางบนถนนให้เป็นเรื่องสนุก
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มินิ ประเทศไทย นำรถรุ่นนี้ออกโชว์ตัวเป็นครั้งแรกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 พร้อมกับจำหน่ายในภูมิประเทศต่างๆ ด้วยเช่นกัน ส่วนในไทยเป็นเวอร์ชั่นประกอบในประเทศ มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น Mini Cooper Country man เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า จำหน่ายราคา 2.339 ล้านบาท และในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด กับสองทางเลือกในแบบ Mini Cooper S Country Man ราคา 2.699 ล้านบาท และ Mini Cooper Country Man High Trim ราคา 2.99 ล้านบาท ซึ่งตัวที่เรานำมาแนะนำกันคือรุ่นท๊อปสุดกับออปชั่นที่จัดเต็ม
มินิ คันทรีแมน เวอร์ชั่นใหม่ มาพร้อมภาพลักษณ์สองบุคคลิก ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเดินทางในชีวิตประจำวันตอบโจทย์ชีวิตในเมือง และวันพักผ่อนได้อย่างลงตัว พร้อมรองรับภูมิประเทศที่สมบุกสมบันได้มากขึ้น ลุยได้มากกว่า “มินิ” รุ่นไหนๆ ถามหาคู่แข่งแน่นอนว่ามันคือเจ้า ออดี้ คิว 3 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ ซึ่งไม่ได้มีแฟนคลับที่รักมากเหมือนจิ๊วจี๊ดทรงพลังที่บมเพาะกล้อมเนื้อมัดใหม่มาอย่างดี อะไรที่ทำให้คนหันมาเล่นรถพรีเมี่ยมคอมแพค 5 ประตูยกสูง เพราะความสะดวกสบายที่ได้รับมากกว่า ถ้าคุณเคยขับรถซีดาน 4 ประตูมาแล้ว เชื่อว่าหลายคนมองคันต่อไปที่ตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น เช่นกันกับแบรนด์มินิที่เติมเต็มโปรดักซ์ไลน์ให้ลูกค้าเลือก จะเพื่อนมาก ครอบครัวใหญ่ “คันทรีแมน” คือคำตอบถ้าคุณมีใจให้มินิแล้ว วันนี้เราจะพามารู้จักไอเทมใหม่ “ระดับเลิฟแมชชีน” ที่ต้องให้คอนเซ็ปนี้ เพราะมันคือแม่เหล็กดึงดูดผู้คนให้หันมามอง!!!
อยากไปนั่งจับพวงมาลัย “คันทรีแมน” ต้องมีงบประมาณเท่าไร เพียงแค่ 2-3 ล้านบาท คุณก็ได้เป็นเจ้าของมัน หลายคนฝันถึงรถมินิ เพราะเสน่ห์อันเย้ายวนของดีไซน์ ค๊อกพิทที่เหมือนห้องนักบินขนาดย่อม รายละเอียดที่มีเอกลักษณ์สไตล์มินิ แต่ที่จัดว่าคลาสิคคือการสืบทอดดีเอ็นเอมาจากรุ่นสู่รุ่น จะวัยเก๋าหรือน้องใหม่ มินิ ใช้คงใช้เส้นสายสัดส่วนบอดี้เฉพาะตัวได้อย่างกลมกลืน มันดูเล่อค่าน่าสะสม แน่ละมันยากเอื้อมถึงสำหรับมนุษย์เงินเดือนทั่วไป แต่มันกลับเหมาะสำหรับคนกระเป๋าหนักที่อยากสัมผัสความเป็นม้าศึกเยอรมันที่สืบสายเลือกจากอังกฤษ รถที่มีขนาดน่ารัก ให้ความคล่องตัวสูงไม่แพ้ซูเปอร์คาร์หน้าไหน ม้าอิตาลีจะเจ๋งได้ขนาดไหนบนถนนในไทย รับรองว่าแพ้ทางให้ “คันทรีแมนหมด” มันยิ่งกว่าของแสลง ด้วยความสูงกว่ารถคอมแพคคาร์ทั่วไป ช่วงล่างแน่นๆ หนึบมั่นใจได้ สัดส่วนที่คล่องตัวให้คุณซอกแซกไปตามช่องจราจรบนถนนที่หนาแน่นได้ดีกว่ารถแบบอื่น และเหนือสิ่งอื่นใดจะนำมันถ่ายภาพกับใครกับวิวแบบไหน “แม่งโครตลงตัว”
วันนี้เราเดินทางในทีม ‘ADD STORIES’ กับ มินิ ประเทศไทย เพื่อร่วมสนุกไปกับการเก็บภาพประทับใจและเรื่องราวดีๆ ในเส้นทางกรุงเทพฯ-ปราณบุรี เป้าหมายของเราคือพาสมาชิกไปเอ้าติ้งที่ริมอ่างเก็บน้ำที่ขึ้นชื่อว่าวิวสวยชนิดหยุดลมหายใจ แค่ไม่กี่นาทีก่อนออกเดินทางเมโมรี่กล้องแทบเต็มซะแล้ว เพราะสมาชิกในการเดินทางหนนี้ต่างสนุกกับการถ่ายรูป หน้าตาใหม่ของ คันทรีแมน มันปังมากขึ้นแต่ทั้งนี้ระหว่างตัว Cooper และ Cooper S ก็มีจุดแตกต่างที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า ล้อแม็กซ์ หรือท่อไอเสียแบบคู่ในรุ่นท๊อปสุด มินิ ทั้ง 6 คัน ที่ร่วมเดินทางในทริ๊ปนี้ รวมทั้งรถทีมงานของ Mini ต่างวิ่งอวดโฉมฝ่าการจราจรวันจันทร์อันแสนโหดร้ายได้คล่องตัวชะมัด ระหว่างทางได้สร้างความคุ้นเคยกับสิ่งใหม่แปลกตาเมื่อหน้าจอทรงกลมที่เคยแสดงความเร็ว และรอบเครื่องยนต์ ถูกย้ายกลับมาประจำการในตำแหน่งปรกติเหนือพวงมาลัย แถมมีลูกเล่นใหม่ๆ
ส่วนกลางคอนโซนมาตรวัดเดิมกลายเป็นหน้าจอระบบอินโฟเทเม้นขนาดใหญ่แบบทัชสกรีนขนาด 8.8 นิ้ว คมชัดเป๊ะทุกรายละเอียด ควบคุมเครื่องเสียง สื่อพกพาต่างๆ มีระบบนำทางเนวิเตอร์มาให้ สามารถควบคุมผ่านปุ่ม i-Drive เหมือนของ BMW ที่อยู่ติดกับตำแหน่งเกียร์ ใช้มือหมุนปุ่มเลือกเมนู หรือกดเลือก Soure ต่างๆ เชื่อมต่อโทรศัพท์ได้ แถมยังคงฟังก์ชั่นของ Mini Connected ที่เสมือนผู้ช่วยส่วนตัว แสดงพิกัดของรถ และข้อมูลต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน และระบบ Mini Country Timer ช่วยตรวจจับและแสดงข้อมูลขณะขับขี่บนพื้นถนนที่ถ้าทาย พร้อมรองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB (ช่องเดียว) และ AUX ถ้าคุณเป็นนักฟังเพลงตัวยงเครื่องเสียง Harman Kordon เซ็ตนี้เสนาะหู เสริมด้วยลูกเล่นอย่างไฟสีสันรอบๆ มาตรวัด ปลุกความเป็นเด็กในตัวคุณได้อย่างดี แน่ละเราคุ้นกันดีกับปุ่มควบคุมระบบต่างๆ สไตล์ค๊อกพิตนักบินกันมาแล้วตั้งแต่มันมาอยู่ในมือของนักออกแบบเยอรมัน “แม่งโคตรเท่ห์” จะไปหารถแบบนี้ได้ที่ไหนถ้าไม่ใช่มินิ
ระหว่างทางทำความคุ้นชิน กับมิติรถที่เพิ่มขนาดขึ้นจากรุ่นก่อน ฐานล้อที่ยางขึ้น ทำให้มีพื้นที่ภายในสะดวกสบายยิ่งขึ้น เบาะที่นั่งขนาดใหญ่นุ่มกระชับไม่แข็งมากนั่งสบายๆ ในตำแหน่งคนขับ ส่วนด้านหลังมีพื้นที่มากพอให้สะดวกสบาย ทั้ง Leg Room และ Head Room ไม่มีอึดอัดนั่งไปต่างจังหวัดได้สบายๆ จะติดตรงที่องศาเบาะหลังปรับเอนที่สเต๊ปไม่ได้ สายเอน อาจไม่ชอบตรงจุดนี้ ด้านหลังมีที่เก็บของ ใส่กระเป๋าเดินทางได้หลายใบ เอื้อมมือจากห้องโดยสารไปหยิบของก็ได้ หรือจะเปิดแผ่นรองที่เก็บของออกเหมือนมีช่องลับใส่สัมภาระได้อีกชั้น รวมทั้งออปชั่นใหม่ Picnic Bench เบาะพับที่สามารถพับออกมาใช้นั่งบริเวณกันชนท้ายนุ่มสบาย ใช้งานได้ดีเหลือเชื่อ เวลาไม่ใช่ก็พับเก็บลงช่องสัมภาระด้านล่างเท่านั้นเอง แต่ที่ชอบที่สุดคือแผงประตูทั้ง 4 ด้านนอกจากไว้ให้คนนั่งเอาแขนวางได้แล้ว ยังมีที่ใส่แก้วน้ำทุกตำแหน่งที่นั่ง แก้วกาแฟสตาร์บัควางลงไปไม่มีไหล นี่นังไม่รวมบริเวณคอนโซนหน้าอีก 2 ช่อง มันเป็นรถที่เอนกประสงค์เอาเรื่อง แถมเย็นสบายเพราะมีแอร์ตอนหลังเป่าหน้าได้อีก อ้อเกือบลืม…คำว่า High Trim ในใบราคาย่อมมีอะไรพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นคุณสามารถเลือกสีแม็กซ์ หรือหลังคาได้ มีขาวกับดำ ติดแร็คมาให้ในตัวพร้อมรับกิจกรรมลุยๆ แถมฝาท้ายไม่ใช่แค่ปุ่มปิดอัตโนมัติอัพเดทเพิ่มความสามารถเอาเท้าแหย่ใต้กันชนเวลาคุณถือของมาเต็มมือมันเปิดให้อัตโนมัติ ปล. ต้องมีกุญแจพกติดตัวด้วย อย่างสุดท้ายที่อยากแนะนำให้เล่นคือไฟแบทแมน โลโก้มินิ ใต้กระจกมองข้างช่วยส่องลงพื้นถนนเวลาเปิดประตู Mini LOGO Projection มีประโยชน์เวลากลางคืนให้คนอื่นเห็นว่าคุณ “เปิดประตูนะโว๊ย โปรดระวัง”
ความเร็วการเดินทางตามปรกติ แต่แค่นั่นก็ทำให้ตื่นเต้นได้เพราะเสียงท่อทางตามสไตล์ค่ายนี้ดุเอาเรื่อง กระพือฟ่อๆ ขู่เพื่อนร่วมทางทุกครั้งที่กดคันเร่งลอง เผลอใจแป๊ปเดียวพุ่งไปเฉียดร้อยห้า ลองเล่นเกียร์บวกลบ เปลี่ยนได้อย่างราบรื่นตามนิ้วสั่ง แต่ถ้าจะให้สมใจอยากอาจต้องตบลงหลายเกียร์ เอาเป็นว่าใครก็รู้ว่าสมรรถนะมินิมันไม่มินิตามขนาดรูปลักษณ์เอาซะเลย ส่วนช่วงล่างที่ขึ้นชือว่าเป็น Go-kart Feeling ใช่แต่มันเป็นความดิบที่ทุกคนโหยหา เหมือนคุณได้ควบคุมรถแข่งบนชีวิตจริง แต่ถ้าหวังจะนั่งนุ่มตูดสบายหลังไปซื้อคันอื่นได้เลย มันเกาะถนน โยนโค้งได้มันกว่าใคร ให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้สุดๆ ซึ่งตัวนี้ยังไม่มีเวอร์ชั่นขับสี่มาขาย และถ้าใครอยากสนุกลองหมุนปรับช่วงล่างเป็นโหมดสปอร์ต ให้มันส์ขึ้นกว่าเดิม เผลอแป๊ปเดียวมาถึงเพชรบุรีขับไปเข้าปราณบุรีต่อกับเส้นทางธรรมชาติมีให้ลุยเบาๆ พอหอมปากหอมคอ แต่ความสูงจากพื้น “คันทรีแมน” ไม่ต้องกังวลกับเรื่องพวกนี้ ลุยได้ โดดได้ คิดแล้วเหมือนอยากจะสวมร่าง WRC มาลองแต่แค่นี้ฝุ่นตลบมองกันไม่เห็นพอแล้วจนมาถึงแลนมาร์คที่มินิตั้งใจพามาเสพบรรยากาศ ทุกคนต่างหยิบกล้องขึ้นมาหามุมชักภาพ ‘ADD STORY’ กันจนพระอาทิตย์ตก ก่อนขับเข้าสู่ใจกลางเมืองหัวหิน พร้อมฝากคำถามสุดท้ายกับคนมินิ แล้วรุ่นดีเซล SD จะมาไหม ตอบยังไม่มีแผน อยากมันส์จัดไปเบนซินบล๊อก 2.0 ลิตร twin power turbo แรงเหลือๆ
เรื่อง : ณัฐพล จิระมงคลกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th