Mini Countryman รุ่นใหม่ เจเนเรชันที่ 3 พัฒนาการทั้งขนาด ดีไซน์ และระบบขับเคลื่อน
Mini เผยโฉมรถครอสโอเวอร์ Countryman รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 3 ออกมา โดยมีการพัฒนาขึ้นทั้งด้านขนาด ดีไซน์ภายนอกและภายใน รวมทั้งระบบขับเคลื่อนที่มีรุ่นไฟฟ้าล้วนให้เลือกนอกเหนือจากเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล
Mini Countryman รุ่นใหม่ มาพร้อมกับขนาดของรถที่มีความยาว 4,433 มม. กว้าง 1,843 มม. สูง 1,656 มม. ซึ่งใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าในทุกมิติ ขณะที่ระยะฐานล้อของรถก็ยืดขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าเป็น 2,692 มม. อย่างไรก็ตามแม้รถรุ่นใหม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนทุกด้านแต่ก็มาพร้อมกับค่าสัมประสิทธิแรงต้าน 0.26 cd ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนที่มีค่าสัมประสิทธิแรงต้าน 0.31 cd
ด้านการออกแบบเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ภาษาการออกแบบใหม่ Charismatic Simplicity โดยที่ยังคงรักษาสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์จากรุ่นก่อนเอาไว้ และมีการปรับลดความโค้งลง มีเส้นสายที่คมชัดมากขึ้นบนตัวรถ ส่วนด้านหน้าของรถยังคงมีกระจังหน้า 8 เหลี่ยมอยู่แต่มีขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมแถบสีเดียวกับตัวรถที่ส่วนล่างของกระจังหน้า ขณะที่ไฟหน้า LED ปรับจากลักษณะโค้งมนมามีเหลี่ยมคมชัดเจนรวมทั้งยังถูกวางอยู่ในต่ำแหน่งสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อน
ขยับมาที่ด้านข้างของรถหลังคาในลักษณะ Floating Cap-style พื้นที่กระจกหน้าต่างในลักษณะ Circumferential Black Band และเส้น Horizontal Beltline ด้านข้างของรถยังคงอยู่ แต่เปลี่ยนมือจับเปิดประตูมาเป็นแบบ Flush Door Handle ส่วนชุดแต่งซุ้มล้อสีดำของรถมีขนาดเล็กลง ขณะที่ล้อมาตรฐานของรถมีขนาด 17 นิ้ว สำหรับไฟท้าย LED ของรถมีความเหลี่ยมมากขึ้นขนาดเล็กลง แต่กราฟฟิกรูปธง Union Jack ที่เป็นเอกลักษณ์ยังคงอยู่ โดยรถมี 4 รูปแบบการแต่งให้เลือกระหว่าง Essential, Classic, Favoured และ John Cooper Works ซึ่งจะมีสไตล์และอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน
ห้องโดยสารของรถพรีเมียมเอสยูวีรุ่นใหม่มีความเรียบง่ายมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าพร้อมกับการลดปุ่มควบคุมให้น้อยลง ใช้สิ่งทอคลุมพื้นผิวต่างๆ โดยจุดเด่นอยู่ที่จอ OLED ขนาด 9.4 นิ้วตรงกลางที่ทำหน้าที่ทั้งจอแสดงข้อมูลผู้ขับและจอ Infotainment ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Mini Operation System 9 บนพื้นฐานจาก Android พร้อมมีผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงชื่อ Spike และมี 8 Experience Mode ให้เลือกใช้ อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีจอแสดงข้อมูลผู้ขับหลังพวงมาลัย แต่ก็มีการแสดงข้อมูล Head-up Display มาให้ใช้
Countrymanใหม่มี 2 ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าให้เลือกระหว่าง E ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 8.6 วินาทีทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ทำความเร็วได้สูงสุด 170 กม./ชม. ส่วนอีกรุ่นคือ SE ALL4 ขับเคลื่อนด้วยทุกล้อ มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 494 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 5.4 วินาทีทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ทำความเร็วสูงสุดได้ 180 กม./ชม. โดยรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับแบตเตอรี 64.7 kWh ให้ระยะการเดินทาง 426 กิโลเมตรต่อการชาร์จเหมือนกัน โดยที่รองรับการชาร์จเร็ว 130 kW ทำให้ใช้เวลา 30 นาทีเพื่อชาร์จไฟจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์เมื่อชาร์จไฟจากสถานีชาร์จเร็ว ขณะเดียวกันก็รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ AC 22 kW
นอกจากระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแล้ว ยังมีรุ่นเครื่องยนต์สันดาปให้เลือก ซึ่งในส่วนของเครื่องยนต์เบนซินถูกระบุว่ามีรุ่น C ขับเคลื่อนล้อหน้า S All4 ขับเคลื่อนด้วยทุกล้อ และ JCW All4 ที่มีกำลังขับเคลื่อนมากขึ้นพร้อมกับขับเคลื่อนด้วยทุกล้อ ขณะที่ในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซลยังคงมีเป็นทางเลือก แต่ทางผู้ผลิตรถเล็กพรีเมียมจากสหราชอาณาจักรไม่ได้เปิดเผยข้อมูลออกมา
ด้านราคาของรถยังไม่มีการเปิดเผยออกมา ส่วนการผลิตรถจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2023 นี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th